ส่องประวัติความเป็นมาสุดยอดพระเกจิอาจารย์ เจ้าตำรับเหรียญต่อเส้นวาสนา “หลวงปู่ลอง สิริธโร ” วัดวิเวกวายุพัด !

หากมีใครเอ่ยถึงเจ้าตำรับแห่งการตอกเส้นวาสนาและ ว่าวจุฬายกดวง แน่นอนว่าใครหลายคนย่อมคิดถึงหลวงปู่ลองแห่งวัดวิเวกวายุพัดขึ้นมาทันที จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ครั้งนี้เราจะพาคุณไป ส่องประวัติความเป็นมาสุดยอดพระเกจิอาจารย์ เจ้าตำรับเหรียญต่อเส้นวาสนา “หลวงปู่ลอง สิริธโร ” วัดวิเวกวายุพัด ! ซึ่งแน่นอนว่าในครั้งนี้เราจะพาคุณไปทราบถึงประวัติคร่าวๆของหลวงปู่ลอง และเชื่อว่าใครหลายคนอาจยังไม่เคยทราบว่าท่านคือหลานแท้ๆของหลวงปู่พริ้งแห่งวัดบางปะกอก ซึ่งท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังย่านฝั่งธนฯในช่วงยุคสงครามอินโดจีนอีกหนึ่งท่าน ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปพบกับเรื่องราวที่น่าสนใจพร้อมๆกันได้เลยดังต่อไปนี้ ประวัติ “หลวงปู่ลอง สิริธโร” วัดวิเวกวายุพัด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำหรับหลวงปู่ลองนั้นท่านเป็นทั้งลูกศิษย์และเป็นหลานแท้ๆ ของหลวงปู่พริ้งแห่งวัดบางปะกอก ซึ่งหลวงปู่พริ้งนั้นท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในช่วงยุคสมัยสงครามอินโดจีน ที่เรียกได้ว่าเป็นที่พึ่งทางใจของเราบรรดาประชาชนที่กำลังเผชิญกับภาวะสงครามในช่วงนั้นอย่างมาก สำหรับหลวงปู่ลอง สิริธโรนั้น ชื่อเดิมของท่านคือนายประลอง วรรณสว่าง ท่านเกิดในช่วงปีพ.ศ 2474 ซึ่งตรงกับปีมะแมในวันที่ 11 กันยายนเดิมทีท่านเป็นชาวบางปะกอกซึ่งอยู่ในเขตราษฎร์บูรณะ ของจังหวัดกรุงเทพมหานครในปัจจุบันแต่ครั้งในอดีตเป็นจังหวัดธนบุรี ครอบครัวของหลวงปู่ลองนั้นเรียกได้ว่าเป็นครอบครัวที่ค่อนข้างฐานะดีซึ่งมีอาชีพทำนา แต่เดิมแล้วครอบครัวของท่านค่อนข้างมีความผูกพันและศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างมาก เนื่องจากหลวงปู่พริ้ง อินทโชตินั้นค่อนข้างเอ็นดูท่านเป็นพิเศษ และมักจะคลุกคลีอยู่กับหลวงปู่พริ้งจนได้มีโอกาสบวชเรียนตั้งแต่ครั้งยังเป็นเด็ก เนื่องจากหลวงปู่ลองนั้นมีศักดิ์เป็นหลานของหลวงปู่พริ้ง ตามที่เราได้เล่าให้ฟังกันไปตั้งแต่เบื้องต้น หลวงปู่ลองท่านจึงถูกฝังให้อยู่ในศีลธรรมตั้งแต่ยังเยาว์ เมื่อเติบโตมาหลวงปู่ลองท่านก็ได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนทางด้านภาษาไทยและภาษาบาลีจนมีความแตกชั้น อีกทั้งยังได้ฟังเทศน์ฟังธรรมอยู่เสมอ และมีความชอบทางด้านวิทยาคมรวมถึงมีความสนใจในเรื่องของวิปัสสนากรรมฐานเป็นเดิมอยู่แล้ว เมื่อได้มีโอกาสเล่าเรียนท่านจึงมีความพยายามและจริงจังกับการศึกษาทางด้านนี้อย่างมาก นอกจากนี้หลวงปู่พริ้งยังได้ถ่ายทอดวิชาทางด้านวิทยาคมให้กับหลวงปู่ลองอย่างเต็มที่ด้วยเช่นกัน หลวงปู่ลองมักจะออกเดินธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆเพื่อแสวงหาความเงียบสงบและปฏิบัติ นอกจากนี้ยังเป็นผู้ใฝ่เรียนใฝ่รู้และมักจะแสวงหาความรู้อยู่ตลอดเวลาเช่นกัน ครั้งหนึ่งท่านได้มีโอกาสพบกับหลวงพ่อโอภาสี อาศรม บางมด เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์และได้ศึกษาเล่าเรียนกับหลวงพ่อท่านจนสามารถปฏิบัติได้จริงถัดมาในเวลาไม่นานท่านก็ได้ลาสิกขา เพื่อทำหน้าที่รับใช้ชาติเพื่อสึกออกมาเป็นทหารซึ่งในขณะนั้นตรงกับยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 […]
ตำนานบรมครูแห่งสุดยอดพระเกจิในไทย “หลวงปู่เทพโลกอุดร” !

เชื่อว่าหากกล่าวถึงผู้เป็นบรมครูแห่งพระเกจิอาจารย์ในเมืองไทยทั้งหลายแล้วละก็หลายคนอาจจะนึกถึงนามหลวงปู่เทพโลกอุดรขึ้นมาทันที แต่ก็เชื่อว่ายังคงมีอีกหลายคนที่ไม่รู้จักมากนัก จึงเป็นเหตุผลที่ในวันนี้เราจะมาพูดถึง ตำนานบรมครูแห่งสุดยอดพระเกจิในไทย “หลวงปู่เทพโลกอุดร” ! ซึ่งเราจะมาบอกเล่าเกี่ยวกับตำนานของหลวงปู่เทพโลกอุดรให้คุณได้ทราบ เป็นเรื่องเล่าที่ได้ถูกถ่ายทอดออกมาในหลายๆรุ่นและมีผู้คนเล่าขานต่อๆกันมา หากอยากทราบกันแล้วว่าเนื้อหาความเป็นมานั้นจะน่าสนใจมากน้อยเพียงใดต้องอย่ารอช้าค่ะ เรามาชมไปพร้อมๆกันได้เลยดังนี้ “หลวงปู่เทพโลกอุดร” สำหรับหลวงปู่เทพโลกอุดรหรือที่บางท่านอาจจะรู้จักท่านในนามหลวงปู่ใหญ่ ซึ่งท่านผู้นี้เป็นพระภิกษุที่อยู่ในตำนาน มักมีผู้กล่าวถึงการเป็นอย่างมาก เชื่อกันว่าท่านคือพระผู้คอยแนะนำแนวทางในการปฏิบัติธรรมมาในหลายยุคหลายสมัย ตามตำนานนั้นมีความเชื่อกันว่าท่านเป็นพระอุตรเถระ ที่เดินทางมาไกลเพื่อมาเผยแผ่พระพุทธศาสนา หลายคนเชื่อกันว่าท่านคือพระอรหันต์ที่ยังไม่ได้ดับขันธ์ ซึ่งจะใช้วิธีในการเจริญญาน รวมถึงอิทธิบาท 4 ในการต่ออายุ ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือและเกื้อหนุนพระพุทธศาสนาให้ยาวนานมาถึงในยุคปัจจุบัน ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นจริงตำนานที่ถูกเล่าขานต่อๆกันมามิได้มีอยู่ในหลักฐานทางประวัติศาสตร์หรือในพระไตรปิฎกแต่อย่างใด และหลายคนเชื่อกันว่าท่านคือพระบรมครูครองเกจิอาจารย์ชื่อดังทั้งหลายในประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งเรื่องเล่าของหลวงปู่โลกอุดรนี้เป็นเรื่องราวที่ถูกเล่าต่อกันมานานกว่า 60 ปีแล้ว มีเรื่องราวที่เล่าเกี่ยวกับการพบเจอท่านอันได้แก่ ได้พบท่านในนิมิตร หรือบ้างก็บอกว่าได้ใส่บาตร รวมทั้งได้ฟังคำสั่งสอนเทศนาของหลวงปู่ แต่ผู้คนมักจะเห็นความต้องการว่าท่านเป็นพระภิกษุที่ไร้ร่องรอยของการมาเป็นพระภิกษุลี้ลับที่ไม่มีใครทราบถึงประวัติอันแท้จริง ซึ่งจะปรากฏกายได้ในแทบทุกแบบและเชื่อกันว่าท่านมีอายุยาวนานถึงหลายร้อยหลายพันปีกันเลยทีเดียว ซึ่งอายุนานมากถึงไม่สามารถคำนวณหรือนับอายุได้กันเลย และการเทียบท่านในนามนี้ก็เป็นเพียงชื่อสมมุติเท่านั้นแต่แท้จริงแล้วก็มิเคยมีใครรู้จักถึงนามที่แท้จริงของท่านว่าชื่ออะไรหรือท่านเป็นใคร มีหลากหลายข้อมูลที่ได้มีการสันนิษฐานเกี่ยวกับหลวงปู่โลกอุดรพรุ่งนี้เอาไว้อย่างมากมาย ในบางข้อมูลกล่าวว่าท่านคือพระภิกษุที่เป็นรูปสุดท้ายที่พระพุทธองค์ ท่านได้ทรงประทานเอหิภิกขุอุปปสัมปทา ให้อย่างโดยตรง รวมถึงมีพระพุทธบัญชาให้ท่านทำหน้าที่ในการรักษาพระพุทธศาสนาให้อยู่ครบถ้วนถึงเป็นระยะเวลา 5,000 ปี ในบางข้อมูลก็ได้มีการสันนิษฐานเอาไว้ว่า หลวงปู่โลกอุดรพรุ่งนี้ท่านอาจเป็นพระอุปคุตเถระ ผู้มีอภิญญาสมาบัติสูง และได้รับพุทธบัญชาเพื่อให้ทำหน้าที่ในการดูแลพระพุทธศาสนาให้อยู่ยาวนานถึง 5,000 ปีจึงจะได้เข้านิพพาน ซึ่งแม้ในยุคปัจจุบันนี้จะเป็นปีพ.ศ 2561 แล้วก็ตาม ทางภาคเหนือของประเทศไทยเราที่มีชายแดนติดกับประเทศพม่านั้น ผู้คนทางท้องถิ่นฝั่งนั้นตั้งแต่ชาวไทยใหญ่ […]
ประวัติ “หลวงพ่อเดิม แห่งวัดหนองโพ” และที่มาของมีดหมออันลือชื่อ !

หากมีใครกำลังมองหามีดหมอสุดขลังเชื่อว่าใครหลายคนจะต้องนึกถึงมีดหมออันหรือชื่อของหลวงพ่อเดิมแห่งวัดหนองโพกันอย่างแน่นอน ซึ่งเราเชื่อว่าชาวนครสวรรค์คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักท่านจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้วันนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับ ประวัติ “หลวงพ่อเดิม แห่งวัดหนองโพ” และที่มาของมีดหมออันลือชื่อ ! พร้อมจะมาเล่าถึงประวัติความเป็นมาและที่มาของมีดหมอของท่านให้คุณทราบ ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปพบกับข้อมูลที่น่าสนใจดังต่อไปนี้กันเลยดีกว่า ประวัติหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จังหวัดนครสวรรค์ สำหรับท่านใดที่ยังไม่เคยทราบถึงประวัติความเป็นมาของ พระครูนิวาสธรรมขันธ์ หรือที่เราๆหลายคนมักจะรู้จักท่านกันดีในนาม หลวงพ่อเดิม พุทธสโร ท่านคือพระเกจิอาจารย์ชื่อดังเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวจังหวัดนครสวรรค์และผู้คนชาวภาคกลาง และเชื่อว่าชาวไทยที่เป็นพุทธศาสนิกชนนั้นเคารพศรัทธาท่านแทบจะทั่วทั้งประเทศกันเลยก็ว่าได้ ในสมัยที่หลวงพ่อเดิมท่านยังมีชีวิตอยู่นั้นท่านได้สร้างวัตถุมงคลเอาไว้อย่างมากมายเพื่อมอบให้กับลูกศิษย์ลูกหาที่อยู่ใกล้ชิดรวมถึงญาติโยมเอาไว้ปกปักรักษาคุ้มครองภัย และท่านผู้เป็นคนสร้างมีดหมออันหรือชื่อ ที่ผู้คนในยุคนี้ยังคงถามถึงและใฝ่ฝันที่จะมีไว้ในครอบครองบูชากันอย่างเสมอมา แต่นอกจากมีดหมอแล้วก็ยังมีวัตถุมงคลอื่นๆที่ยังคงได้รับความนิยมสูงและมีราคาสูงด้วยเช่นกัน ท่านเป็นสุดยอดพระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่เกิดในยุคของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ปีเกิดของท่านตรงกับปีพ.ศ 2403 ซึ่งท่านเกิดในวันที่ 6 เดือนกุมภาพันธ์ ท่านเป็นลูกชายของคุณพ่อเนียมและคุณแม่ภู่ ภู่มณี เมื่อครั้งที่ท่านยังเป็นเด็กท่านใดมีโอกาสร่ำเรียนอยู่ที่วัดหนองโพในจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งท่านได้เล่าเรียนกับหลวงตาชม ผู้เป็นพระอาจารย์ของท่าน จากนั้นเมื่อตรงกับช่วงปี 2423 ท่านก็อายุมากและโตพอที่จะบวชเป็นพระได้ ท่านก็ได้เข้าอุปสมบทบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ที่วัดเขาแก้วซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอพยุหะคีรีซึ่งอยู่ในจังหวัดนครสวรรค์นั่นเอง โดยพระผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ให้กับท่านก็คือหลวงพ่อแก้ว แห่งวัดอินทารามหรือวัดใน ส่วนพระผู้เป็นพระกรรมวาจาจารย์ให้กับการบวชของท่านก็คือหลวงพ่อเงิน แห่งวัดพระปรางค์เหลือง และสำหรับพระผู้เป็นพระอนุสาวนาจารย์ให้กับท่านก็คือหลวงพ่อเทศ แห่งวัดสระทะเล ซึ่งท่านได้รับฉายาทางธรรมว่า “พุทธสโร” ที่ทำให้เรารู้จักท่านในนามแห่งนี้ เมื่อบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์แล้วท่านก็ได้มาจำพรรษาอยู่ ณ วัดหนองโพ ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดนครสวรรค์ใกล้กับบ้านเกิดของท่าน ด้วยความที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจเรียนเป็นผู้ใฝ่เรียนใฝ่รู้จึงทำให้ท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัยรวมไปถึงทางด้านพระคัมภีร์วินัย ท่านมีความต้องอกตั้งใจเรียนดีมาก อีกทั้งยังได้มีโอกาสร่ำเรียนวิชาทางด้านวิทยาคมกับพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงอีกหลายท่านในยุคนั้น รวมไปถึงได้มีโอกาสร่ำเรียนกับฆราวาสที่มีความเชี่ยวชาญในด้านศาสตร์ต่างๆ […]
ส่องประวัติความเป็นมาของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน !

หากมีใครถามถึงพระนักปฏิบัติที่มีปฏิปทาอันแน่วแน่ ที่ครองใจคนไทยทั้งชาติ แห่งยุคปี 2500 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน เชื่อว่าหนึ่งในนั้น จะต้องมีชื่อของหลวงตามหาบัวอยู่ในใจของใครหลายคนอย่างแน่นอน ซึ่งในครั้งนี้เราจะพาคุณมา ส่องประวัติความเป็นมาของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ! เพื่อทราบถึงประวัติคร่าวๆของหลวงตามหาบัวที่พวกเราเคารพศรัทธา ในครั้งนี้เราจะมาบอกเล่าให้คุณได้ทราบตั้งแต่ในช่วงวัยเด็กของท่าน ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาหากอยากทราบกันแล้วว่าเนื้อหาสาระ และรายละเอียดในเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นต้องอย่ารอช้าค่ะ เอามาชมประวัติของหลวงตามหาบัวไปพร้อมๆกันได้เลยดังต่อไป ประวัติหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน สำหรับพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือที่เราๆมักจะเรียกท่านในนามของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน นั้น เป็นที่ทราบกันดีว่าท่านเป็นพระนักปฏิบัติที่ไม่สร้างวัตถุมงคลใดๆ และมุ่งเน้นเพียงการปฏิบัติเท่านั้น สำหรับหลวงตามหาบัวนั้นท่านได้เกิดในช่วงปีพ.ศ 2456 ซึ่งตรงกับวันอังคารที่ 12 สิงหาคม เป็นวันที่ตรงกับวันขึ้น 11 ค่ำเดือน 9 ในปีฉลู ท่านเป็นบุตรชายของคุณพ่อทองดีและคุณแม่แพง และมีชื่อว่า “บัว” นามสกุลโลหิตดี ครอบครัวของท่านประกอบอาชีพชาวนาและทำนา มีเรื่องเล่าตั้งแต่ครั้งที่หลวงตาท่านยังเด็กจากคุณแม่ของหลวงตา ซึ่งท่านได้เล่าไม่กับครอบครัวและหมู่ญาติฟังว่า โดยปกติแล้วเด็กทารกที่อยู่ในท้องของแม่ เมื่อเติบโตหรือมีอายุหลายเดือนมากขึ้นก็มักจะต้องดิ้นเพื่อให้ผู้เป็นแม่รู้สึกบ้าง แต่กับแปลกตรงที่ หลวงตาท่านมีความเงียบผิดปกติ จนในหลายๆครั้งคุณแม่ของหลวงตาก็มักจะคิดว่าหลวงตายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่เมื่อถึงเวลาที่นึกจะดิ้น ก็ดิ้นจนคุณแม่ท่านรู้สึกเจ็บท้อง ถึงคราวที่ใกล้จะคลอดคุณแม่เจ็บท้องอยู่ประมาณ 3 วันแต่ก็ไม่คลอดออกมาสักที เรียกได้ว่าเป็นการเจ็บท้องที่รุนแรงไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อดินเสร็จแล้วก็หายเงียบไปจนคุณแม่ก็มักจะคิดอีกว่าไม่ใช่ตายไปแล้วหรือ แต่สักครู่ก็จะกลับมาดิ้นอีกครั้ง ครั้งหนึ่งคุณตาของหลวงตามหาบัว […]
ประวัติความเป็นมาของสุดยอดพระเกจิอาจารย์แห่งเมืองสุรินทร์ “พระครูปราสาทพรหมคุณ (หลวงปู่หงษ์ ) แห่ง วัดเพชรบุรี ”

จะพาคุณมารู้จักกับสุดยอดพระเกจิอาจารย์ของทางฝั่งอีสานใต้กันบ้าง และในครั้งนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับ ประวัติความเป็นมาของสุดยอดพระเกจิอาจารย์แห่งเมืองสุรินทร์ “พระครูปราสาทพรหมคุณ (หลวงปู่หงษ์ ) แห่ง วัดเพชรบุรี” ซึ่งถึงแม้ว่าหลวงปู่ท่านจะได้มรณภาพลงไปหลายปีแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าลูกศิษย์ลูกหาจะลืมเลือนแต่อย่างใด อีกทั้งในปัจจุบันนั้นพระเครื่องและรางของขลังที่ท่านได้เคยสร้างไว้ตั้งแต่สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ยังคงมีผู้คนเสาะแสวงหากันอยู่อย่างไม่ขาดสาย ทั้งยังเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าหากใครอยากห้อยพระของท่านจะต้องไม่ดื่มสุราหรือของมึนเมา หรือหากจะดื่มก็ไม่ต้องห้อย นอกจากนี้ยังค่อนข้างหรือชื่อในเรื่องของพุทธคุณที่แสนศักดิ์สิทธิ์และครั้งแบบสุดๆอีกด้วย หากอยากทราบรายละเอียดที่น่าสนใจนี้กันแล้ว ต้องอย่ารอช้าค่ะรอไปชมพร้อมๆกันได้เลยดังต่อไปนี้ ประวัติ “พระครูปราสาทพรหมคุณ (หลวงปู่หงษ์ ) แห่ง วัดเพชรบุรี” สำหรับพระครูประสาทพรหมหรือที่ใครหลายคนมักจะรู้จักกันดีในนามของหลวงปู่หงษ์ แห่งสุสานทุ่งมน งั้นเดิมทีท่านมีชื่อว่าสุวรรณหงษ์ จะมัวดี เกิดในช่วงปีพ.ศ. 2461 ซึ่งท่านเกิดวันเสาร์ที่ 23 เดือนมีนาคม ที่หมู่บ้านทุ่งมนซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอปราสาทของจังหวัดสุรินทร์ประเทศไทยเรานี้ ในยามที่ท่านเป็นเด็ก เมื่อครั้งที่ท่านยังเด็กท่านได้ศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่โรงเรียนวัดอุทุมพรนะบ้านทุ่งมนจนจบชั้นประถมศึกษาปีที่สี่ ต่อมาเมื่ออายุได้ประมาณ 18 ปีมารดาของหลวงปู่หงษ์นั้นท่านก็ได้ขอให้หลวงปู่หงษ์บวช เนื่องจากในช่วงที่หลวงปู่หงษ์ท่านเป็นวัยรุ่นนั้นค่อนข้างมีอารมณ์ร้อนจึงกลัวจะมีเรื่องมีราวและกลัวว่าท่านจะเกเร และหลวงปู่หงษ์ก็ได้ทำตามคำขอของมารดาอย่างไม่ขัดอันใด แต่หลวงปู่หงษ์มีความตั้งใจว่าจะบวชเพียงแค่เจ็ดวันเท่านั้น แต่เมื่อได้บวชแล้วก็เกิดความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาจึงทำให้ท่านบวชเรื่อยมาจนอายุถึง 20 ปี เมื่ออายุได้ 20 ปีหลวงปู่หงษ์ก็ได้เข้าพิธีอุปสมบท อยู่ที่อำเภอปราสาทของจังหวัดสุรินทร์ซึ่งท่านบวช ณ วัดเพชรบุรีที่ตั้งอยู่ในตำบลทุ่งมน ซึ่งพระที่เป็นพระอุปัชฌาย์ให้ท่านก็คือพระอาจารย์แป้น และท่านก็ได้รับฉายาทางถามว่า “พรหมปัญโญ” ซึ่งมีความหมายว่าผู้ที่มีปัญญาดุจพรหม เรียกได้ว่าเป็นชื่อที่มีความไพเราะและมีความหมายอันงดงามอย่างยิ่ง […]
อัตชีวประวัติความเป็นมาของพระมหาเถระ 5 แผ่นดิน “หลวงปู่หมุน ฐิติสีโล” แห่งวัดบ้านจาน เมืองศรีสะเกษ!

ยังคงอยู่กันกับทางฝั่งอีสานใต้กันในสัปดาห์นี้ ซึ่งแน่นอนว่าพระเกจิอาจารย์ที่เราจะพาคุณไปทำความรู้จักนั้น ก็คือพระเกจิอาจารย์ผู้เลื่องชื่อของทางฝั่งอีสานใต้นั่นเอง ซึ่งในครั้งนี้เราจะพาคุณไปทราบถึง อัตชีวประวัติความเป็นมาของพระมหาเถระ 5 แผ่นดิน “หลวงปู่หมุน ฐิติสีโล” แห่งวัดบ้านจาน เมืองศรีสะเกษ! ซึ่งแน่นอนว่าในครั้งนี้เราจะมาบอกให้คุณได้ทราบกันโดยละเอียดอย่างที่คุณอาจไม่เคยได้ทราบกันมาก่อน และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราจะพาคุณไปรู้จักกับประวัติของท่านกันเลย ณ ดังต่อไปนี้ ประวัติความเป็นมาของ “หลวงปู่หมุน ฐิติสีโล” แห่ง วัดบ้านจาน จ. ศรีสะเกษ ! สำหรับหลวงปู่หมุนนั้นท่านเกิดช่วงปีพ.ศ. 2437 เดิมเป็นคนจังหวัดศรีสะเกษอำเภอกันธารารมณ์ ณ บ้านจาน เป็นบุตรของนายดีและนางอั๊ว เป็นครอบครัวของลูกชาวไร่ชาวนามีวิถีชีวิตตามแบบสองคนชนบท ฐานะทางบ้านของท่านค่อนข้างยากจนรตามแบบวิถีของชาวชนบททั่วไปแต่หลวงปู่หมุนนั้นท่านค่อนข้างมีลักษณะที่พิเศษมากกว่าเด็กคนอื่นๆ ซึ่งท่านเป็นเด็กที่มีไหวพริบมีความเฉลียวฉลาดและมีความอัจฉริยะให้เห็นตั้งแต่ที่ครั้งท่านยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ หลวงปู่หมุนเติบโตมาท่ามกลางสิ่งแวดล้อมในแบบธรรมชาติ ย่านที่ท่านอาศัยอยู่นั้นเป็นป่าดงดิบที่มีความอุดมสมบูรณ์อีกทั้งยังมีสัตว์ร้ายต่างๆที่อาศัยอยู่ในป่ามากมาย เมื่อท่านอายุได้ประมาณ 15 ปีก็ได้บวชเป็นสามเณร และมีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างมาก เมื่อบิดามารดาของท่านเห็นแววจากนั้นก็ได้ฝากฝังให้หลวงปู่หมุนเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อสีดาซึ่งในขณะนั้นหลวงพ่อสีดาท่านเป็นเจ้าอาวาสแห่งวัดบ้านจาน ซึ่งท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีความแกร่งกล้าทางด้านวิชาอาคมอย่างมาก และเชี่ยวชาญในด้านกรรมฐาน เป็นพระผู้ปฏิบัติอันมีชื่อเสียงในจังหวัดและย่านอีสานใต้ไม่น้อย ต่อมาเมื่อหลวงปู่หมุนท่านอายุได้ประมาณ 23 ปี ซึ่งตรงกับช่วงปีพ.ศ. 2460 ก็ได้เข้าพิธีอุปสมบท ซึ่งพระอุปัชฌาย์ในครั้งนั้นก็คือหลวงพ่อสีดาที่เป็นเจ้าอาวาสอยู่นั่นเอง และได้รับฉายาทางธรรมว่า ฐิตสีโล อันมีความหมายว่าผู้ที่มีศีลตั้งมั่น เมื่อได้บทเรียนและจำพรรษาอยู่นั้นหลวงปู่หมุนท่านก็ได้ศึกษาเล่าเรียนทางด้านอักษรขอมและอักษรภาษาไทยรวมทั้งได้มีโอกาสฝึกพระกรรมฐานจากหลวงพ่อสีดาไปด้วย หลวงปู่หมุนท่านเป็นผู้มีความเฉลียวฉลาดและมีความตั้งอกตั้งใจเรียนดีมาก […]
ประวัติความเป็นมา “พระสมเด็จ แหวกม่าน หลวงพ่อกวย” วัดโฆสิตาราม !

เมื่อมีใครเอ่ยถามถึงของดีเมืองชัยนาท เชื่อว่าใครหลายคนอาจจะต้องนึกถึงของขลังและพระเครื่องของหลวงพ่อกวยเป็นอันดับต้นๆแน่นอน วันนี้เราจะมาพูดถึง ประวัติความเป็นมา “พระสมเด็จ แหวกม่าน หลวงพ่อกวย” วัดโฆสิตาราม ! ซึ่งจะมาบอกเล่าถึงความเป็นมาสุดขลังของการสร้างพระองค์นี้ให้คุณได้ทราบ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า ได้กลายเป็นพระเครื่องที่หายากกันไปเสียแล้วในปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตามเรื่องราวที่น่าสนใจในวันนี้เราเชื่อว่าลูกศิษย์หลวงหาที่ศรัทธาหลวงพ่อกวยจะต้องชื่นชอบและอยากทราบกันอย่างแน่นอน และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราไปชมรายละเอียดของประวัติที่น่าสนใจกันเลยดีกว่า เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งพระเครื่องที่ค่อนข้างหายากมากในปัจจุบัน สำหรับพระสมเด็จแหวกม่านของ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม หรือวัดบางแคในจังหวัดชัยนาท ถึงแม้ว่าจะมีอายุเก่าแก่และได้ผ่านการสร้างมาอย่างยาวนานแล้วก็ยังคงเป็นวัตถุมงคลที่ทรงคุณค่าแก่จิตใจของเหล่าบรรดาลูกศิษย์ลูกค้าของท่านอย่างเสมอมาและในปัจจุบันก็ยังคงมีผู้คนถามถึงกันเป็นอย่างมาก หากจะถามถึงอายุอานามของพระเครื่องรุ่นนี้เห็นทีคงจะมีอายุประมาณไม่ต่ำกว่า 50 ปี เนื่องจากได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อช่วงประมาณปี 2500 เป็นที่ทราบกันดีสำหรับเราบรรดาคนที่ชื่นชอบพระเครื่องกันอยู่แล้วว่าหลวงพ่อกวยนั้นท่านมักสร้างวัตถุมงคลด้วย มวลสารที่ได้มาจากธรรมชาติในป่าลึก และเป็นการบรรจงสร้างอย่างพิถีพิถัน สำหรับการสร้างพระเครื่ององค์นี้หลวงพ่อกวยได้สร้างมาจากตำราการสร้างตามแบบฉบับของสมเด็จโต และได้มีการนำมาประยุกต์ใช้กับวิชาความรู้ที่ท่านได้เราเรียนมาทั้งหมด ซึ่งแน่นอนว่าวิชาที่มีความเป็นอัตลักษณ์ในการสร้างพระเครื่องของท่านก็คือ การใช้สูตรพิเศษที่ได้มีการนำผงวิเศษมาเป็นส่วนประกอบในการสร้างพระ อีกทั้งยังได้นำเศษพลอยที่มีความละเอียดสูงรวมถึงและธาตุและเกสรดอกไม้มารวมไว้ในพระเครื่องนี้ด้วยเช่นกัน และสำหรับการสร้างพระชุดนี้ไม่ได้มีเพียงสีเดียวเท่านั้นเนื่องจากมีหลายสีอันได้แก่ เนื้อพระที่มีสีน้ำตาลอ่อน ซึ่งเป็นเนื้อพระที่ได้มีการผสมกับเกสรของดอกไม้จึงออกมาเป็นสีคล้ายกับสีดอกพิกุล, เนื้อที่ค่อนข้างดำเนื่องจากได้มีการผสมกับใบลานแต่เนื้อสีนี้ค่อนข้างหายากและมีน้อย, เนื้อสีขาวหม่นอมเทาจะเป็นเนื้อผงล้วน , และบางองค์จะมีเนื้อที่ค่อนข้างละเอียด แต่ก็ยังพอที่จะสามารถมองเห็นได้ถึงพลอยและแร่ที่เป็นเม็ดเล็กๆได้ ซึ่งแต่ละองค์อาจมีความแตกต่างและมีความงดงามในรูปแบบเดียวกัน พิธีกรรมก่อนการสร้างพระในป่าลึก เริ่มด้วยการเลือกใช้วัสดุและมวลสารที่นำมาใช้ในการสร้างพระ คือท่านจะเดินทางเข้าไปยังป่าลึกพร้อมกับลูกศิษย์ที่เป็นพรานป่าผู้มีวิชาป่าและมีอาคมแกร่งกล้า เมื่อเข้าไปยังป่าลึกแล้วท่าจะทำการเลือกสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อทำพิธีบวงสรวงป่าและสร้างพระ ตามด้วยการอัญเชิญครูบาอาจารย์และทำพิธีตามตำราการที่ท่านได้เล่าเรียนมา เมื่อบวงสรวงป่าเรียบร้อยแล้วท่านจะให้ลูกศิษย์ที่เป็นพรานป่าทำการโยนผ้าขึ้นฟ้า ซึ่งผ้าที่ใช้โยนขึ้นฟ้านั้นจะเป็นผ้าขาวที่หลวงพ่อกวยปลุกเสกด้วยคาถาอาคม และการที่ให้ลูกศิษย์โยนขึ้นฟ้านี้เพื่อเป็นการกำหนดจุดในการสร้างหอสำหรับทำพิธีสร้างพระนั่นเอง ยิ่งโยนผ้าสูงเท่าไหร่ ท่านก็จะทำหลักไม้ไผ่ตามความสูงของผ้าที่โยนขึ้นไปเท่านั้น และกำหนดความสูงของหอสร้างพระตามหลักไม้ไผ่ที่ท่านได้ทำไว้ ตามด้วยการสร้างห้างบนต้นไม้สำหรับทำหอพิธี […]
ส่องพระเกจิ ประวัติและอภินิหาร หลวงพ่อสุด วัดกาหลง สมุทรสาคร

เป็นโอกาสอันดีที่จะพาทุกท่านไปทราบถึงประวัติและอภินิหาร ของ หลวงพ่อสุด สิริธโร วัดกาหลงสมุทรสาคร ยอดพระเกจิที่มีผู้ศรัทธาจำนวนมาก และ วัตถุมงคลของท่านเป็นที่นิยมอย่างมากในขณะนี้ หลวงพ่อสุด สิริธโร วัดกาหลง สมุทรสาคร หรือ พระครูสมุทรธรรมสุนทร อดีตเจ้าอาวาสวัดกาหลงจังหวัดสมุทรสาคร ท่านมีนามเดิมว่าสุด สัตย์ตัง เกิดเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2445 บ้านเกิดอยู่ที่อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด การบรรพชาเป็นสามเณรเมื่อได้อายุ 16 ปี ที่วัดกลาง อำเภอพนมไพร มีพระครูเม้า เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้อุปสมบท ที่วัดกลางเมื่ออายุครบ 20 ในวันที่ 20 มิถุนายน 2465 หลังจากเข้าสู่เพศบรรพชิต ท่านได้ออกเดินธุดงค์ ไปในสถานที่ต่างๆ จนถึงบริเวณตำบลกาหลง มีชาวบ้านได้นิมนต์ท่านให้จำพรรษาอยู่ที่วัด ในช่วงเวลาที่ท่านได้เดินธุดงค์นั้น หลวงพ่อสุด ท่านได้มีโอกาสเรียนวิชาเวทย์วิทยาคม จากพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายท่าน ไม่ว่าจะเป็น หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม, หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ และเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกมากมายในยุคนั้น หลวงพ่อสุดท่านยังมีความแตกฉานในด้านภาษาลาวภาษาขอม และการเดินทางในสมัยนั้นจากภาคอีสาน กว่าจะมาถึงภาคกลาง […]
ส่องพระเกจิ ประวัติและอภินิหาร หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ประจวบคีรีขันธ์

วันนี้ขอนำทุกท่าน ไปทราบถึงประวัติและอภินิหาร ของพระเกจิ อันดับต้นๆของประเทศรูปหนึ่ง หลวงพ่อยิด จันทสุวัณโณ วัดหนองจอก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลวงพ่อยิด จันทสุวัณโณ วัดหนองจอก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองจอก ตั้งอยู่ที่ตำบลดอนยายหนู อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถือได้ว่าเป็นพระเกจิอาจารย์อันดับต้น ๆ ของประเทศรูปหนึ่ง ท่านมีนามเดิมว่ายิด ศรีดอกบวบ เกิดวันที่ 10 มิถุนายน 2476 บิดาชื่อนายแก้ว มารดาชื่อนางพร้อย เมื่อท่านอายุ 9 ขวบ ก็ทำการบรรพชาที่วัดบ้านเกิด ระหว่างที่เป็นสามเณรได้ทำการฝึกสมาธิ พระธรรมวินัย ศึกษาอักขระเลขยันต์ จนอายุถึง 14 ปี ได้ลาสิกขาออกมาช่วยงานครอบครัว ท่านได้ช่วยครอบครัวอย่างแข็งขันเต็มกำลังจนอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้ทำการอุปสมบท ที่วัดยาง น้อยเมียหลวงปู่อิน เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระอธิการหวล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลวงพ่อยิด ท่านได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของ หลวงปู่ทองสุข วัดโตนดหลวง เพื่อศึกษาเวทย์วิทยาคมเพิ่มเติม และท่านยังได้ทำการธุดงค์ เพื่อฝึกสมาธิ ไปในหลายพื้นที่ […]
ส่องพระเกจิ ตำนาน “เสือหล่อ” หลวงพ่อวงษ์ วัดปริวาส กรุงเทพฯ

ขอพาทุกท่าน ไปพบกับยอดเกจิ ผู้สร้างตำนาน เครื่องรางเสือหล่อทองเหลือง อันเป็นที่ล่ำลือในบรรดาลูกศิษย์ ว่าเวลาหลวงพ่อวงษ์ วัดปริวาส ท่านปลุกเสกนั้น ท่านจะเสกจนเสือกระโดดได้ หลวงพ่อวงษ์ วัดปริวาสราชสงคราม กรุงเทพฯ ท่านเกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2445 ที่บ้านเลขที่ 193 ตำบลบางโพงพางอำเภอบ้านทวาย ( ปัจจุบันเป็นเขตยานนาวา) กรุงเทพฯ บิดาชื่อนายเลียบ มารดาชื่อนางจั่น เจริญกุล ในช่วงวัยเด็กบิดาของท่านนำไปฝากที่วัดปริวาส เพื่อใช้เป็นที่เรียนหนังสือ จนท่านสอบเทียบชั้นในระดับประถมศึกษา 4 จนถึงอายุ 21 ปี ท่านได้เข้ารับการเกณฑ์ทหาร เป็นทหารเรือที่กรมสรรพาวุธบางนา จนอายุ 23 ปีได้ปลดประจำการ ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดปริวาส ในวันพุธที่ 17 มิถุนายน 2468 โดยมี พระครูวินยา นุบูรณาจาร หรือ หลวงพ่อเชย วัดโปรดเกศเชษฐาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระปลัดไม้ วัดปริวาสเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอธิการน้อย วัดด่าน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ […]