ประวัติความเป็นมา “หลวงพ่อผินะ ปิยธโร” แห่ง วัดสนมลาว  อ.หนองแค จ.สระบุรี !

หลวงพ่อผินะ-ปิยธโร

จะพาคุณมารู้จักกับ พระเกจิอาจารย์ผู้เรียนวิทยาคมและมีพลังเวทย์ที่ค่อนข้างเลื่องลืออย่างมากในยุคเก่า ฉันเป็นพระยุคเก่าที่มีชื่อเสียงโด่งดังและมีอภิญญาณขั้นสูง เป็นอีกหนึ่งพระเกจิอาจารย์ที่ชาวจังหวัดสระบุรีเคารพนับถือและศรัทธาอย่างมาก ในครั้งนี้เราจะมาบอกเราถึง ประวัติความเป็นมา “หลวงพ่อผินะ ปิยธโร” แห่ง วัดสนมลาว  อ.หนองแค จ.สระบุรี ! เพื่อให้คนรุ่นหลังอย่างเราได้ทราบไปพร้อมๆกัน ณ ที่นี้ และถ้าหากอยากทราบถึงรายละเอียดกันแล้วต้องอย่ารอช้าค่ะเรามาพบกับเรื่องราวที่น่าสนใจดังต่อไปนี้กันเลย  ประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อผินะ ปิยธโร  วัดขนมลาว อ.หนองแค จังหวัดสระบุรี   สำหรับหลวงพ่อผินะ ปิยธโรแห่งวัดสนมลาวนั้น เดิมทีนั้นท่านเป็นชาวจังหวัดอุทัยธานีเกิดที่บ้านหัวลำโพงจังหวัดทัพทัน ท่านมีชื่อเก่าว่า  “ทวาย หารสาสิริกิจ” วันเกิดในช่วงปีพ.ศ 2456 ตรงกับวันที่ 1 เดือนมีนาคมเป็นวันพฤหัสบดี ปีกุน ในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 4 ท่านเป็นบุตรชายของคุณพ่อเทศ และคุณแม่ตุ้ย  หารสาสิริกิจ คุณแม่ของท่านประกอบอาชีพค้าขายส่วนคุณพ่อของท่านนั้นมีอาชีพเป็นทหารและรับราชการ อีกทั้งยังทำนาไปด้วย  ท่านมีพี่น้องทั้งหมด 5 คน (รวมตัวท่านด้วย ) ซึ่งพี่น้องของท่านมีดังนี้ ท่านเป็นพี่ชายคนโตและมีน้องชายคนถัดมาชื่อว่านายเสริมเกียรติ  หาญสาริกิจ ส่วนน้องสาวคนที่ 3 มีชื่อว่า นางสาวสุรัตน์ […]

ประวัติการสร้างเหรียญหายาก “เหรียญรูปเหมือนหลวงพ่ออี๋ รุ่นแรก ปี 2473”  วัดสัตหีบ เมืองชลบุรี

หลวงพ่ออี๋-รุ่นแรก-ปี-2473

มาทางฝั่งตะวันออกกันบ้างในครั้งนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับของดีเมืองชลบุรี เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งพระเครื่องล้ำค่าของชาวชลบุรีไม่น้อย ซึ่งเราจะมาพูดถึง ประวัติการสร้างเหรียญหายาก “เหรียญรูปเหมือนหลวงพ่ออี๋ รุ่นแรก ปี 2473”  วัดสัตหีบ เมืองชลบุรี ให้แฟนๆได้ทราบ เพราะนอกจากประวัติการสร้างแล้วเราจะพาคุณมารู้จักกับประวัติของหลวงพ่ออี๋ด้วยเช่นกันดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปพบกับเนื้อหาสาระที่น่าสนใจกันได้เลยดังต่อไปนี้ ประวัติ หลวงพ่ออี๋ พุทธสโร  ก่อนอื่นเราจะพาคุณมารู้จักกับประวัติของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งยุคสงครามอินโดจีนหรือที่ใครหลายคนอาจรู้จักกันดีในนามหลวงพ่ออี๋ พุทธสโร หรือ  “พระครูวรเวทมุนี”  ซึ่งท่านได้สร้างวัตถุมงคลเอาไว้อย่างมากมายในช่วงเวลาที่ท่านยังมีชีวิตอยู่เพื่อปกปักรักษาลูกหลานและเหล่าทหารที่ต้องร่วมรบในครั้งสงครามโลกครั้งที่สอง เดิมทีนั้นท่านเป็นชาวจังหวัดชลบุรีท่านเกิดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมในปีพ.ศ. 2408 ซึ่งเป็นวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 เป็นปีฉลูและเกิดวันอาทิตย์ ซึ่งวันคล้ายวันเกิดของท่านนั้นตรงกับในช่วงปลายยุคของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บิดาของท่านชื่อในขำ  ทองขำ และมารดาของท่านชื่อนางเอียง ทองขำ ท่านเกิดนะบ้านที่ตำบลสัตหีบอยู่ใน กิ่งอำเภอสัตหีบ ของจังหวัดชลบุรีในปัจจุบัน เมื่ออายุของท่านได้ 25 ปีบริบูรณ์ ท่านก็ได้เข้าอุปสมบท ณ วัดอ่างศิลานอก ซึ่งในครานั้นมีพระผู้เป็นพระอนุสาวนาจารย์ให้ก็คือ พระอาจารย์แดง,  มีพระกรรมวาจาจารย์คือพระอาจารย์ทิม และพระผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ก็คือพระอธิการจั่น จนฺทสโร ณ วัดเสม็ด  และได้รับฉายาว่า พุทฺธสโร  หลวงพ่ออี๋ท่านได้ศึกษาในเรื่องเวทมนตร์จากพระอาจารย์แดง ท่านเป็นสิทธิ์ที่มีความเคร่งครัด และปฎิบัติตนอยู่ในศีลธรรมอันดีเสมอ […]

ประวัติเหรียญพระล้ำค่า “เหรียญรูปเหมือน หลวงพ่อคง รุ่นแรก ปี 2484 วัดบางกระพ้อม จังหวัดสมุทรสงคราม”

เหรียญรูปเหมือน หลวงพ่อคง รุ่นแรก ปี 2484

ยังคงอยู่กันกับเรื่องราวของพระเครื่อง ซึ่งในครั้งนี้เราจะพาคุณมากันที่เมืองอัมพวาจังหวัดและแน่นอนว่าเราจะพาคุณมารู้จักกับของดีของศักดิ์สิทธิ์ล้ำค่า ณ เมืองนี้ วันนี้เราจะมาพูดถึง ประวัติเหรียญพระล้ำค่า “เหรียญรูปเหมือน หลวงพ่อคง รุ่นแรก ปี 2484 วัดบางกระพ้อม จังหวัดสมุทรสงคราม”  ที่เราได้นำเนื้อหาสาระเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของเหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อคงรวมทั้งเรื่องราวของหลวงพ่อคงด้วยเช่นกัน ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปพบกับสิ่งที่น่าสนใจพร้อมพร้อมกันเลยดีกว่า ประวัติหลวงพ่อคง วัดกระพ้อม จังหวัดสมุทรสงคราม สำหรับ หลวงพ่อคง ธมฺมโชโต หรือที่ใครหลายคนมักจะรู้จักกันดีในชื่อหลวงพ่อคง ท่านเกิดในช่วงปี พ.ศ. 2408 ณ ตำบลโรงหีบ อำเภอบางคนที ตั้งแต่ครั้งที่ท่านยังคงวัยเยาว์ท่านได้บวชเป็นสามเณรณอำเภออัมพวา ณ วัดเมืองใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรสงคราม ต่อมาเมื่ออายุได้ประมาณ 20 ปีบริบูรณ์ท่านจึงตัดสินใจอุปสมบทบวชเป็นพระ ฉายาที่ได้รับในตอนบวชก็คือ “ธมฺมโชโต” จึงเป็นชื่อที่ใครหลายคนมักจะเรียกติดปากกันอย่างเสมอมาว่าหลวงพ่อคง ธมฺมโชโต และเมื่อท่านได้บวชที่วัดนั้นท่านก็ยังคงจำพรรษาที่วัดนั้นตลอดมา ถัดมาในช่วงปีพ.ศ. 2448 ท่านก็ได้เป็นเจ้าอาวาสณวัดเมืองใหม่ซึ่งเป็นวัดที่ท่านจำพรรษาอยู่ สำหรับวัดนี้ตั้งอยู่ในตำบลบางกระพ้อม ซึ่งการได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสในครั้งนั้นชาวบ้านในตำบลนั้นต่างพากันอาราธนาให้ท่านเป็น วัดแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นวัดที่มีความเก่าแก่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณและได้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ในยุคสมัยกรุงศรีอยุธยา และได้มีการพิมพ์ประวัติของวัดแห่งนี้เอาไว้ในหนังสือ “ประวัติจังหวัดสมุทรสงคราม” ซึ่งหากใครที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถไปหาอ่านกันได้ และครั้งที่ท่านยังคงมีชีวิตอยู่ท่านก็ได้สร้างพระเหรียญรวมถึงพระเครื่องต่างๆ ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงและโด่งดังมาจนถึงปัจจุบัน ก็คงนั้นท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีวิชาอาคมแก่กล้าเป็นพระผู้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด จะมีลูกศิษย์ลูกหาและญาติโยมเคารพศรัทธาเลื่อมใสเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือผู้คนชาวจังหวัดสมุทรสงคราม และท่านยังคงประพฤติปฏิบัติตามหลักพระพุทธศาสนามาโดยตลอด และในช่วงปีพ.ศ. […]

ประวัติความเป็นมาสุดยอดพระเกจิอาจารย์สายวิปัสสนา “หลวงพ่อฤาษีลิงดำ แห่งวัดท่าซุง” จังหวัดอุทัยธานี ! 

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

พาคุณไปรู้จักกับพระเกจิอาจารย์หลายท่านจากหลายๆจังหวัดกันมาแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้พาท่านไปรู้จักกับพระยุคเก่าก่อนช่วงปี 2500 กันเป็นส่วนใหญ่ และในครั้งนี้เราจะพาคุณมาทราบถึงประวัติความเป็นมาสุดยอดพระเกจิอาจารย์สายวิปัสสนา “หลวงพ่อฤาษีลิงดำ แห่งวัดท่าซุง” จังหวัดอุทัยธานี !  กันดูบ้าง ซึ่งใครหลายคนอาจเคยได้ทราบข่าวว่าหลังจากที่ท่านได้มรณภาพไปเมื่อหลายสิบปีก่อนแต่สังขารของท่านกลับไม่ได้เน่าเปื่อยเหมือนผู้คนทั่วไป นอกจากจะสร้างความแปลกประหลาดใจให้กับพวกเราชาวพุทธแล้วในปัจจุบันสังขารของท่านยังถูกเก็บเอาไว้อยู่ณวัดท่าซุงและในครั้งนี้พวกเราจะพาคุณมารู้จักกับประวัติความเป็นมาของท่านเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปชมสิ่งที่น่าสนใจกว่าพร้อมๆกันได้เลยดังต่อไปนี้ ความเป็นมาของวัดท่าซุงหรือวัดจันทาราม จังหวัดอุทัยธานี ก่อนที่จะไปเล่าถึงประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อหรือสีลิงดำนั้นเราต้องขออนุญาตบล็อกเล่าถึงความเป็นมาของวัดท่าซุงหรือวัดจันทารามในจังหวัดอุทัยกันเสียก่อน สำหรับวัดแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นวัดที่มีความเก่าแก่มาก ซึ่งได้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนการสร้างกรุงศรีอยุธยาถึง 30 ปีซึ่งตรงกับช่วงปีพ.ศ. 1863 ซึ่งมีหลวงพ่อองค์แรกที่มีนามว่า “ปาน” ซึ่งท่านเป็นผู้สร้างวัด  ถัดมาในช่วงปีพ.ศ. 2482 วัดแห่งนี้ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา พื้นที่ของวัดจึงขยายเพิ่มเติมกว้าง 40 เมตรและมีความยาวประมาณ 80 เมตร สำหรับชื่อของวัดจันทารามนั้นถูกตั้งขึ้นเนื่องจากตั้งตามชื่อของอดีตเจ้าอาวาสที่มีนามว่าจันทร์ ซึ่งท่านเจ้าอาวาสจันทร์นั้น เดิมทีท่านได้เป็นนายทหารในช่วงยุคสมัยของพระนารายณ์มหาราชหลังจากที่ท่านกลับจากที่เชียงใหม่ก็ได้ออกตามหาภรรยาของท่านแต่เมื่อท่านไม่พบกับอดีตภรรยาของท่านท่านจึงตัดสินใจบวชที่วัดแห่งนี้ ต่อมาท่านก็เป็นสมภาร และสำหรับเหตุผลที่ทำให้ผู้คนพากันเรียกวัดแห่งนี้ว่าวัดถ้าสูงก็คือเมื่อครั้งในอดีตนั้นที่จังหวัดอุทัยธานีค่อนข้างเต็มไปด้วยป่าไม้และมีการขนส่งท่อนซุงกันอย่างมากมายและที่สำคัญคือบริเวณวัดแห่งนี้จะทำการผูกท่อนซุงต่างๆให้เป็นแพเพื่อใช้ในการล่องไปตามแม่น้ำจึงพากันเรียกว่า “วัดท่าซุง” เนื่องจากมีซุงเยอะนั่นเอง และต่อมาในสมัยที่หลวงพ่อหรือสีลิงดำท่านเป็นเจ้าอาวาส ท่านก็ได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์ปรับปรุงจากวัดที่เสื่อมโทรมให้เป็นวัดที่ใหม่ขึ้น ในปัจจุบันมีเนื้อที่ประมาณ 510 ไร่โดย 280 ไร่นั้นเป็นพื้นที่วัดและอีก 230 ไร่นั้นเป็นพื้นที่ป่า บริเวณวัดมีความร่มรื่นกว้างใหญ่ และยังคงมีนักท่องเที่ยวรวมถึงชาวไทยไปนมัสการพระกันอย่างไม่ขาดสายโดยเฉพาะในวันเทศกาลต่างๆรวมไปถึงวันปีใหม่ผู้คนมักจะไปกราบพระขอพรซึ่งหากคุณได้มีโอกาสไปที่จังหวัดอุทัยก็สามารถเข้าไปนมัสการไหว้พระทำบุญได้เช่นกัน ประวัติ “หลวงพ่อฤาษีลิงดำ แห่งวัดท่าซุง” จังหวัดอุทัยธานี สำหรับหลวงพ่อพระราชพรหมยาน หรือที่ใครๆมักจะรู้จักกันดีในนามหลวงพ่อฤาษีลิงดำ […]

เปิดประวัติสุดยอดผู้สืบทอดตำนานพระปิดตา “พระวรพรตปัญญาจารย์ (หลวงปู่เฮี้ยง) แห่งวัดป่า” เมืองชลบุรี

พระวรพรตปัญญาจารย์-หลวงปู่เฮี้ยง

หากถามถึงของดีของขลังระดับตำนานของเมืองชลบุรี เชื่อว่าใครหลายคนจะต้องนึกถึงพระปิดตาของหลวงปู่เฮี้ยงขึ้นมาทันที ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าท่านเป็นผู้สืบทอดตำนานพระปิดตาที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากแห่งยุค จึงเป็นเหตุผลที่ในครั้งนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับ เปิดประวัติสุดยอดผู้สืบทอดตำนานพระปิดตา “พระวรพรตปัญญาจารย์ (หลวงปู่เฮี้ยง) แห่งวัดป่า” เมืองชลบุรี เพราะเราเชื่อว่าท่านผู้อ่านหลายหลายท่านที่ยังไม่ทราบถึงความเป็นมาจะต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน โดยเฉพาะท่านที่เคารพศรัทธาหลวงปู่เฮี้ยงเป็นเดิมอยู่แล้ว และแน่นอนว่าวันนี้เราจะมาบอกเราให้คนที่ทราบกันอย่างละเอียด เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปพบกับเรื่องราวที่น่าสนใจกันได้เลยดังต่อไปนี้ ประวัติความเป็นมา พระวรพรตปัญญาจารย์  (หลวงปู่เฮี้ยง) สำหรับพระวรพรตปัญญาจารย์ หรือที่ใครหลายคนมักจะเรียกว่าหลวงปู่เฮี้ยง ปุณณัจฉันโท ซึ่งเดิมทีนั้นท่านชื่อว่านายกิมเฮี้ยง นาคไพบูลย์ ฉันเกิดช่วงปีพ.ศ. 2441 ในวันที่ 29 ธันวาคมซึ่งตรงกับแรมสองค่ำปีจอในวันพฤหัสบดี เดิมทีนั้นท่านเป็นคนมีเชื้อสายจีนมารดาของท่านที่นางผันและบิดาของท่านชื่อ “เร่งเซ็ง” เป็นผู้ที่มีเชื้อสายจีน หลวงปู่เฮี้ยงท่านมีพี่น้องรวมสายเลือดเจ็ดคน  ในวัยเด็กนั้นมารดาของหลวงปู่เฮี้ยงได้พาหลวงปู่เฮี้ยงไปฝากเพื่อเรียนหนังสือกับพระวินัยธรเส็ง ตั้งแต่อายุประมาณไม่เกิน 10 ขวบ ซึ่งพระอาจารย์ของท่านเป็นเจ้าอาวาสแห่งวัดหนองไม้แดงที่ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรีแต่ในปัจจุบันคือวัดราษฎร์สโมสร และหลังจากที่พระอาจารย์ของหลวงปู่เฮี้ยงได้มรณภาพลง จึงทำให้หลวงปู่เฮี้ยงต้องกลับไปช่วยบิดามารดาทำงานช่วยทางบ้าน และต่อมาเมื่ออายุได้ 20 ปีบริบูรณ์หลวงปู่เฮี้ยงก็ได้เข้าสมัครเป็นตำรวจจากนั้นก็ปลดประจำการ ซึ่งเป็นเพียงกองหนุนชั้นที่หนึ่ง ซึ่งในขณะนั้นหลวงปู่เฮี้ยงท่านอายุได้ 22 ปี ต่อมาเมื่ออายุ 23 ปีซึ่งตรงกับช่วงปีพ.ศ. 2463 หลวงปู่เฮี้ยงก็ได้ตัดสินใจเข้าพิธีอุปสมบทเพื่อบวชเป็นพระตามประเพณีนะวัดป่า (หรือวัดอรัญญิกาวาส) และพระที่เป็นพระอุปัชฌาย์ของท่านก็คือพระเขมทัสสีชลธีสมานคุณ แห่งวัดเขาบางทราย และมีพระอนุสาวนาจารคือพระปลัดชื่น ธัมมสาโร แห่งวัดป่า […]

ประวัติความเป็นมาเจ้าตำรับพญาเต่าเรือน  “หลวงปู่หลิว แห่ง วัดไร่แตงทอง” จ.นครปฐม ! 

หลวงปู่หลิว-แห่ง-วัดไร่แตงทอง

หากถามว่าใครเป็นเจ้าตำรับการสร้างเหรียญพญาเต่าเรือน เชื่อว่าใครหลายคนคงต้องตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “หลวงปู่หลิว” และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมพวกเราทีมงานส่องพระ จึงได้รวบรวมเรื่องราวของ  ประวัติความเป็นมาเจ้าตำรับพญาเต่าเรือน  “หลวงปู่หลิว อห่ง วัดไร่แตงทอง” จ.นครปฐม ! มาฝากท่านผู้อ่านกันในครั้งนี้ เพราะเราคิดว่าอาจยังมีใครหลายคนที่ค้องการถึงประวัติของท่านไม่น้อยแน่นอน ซึ่งเราจะพาคุณไปทราบถึวเรื่องราวความเป็นมาของท่านในครั้งนี้กันเลย !  ประวัติ “หลวงปู่หลิว แห่ง วัดไร่แตงทอง” จ.นครปฐม !  สำหรับหลวงปู่หลิวนั้นเดิมทีท่านมีนามว่า หลิว แซ่ตั้ง ซึ่งท่านเกิดช่วงปีพ.ศ. 2448 ในวันพฤหัสบดีที่ 7ธันวาคม ขอบครัวของท่านนั้นมีอาชีพทำไร่ทำนาหลวงปูริ้วท่านมีบิดาชื่อพ่อเต่ง  แซ่ตั้งและมีมารดาชื่อแม่น้อย แซ่ตั้ง ลืมเธอเป็นคนจังหวัดราชบุรีอยู่ที่ตำบลบ้านสิงห์ในอำเภอโพธาราม หลวงปู่หลิวท่านเป็นผู้ที่ชื่นชอบศึกษาหาความรู้มีความอดทนพยายามและมีความขยันอย่างมากท่านมีวิชาช่างจากพ่อและได้เล่าเรียนวิชาเหล่านี้จากพ่อของท่าน อีกทั้งยังออกรับจ้างเพื่อช่วยที่บ้านหาเงินตั้งแต่ยังอายุน้อยท่านช่วยแบ่งเบาภาระของบิดามารดาได้อย่างดี แต่ในบางครั้งหลวงปู่หลิวก็ไม่สบายถึงขั้นล้มป่วยเนื่องจากท่านมักจะออกเดินทางไกล และด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลวงปู่หลิวมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องยาสมุนไพรมากยิ่งขึ้น ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้วสถานที่ที่ค่อนข้างขึ้นชื่อและเรื่องหรือว่าเป็นดงนักเลงเป็นแดนของเสือนั้นอยู่ก็คือจังหวัดเพชรบุรี,สุพรรณบุรี, นครปฐม และราชบุรี  ซึ่งเป็นจังหวัดที่ครอบครัวของหลวงปู่หลิวนั้นอาศัยอยู่ และมีหลายครั้งที่ครอบครัวของท่านมักจะถูกขโมยวัวขโมยควาย จึงทำให้หลวงปู่หลิวนั้นหาวิธีที่จะปราบขโมยและปราบโจร จึงทำให้หลวงปู่หลิวท่านได้ไปขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์กับอาจารย์หม่ง ซึ่งอาจารย์เหน่งนั้นท่านเป็นจอมขมังเวทย์เป็นชาวกะเหรี่ยง ค่อนข้างมีวิชาอาคมแก่กล้า หลวงปู่หลิวใช้เวลาประมาณสามปีในการเล่าเรียนและศึกษาทางด้านอาคม  จากนั้นก็ได้เดินทางกลับไปยังถิ่นเกิด ซึ่งอาจารย์หม่งผู้ที่สอนคาถาอาคมให้กับหลวงปู่หลิวนั้นได้กำชับว่า วิชาเหล่านี้จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อถูกรังแกหรือโดนทำร้ายจนถึงที่สุด ห้ามใช้จนกว่าจะถึงที่สุด ต่อมาก็ได้เกิดเหตุการณ์รุนแรงกับครอบครัวของหลวงปู่หลิว ในครั้งนั้นมีโจรเข้ามาปล้นขึ้นบ้านของครอบครัวท่าน หลวงปู่หลิวจึงขับไล่พวกโจรเหล่านั้นด้วยวิชาควายธนู และเหตุการณ์นั้นก็ทำให้ผู้คนต่างร่ำลือถึงว่าหลวงปู่หลิวสามารถปรับโจรผู้ร้ายได้ ทำให้ชื่อเสียงของท่านแพร่หลายออกไปทั่วเมือง […]

ประวัติความเป็นมา “หลวงปู่บุญ  ขนฺธโชติ วัดกลางบางแก้ว” พร้อมวัตถุมงคลหายากที่ใครๆก็ตามหา ! 

“หลวงปู่บุญ  ขนฺธโชติ วัดกลางบางแก้ว”

หากเอ่ยถึงยาจินดามณีล่ะก็ เชื่อว่าเหล่าผู้นิยมสะสมพระเครื่องจะต้องนึกถึงชื่อของ หลวงปู่บุญแห่งวัดกลางบางแก้ว ขึ้นทันทีมาอย่างแน่นอน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเราทีมงานได้รวบรวม ประวัติความเป็นมา “หลวงปู่บุญ  ขนฺธโชติ วัดกลางบางแก้ว” พร้อมวัตถุมงคลหายากที่ใครๆก็ตามหา !  มาฝากคุณกันในครั้งนี้ ซึ่งแน่นอนว่ารายละเอียดที่เราได้นำมาฝากกันนี้ รับรองได้ว่าละเอียเจริงๆค่ะท่านผู้อ่าน และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามารู้ตักกับเรื่องราวของท่านไปพร้อมๆกันดีงต่อไปนี้เลยดีกว่า !  ประวัติหลวงปู่บุญ ขนฺธโชติ วัดกลางบางแก้ว สำหรับพระพุทธวิถีนายกหรือ หลวงปู่บุญ ขนฺธโชติ แห่งวัดกลางบางแก้วนั้น เดิมทีท่านเป็นคนจังหวัดสมุทรสาครเกิดที่อำเภอกระทุ่มแบน ณ ตำบลท่าไม้ ท่านเกิดในช่วงปีพ.ศ. 2391 เป็นวันที่ 3 กรกฎาคม ซึ่งช่วงปีที่ท่านเกิดนั้นเป็นช่วงยุคปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเก้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่3) ซึ่งท่านมีพี่น้องทั้งหมดหกคนและท่านเป็นลูกชายคนโตของบิดามารดา. มารดาของท่านชื่อนางลิ้นและบิดาของท่านชื่อในเส็ง ครั้งหนึ่งในวัยเด็กท่านได้เคยเป็นไข้อย่างหนักถึงขั้นสลบหมดสติ จนทำให้บิดาและมารดาของท่านคิดว่าหลวงปู่บุญนั้นท่านเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งครอบครัวของท่านเตรียมนำท่านไปทำพิธีฝังศพ แต่เหตุการณ์ที่น่าแปลกประหลาดก็คือท่านกลับฟื้นขึ้นมาได้ ซึ่งสมกับน้ำของท่านที่มีชื่อว่า “บุญ”  ต่อมาเมื่อบิดาของหลวงปู่บุญได้เสียชีวิต ก็ทำให้ป้าของท่านนั้นพาท่านไปฝากไว้กับพระปลัดทองแห่งวัดคงคาราม (เป็นวัดกลางบางแก้วในปัจจุบัน) ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอนครชัยศรี และเมื่อหลวงปู่บุญอายุได้ 15 ปีก็เข้าบวชเป็นสามเณร และต่อมาเมื่ออายุครบบวชท่านก็ได้เข้ารับการอุปสมบทในช่วงปีพ.ศ. 2412 ในวันที่ 21 มิถุนายน โดยมีพระอุปัชฌาย์ก็คือพระปลัดปาน แห่งวัดตุ๊กตา […]

ประวัติที่มาพระมหาเถราจารย์ แห่งแดนใต้ “พระครูอรรถธรรมรส (พ่อท่านซัง)” แห่งวัดวัวหลุง !

พระครูอรรถธรรมรส-พ่อท่านซัง

สำหรับวัตถุมงคลล้ำค่าจากเมืองใต้นั้นมีหลายอย่าง อีกทั้งทางดินแดนใต้นั้นก็ค่อนข้างมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังมากมายที่ใครหลายคนมักจะนึกถึงและในครั้งนี้เราจะพาคุณมาทราบถึง ประวัติที่มาพระมหาเถราจารย์ แห่งแดนใต้ “พระครูอรรถธรรมรส (พ่อท่านซัง)” แห่งวัดวัวหลุง ! เนื่องด้วยเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าพ่อท่านซังsinvหลวงพ่อซังนั้น ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในยุคเก่าอย่างมาก หากนับระยะเวลาของการมรณภาพของท่านแล้วก็นับเป็นร้อยปีเห็นจะได้ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเหรียญของท่านจึงยังคงเป็นที่กล่าวถึงอย่างมาก อาจเนื่องด้วยพุทธคุณที่มีความเข้มแข็งอย่างมากและแน่นอนว่าเป็นเพราะอายุของเหรียญที่ค่อนข้างมีความเก่าแก่ ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราจะพาคุณได้ทราบถึงรายละเอียดต่างๆพร้อมๆกันดังต่อไปนี้  ประวัติ “พ่อท่านซัง สุวรรณโณ” สำหรับประวัติความเป็นมาของพระครูอรรถธรรมรส หรือหลวงพ่อซัง หรือที่ใครหลายคนมักจะรู้จักกันดีและมักจะเรียกท่านว่าพ่อท่านซัง สุวรรณโณ  นั้น เดิมทีท่านเป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราชชื่อเก่าของท่านคือ นาย ซัง ศักดาวุธ ท่านเกิดในช่วงปีพ.ศ. 2394 วันที่ 6 มกราคม ซึ่งตรงกับปีกุลในขณะนั้นและเกิดในวันอังคารซึ่งตรงกับขึ้น 15 ค่ำ ท่านมีพี่สาวสองคนชื่อว่านางแก้วและนางรอด และท่านเป็นบุตรคนสุดท้องของบิดามารดา มารดาของท่านมีชื่อว่านางส้ม ศักดาวุธ และบิดาของท่านชื่อว่าขุนวิน ศักดาวุธ ท่านเกิด ณ บ้านพัง ตำบลควนพัง ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอร่อนพิบูลย์ ของจังหวัดนครศรีธรรมราช และท่านเป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราชโดยกำเนิด เมื่ออายุของท่านได้ 11 ปีท่านก็ได้มีโอกาสเล่าเรียนและศึกษาทางด้านอักษรของสำนักท่านอาจารย์นาค ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสของวัดพังในขณะนั้น และต่อมาในขณะที่ท่านมีอายุได้ประมาณ 13 ปีท่านก็ได้มีโอกาสไปเล่าเรียนและศึกษาต่อที่สำนักของอุปัชฌาย์รักษ์ ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอร่อนพิบูลย์ที่ตำบลควนชุมของจังหวัดนครศรีธรรมราชเช่นกัน […]

ประวัติความเป็นมาของพระอริยะที่ชาวจังหวัดลพบุรี เคารพศรัทธาอย่างมาก  “หลวงพ่อเภา พุทธสโร” วัดถ้ำตะโก! 

พระอริยะที่ชาวจังหวัดลพบุรี

หากมีใครถามถึงพระผู้ปฏิบัติอันเป็นที่ได้รับความเคารพเลื่อมใส ของชาวจังหวัดลพบุรีนั้นเชื่อว่าคงจะมีชื่อของหลวงพ่อเภา แห่งวัดถ้ำตะโก ติดเป็นอันดับต้นๆอย่างแน่นอน และในวันนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับ ประวัติความเป็นมาของพระอริยะที่ชาวจังหวัดลพบุรี เคารพศรัทธาอย่างมาก  “หลวงพ่อเภา พุทธสโร” วัดถ้ำตะโก! ซึ่งเราจะมาบอกเล่าถึงประวัติความเป็นมาของท่านให้คนรักพระอย่างคุณได้ทราบ ซึ่งหลวงพ่อเภานั้นท่านได้รับการยกย่องจากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตและหลวงปู่ชา สุภัทโท ว่าท่านคือพระแท้องค์หนึ่งในประเทศไทย อย่างไรก็ตามหากคุณอยากทราบกันแล้วว่ารายละเอียด ที่น่าสนใจในบทความนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง  ต้องอย่ารอช้าค่ะเรามาพบกับสิ่งที่น่าสนใจไปพร้อมๆกันได้เลยดังต่อไปนี้   ประวัติความเป็นมาของ หลวงพ่อเภา พุทธสโร  แห่งวัดถ้ำตะโก จังหวัดลพบุรี  สำหรับพระครูพุทธสราจารย์ หรือหลวงพ่อเภา พุทธสโร นั้น ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติที่มีความเคร่งครัด พูดถึงพร้อมด้วยศีลาจารวัตรอันงดงามอัน เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับพระภิกษุสงฆ์และสามเณรทั้งหลาย ซึ่งครั้งหนึ่งหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ฉันไม่เคยกล่าวชมหลวงพ่อเภากับหลวงปู่ชา สุภัทโทเอาไว้ประมาณว่า “หลวงพ่อเภานั้นท่านเป็นพระที่ดี เป็นพระแท้องค์หนึ่งของประเทศไทยเลย”  หลวงพ่อเภานั้นท่านเกิดในช่วงปีพ.ศ 2415 ในวันอังคารเดือน 6 ซึ่งตรงกับปีวอก  เดิมทีนั้นท่านเกิดที่จังหวัดนครสวรรค์อำเภอพยุหะคีรีที่บ้านใต้วัดอินทาราม  (หรือผู้คนในสมัยก่อนจะเรียกกันว่าบ้านพายุเด่น ) ท่านเป็นบุตรชายคนที่ 2ของคุณพ่อขำและคุณแม่แสง และมีพี่น้องร่วมสายเลือดทั้งหมด 4 คน (รวมตัวท่าน)    เมื่อครั้งเยาว์วัยขณะที่ท่านอายุได้ประมาณ 6 ขวบ คุณพ่อของท่านก็ได้นำท่านให้ไปศึกษาเล่าเรียนและฝากตัวอยู่กับทางวัด ซึ่งคุณพ่อได้ฝากท่านไว้กับพระอธิการคง […]

ประวัติพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าผู้ทรงวิทยาคม แห่งวัดโบสถ์โก่งธนู เมืองลพบุรี “หลวงพ่อพริ้ง มณีธาโน” ! 

พระเกจิอาจารย์ยุคเก่าผู้ทรงวิทยาคม-แห่งวัดโบสถ์โก่งธนู-เมืองลพบุรี

ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าที่ผู้คนชาวลพบุรีต่างเคารพศรัทธากันเป็นอย่างมาก สำหรับหลวงพ่อพริ้ง มณีธาโน ซึ่งท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงก่อนยุคพ.ศ 2500 เป็นผู้ทรงวิทยาคม มีวิชาอาคมแก่กล้าจนเป็นที่เลื่องลือ ในครั้งนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับ ประวัติพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าผู้ทรงวิทยาคม แห่งวัดโบสถ์โก่งธนู เมืองลพบุรี “หลวงพ่อพริ้ง มณีธาโน” !   เราเชื่อว่าเหล่าบรรดาคนชอบพระจะต้องถูกใจกันอย่างแน่นอน ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปพบกับสาระที่น่าสนใจในครั้งนี้พร้อมๆกันได้เลยดังต่อไปนี้ค่ะ   ประวัติของ  หลวงพ่อพริ้ง มณีธาโน” วัดโบสถ์โก่งธนู จังหวัด ลพบุรี  สำหรับพระครูประสาทวรคุณหรือที่ใครหลายคนรู้จักท่านในนามหลวงพ่อพริ้ง มณีธาโน นั้นเดิมที่ท่านมีชื่อว่า  พริ้ง เพ็งเพชร์ ท่านเกิดในช่วงปีพ.ศ 2443 ตรงกับวันศุกร์ที่ 2 เดือนพฤศจิกายนเป็นปีชวด ซึ่งเป็นวันขึ้น 11 ค่ำเดือน 12  ท่านเป็นชาวจังหวัดลพบุรีโดยกำเนิดเกิดที่บ้านคุ้งนามอญ ซึ่งตั้งอยู่ในตำบลโก่งธนู เป็นบุตรชายของคุณพ่อดึก และคุณแม่แสง เพ็งเพชร์ หลวงพ่อพริ้งท่านมีพี่น้องร่วมสายเลือด  ทั้งหมด 6 คน ซึ่งหลวงพ่อท่านเป็นพี่ชายคนโต  มีน้องสาวชื่อว่านางผลบ ไข่หงส์ มีน้องชายชื่อว่านายกรู่เพลงรอด,นายโหน่งเพลงรอด, นายบ่าย เพ็งรอด และน้องสาวคนสุดท้องของท่านชื่อว่านางสาวสาคร เพ็งรอด ซึ่งต่อมาภายหลังหลวงพ่อพริ้งท่านก็ได้เปลี่ยนนามสกุลตามน้องชายของท่าน ที่ชื่อนายกรู่ซึ่งเป็นผู้ต้นคิดในการเปลี่ยนนามสกุลมาเป็น […]