ประวัติความเป็นมา “พระเนื้อผง” ที่ใครหลายคนอยากรู้ !

หากพูดถึงพระเนื้อผงใครหลายคนเคยตั้งคำถามว่ามาจากที่ไหน และในวันนี้เราจะมาพูดถึง ประวัติความเป็นมา “พระเนื้อผง” ที่ใครหลายคนอยากรู้! รวมทั้งสุดยอดพระเนื้อผงพระและพระเนื้อผงพุทธคุณ รวมไปถึงพระเนื้อผงยอดนิยม มาฝากกัน หากอยากทราบแล้วว่า ประวัติความเป็นมานั้นมีมาอย่างไร เราไปดูกันเลย

พระเนื้อผงคืออะไร
สำหรับการสร้างพระเนื้อผงนั้น ถือเป็นศาสตร์แห่งศิลปะในแขนงวิชาการปูนปั้น ที่ได้นำมวลสารต่างๆของปูนมาประสานและผสมกับเนื้อยางไม้ต่างๆ ซึ่งเป็นศาสตร์ศิลปะที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นวิทยาการของศิลปินจากกรีกโรมัน อินเดีย และรวมมาถึงในประเทศไทยของเรา ก็มีพระเครื่องเนื้อผงที่เก่าแก่ด้วยเช่นกัน อย่างเช่น พระกรุวัดทัพข้าวจังหวัดสุโขทัย พระสมเด็จอรหัง วัดมหาธาตุ
ซึ่งมีกรรมวิธีในการจัดเตรียมการปลุกเสกเพื่อสร้างพระเนื้อผง ตามแบบโบราณนั้น มีด้วยกันเป็นแบบ 2 ขั้นตอนใหญ่ๆก็คือ ในขั้นตอนแรกต้อมมีการจัดเตรียมมวลสารหลัก ในการนำเนื้อผงมาสร้างเป็นพระ ซึ่งมวลสารหลักนั้นได้แก่ผงปูนขาวซึ่งในวิธีโบราณนั้น จะทำโดยการนำเปลือกหอยมาเผาไฟ และบดให้ละเอียด จึงถูกเรียกกันว่า “ผงปูนเปลือกหอย”
ในส่วนของขั้นตอนที่ 2 ก็คือ การจัดเตรียมมวลสารที่จะต้องผสมลงไปกับมวลสารหลักด้วยได้แก่ ว่านต่างๆรวมถึงผงวิเศษ 5 ประการ คือ ผงปถมัง ผงอิธิเจ ผงมหาราช ผงพุทธคุณ และผงตรีนิสิงเห จากนั้นก็นำมาทำพิธีสร้างพระ ซึ่งกรรมวิธีในการสร้างพระเนื้อผงส่วนใหญ่ มักจะทำตามสูตรของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี ซึ่งท่านได้รับการยกย่องให้เป็นผู้สร้างพระเนื้อผง “สูตรนิยม” หรือ “สูตรครู” นั่นเอง
พระเนื้อผงยอดนิยม
สำหรับพระเนื้อผงยอดนิยมที่ใครหลายคน ต่างอยากทราบกันว่ามีรุ่นใดบ้าง ต้องห้ามพลาด! เพราะเราจะมาพูดถึงประวัติความเป็นมาของพระเนื้อผงในรุ่นที่นักสะสมให้ความนิยม รวมทั้งบอกเล่าถึงมวลสาร ที่ใช้ในกรรมวิธีการสร้างตัวพระเครื่องด้วยเช่นกัน และในครั้งนี้เราจะหยิบเพียงองค์สำคัญมาฝาก ไปดูกันเลย

พระสมเด็จฯ วัดระฆังโฆสิตาราม เขตบางกอกน้อย ธนบุรี
หากใครถามถึง พระเนื้อผงยอดนิยม ต้องขออนุญาตยกให้ พระสมเด็จฯ วัดระฆังโฆสิตาราม เขตบางกอกน้อย ธนบุรี เป็นอันดับแรก ซึ่งพระสมเด็จฯ วัดระฆังโฆสิตารามนี้ ถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ 2409 – พ.ศ. 2415 ที่สร้างโดย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งท่านได้รับการยกย่องให้เป็นผู้สร้าง พระเนื้อผง “สูตรนิยม” หรือ “สูตรครู” นั่นเอง
ถือเป็นจักรพรรดิแห่งพระเครื่องกันเลยก็ว่าได้ ซึ่งเป็นองค์พระประธานใน “พระชุดเบญจภาคี” นับเป็นสุดยอดพระเครื่องอันดับหนึ่งที่เหล่าผู้นิยมสะสมบูชาพระเครื่อง ต่างปรารถนากันเป็นอย่างมาก ซึ่งมีพุทธคุณรอบด้านและมากด้วยความศักดิ์สิทธิ์
มวลสารหลักนั้นสร้างจากผงปูนเปลือกหอยและผงพุทธคุณ จากนั้นได้มีการนำผงมาปั้นแล้วเขียนอักขระลงบนกระดานชนวน แล้วลบทำซ้ำโดยใช้ผงวิเศษ 5 ประการได้แก่ ผงอิทธิเจ ผงตรีนิสิงเห ผงผงปถมัง ผงมหาราช และผงพุทธคุณ ที่มีอานุภาพมาก และนำมาผสมกับส่วนผสมอื่นๆ ซึ่งได้แก่ เศษจีวรพระ ใบลานเผา ดอกไม้แห้ง
นับว่าเป็นพระเครื่องที่หายากมากที่สุด และเป็นสุดยอดพระเครื่อง ที่ผู้นิยมสะสมบูชาพระเครื่อง ต่างปรารถนากันมากที่สุด นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีราคาที่แพงมาก มีราคาสูงถึง 25,000,000 บาท เลยทีเดียว

พระสมเด็จฯ วัดระฆังโฆสิตาราม เขตบางกอกน้อย ธนบุรี
ชื่อพระ | พระสมเด็จฯ วัดระฆังโฆสิตาราม เขตบางกอกน้อย ธนบุรี |
ประเภท | พระเนื้อผงพุทธคุณ |
ผู้สร้าง | สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) |
ศิลปะยุค | พ.ศ 2409 – พ.ศ. 2415 |
อายุการสร้าง | ประมาณ 150 ปี |
เนื้อพระ/มวลสาร | เนื้อผง |
พุทธลักษณะ | องค์พระประทับนั่ง ในปางสมาธิบนฐาน 3 ชั้น |
กรรมวิธีการสร้าง | สร้างจากผงปูนเปลือกหอยและผงพุทธคุณ จากนั้นได้มีการนำผงมาปั้นแล้วเขียนอักขระลงบนกระดานชนวน แล้วลบทำซ้ำโดยใช้ผงวิเศษ 5 ประการ |
พุทธคุณ | เมตตามหานิยม คงกระพันชาตรี แคล้วคาด ครอบจักรวาล |
การแ_ยกพิมพ์ | แบ่งได้เป็น 5 พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่ (พิมพ์ประธาน)พิมพ์ปรกโพธิ์,พิมพ์ฐานแซม ,พิมพ์เจดีย์ และพิมพ์เกศบัวตูม |
มูลค่าราคาประมาณการ | เกือบร้อยล้านบาท |

พระรอดมหาวัน จ. ลำพูน
เป็นอีกหนึ่งที่ผู้นิยมสะสมพระเครื่องให้ความนิยมเป็นอย่างมาก ถือเป็นพระเนื้อผงยอดนิยมอีกหนึ่งองค์ สำหรับ พระรอดมหาวัน จังหวัดลพูนนี้ ซึ่งถูกขุดค้นพบในยุคต้นสมัยรัชกาลที่ 5 ประมาณปี พ.ศ. 2325 มีประวัติการสร้างนานถึงประมาณ 1,200 ปี ถูกสร้างขึ้นในยุคหริภุญชัย โดยพระนางจามเทวี (พระมหากษัตริย์แห่งมหาจักรหริภุญไชย) ราวๆปี พ.ศ.1223 มีความปราณีตและพิถีพิถันในการสร้างเป็นอย่างมาก มีความงดงามที่เป็นเอกลักษณ์และคงความเป็นศิลปะในแบบยุคหริภุณชัยเป็นอย่างมาก
อีกทั้งยังมีความเชื่อกันว่า มีพุทธคุณที่เข้มขลังในด้าน คงกระพันชาตรี หากผู้ใดมีไว้ครอบครอง จะนำพาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง และแคล้วคลาดจากสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง ถูกสร้างด้วยมวลสารที่ทำจากเนื้อดิน โดยการนำมาเผา ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ซึ่งพระรอดมหาวันนี้ เป็นเอกอุภาคี หนึ่งในเบญจภาคี ที่มีราคาสูงมาก และถือเป็นอีกหนึ่งพระเครื่องที่หาได้ยากมากในปัจจุบัน และมีการลอกเลียนแบบกันอยู่ไม่น้อย

พระรอดมหาวัน จ. ลำพูน
ชื่อพระ | พระรอดมหาวัน จ. ลำพูน |
ประเภท | พระเนื้อผง |
ผู้สร้าง | โดยพระนางจามเทวี (แต่ถูกค้นพบในยุค รัชกาลที่ 5) |
ศิลปะยุค | สมัยหริภุญชัย |
อายุการสร้าง | 1,200 ปี |
เนื้อพระ/มวลสาร | เนื้อกระเบื้องดินเผา เนื้อนิ่มคล้ายสีผึ้ง ดินละเอียด |
พุทธลักษณะ | มีรูปลักษณะเป็นพระปางมารวิชัยนั่งขัดสมาธิ บนฐาน |
กรรมวิธีการสร้าง | ได้ถูกสร้างมาจากดิน โดยการนำเนื้อดินไปเผา ทำให้มีความงดงามและมีความแข็งแกร่ง |
พุทธคุณ | แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี ครอบจักรวาล |
การแยกพิมพ์ | มีด้วยกัน 6 พิมพ์ได้แก่ พิมพ์ตื้น พิพม์ลึก พิมพ์ยาว พิมพ์สั้น พิพม์ฐานสองชั้น พิมพ์ฐานชั้นเดียว หรือมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าว่า พิมพ์ต้อ |
มูลค่าราคาประมาณการ | 30,000,000 บาท |

พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม
พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งพระหายากที่อยู่ในชุดพระนเบญจภาคี และถือเป็นพระที่มีราคาสูงถึงหลายล้านบาทในปัจจุบัน ที่ผู้นิยมสะสมพระเครื่องทั้งหลายต่างปรารถนามีไว้ครอบครองบูชา เป็นอีกหนึ่งพระเนื้อผงยอดนิยม ถูกสร้างโดย สมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ประมาณเมื่อปี พ.ศ.2413 ซึ่งมีพุทธคุณที่เข้มขลังเป็นที่เลื่องชื่อในด้าน เมตตามหานิยม แคล้วคลาด คงกระพัน มีความเชื่อกันว่าหากใครได้มีไว้ครอบครองบูชา ก็จะช่วยเสริมความเจริญรุ่งเรืองให้กับชีวิต
มีรูปลักษณะเป็นเนื้อสีขาวแลชะจะมีสีขาวอมเหลือง เนื้อพระเป็นชนิด “สนิมกรุ หรือคราบกรุ” (ซึ่งเป็นชื่อเรียกที่มาจากคราบฝ้านั่นเอง) มวลสารที่ใช้สร้างส่วนใหญ่จะเป็นปูนขาวซึ่งเป็นสูตรสร้างตามแบบสูตร ของ สมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ทั้งยังมีข้าวสุกและเนื้อกล้วยเป็นส่วนผสมอีกด้วย มีการประสานเนื้อพระด้วยน้ำมันตังอิ๊วเพื่อลดรอยแตกร้าว นอกจากนี้ยังใช้ผงวิเศษ 5 ประการ นำมากับว่าน ทรายเงินทรายทอง น้ำมันจันทร์ ผงใบลาน เถ้าธูป และเกสรดอกไม้ต่างๆ

พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม
ชื่อพระ | พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม |
ประเภท | พระเนื้อผง |
ผู้สร้าง | สมด็จพระพุฒจารย์ (โต) พรหมรังสี |
ศิลปะยุค | ปี พ.ศ.2413 |
อายุการสร้าง | ปี พ.ศ.2413 |
เนื้อพระ/มวลสาร | มีรูปลักษณะเป็นเนื้อสีขาวแลชะจะมีสีขาวอมเหลือง |
พุทธลักษณะ | มีรูปลักษณะเป็นเนื้อสีขาวแลชะจะมีสีขาวอมเหลือง เป็นองค์นั่งประทับขัดสมาธิบนฐาน 3 ชั้น |
กรรมวิธีการสร้าง | สร้างแบบโบราณ ตามสูตรของ สมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี |
พุทธคุณ | เมตตามหานิยม แคล้วคลาด คงกระพัน |
การแยกพิมพ์ | พิมพ์ใหญ่ พิมพ์ทรงเจดีย์ พิมพ์เกศบัวตูม พิมพ์ฐานแซม พิมพ์ปรกโพธิ์ พิมพ์ฐานคู่ พิมพ์เส้นด้าย |
มูลค่าราคาประมาณการ | หลายล้าน บาท |
พระซุ้มกอ จ.กำแพงเพชร
สำหรับ พระซุ้มกอ จังหวัดกำแพงเพชร นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งพระในชุดเบญจภาคี ซึ่งมีประวัติความเป็นมาที่มีความอย่างนานมาก ถูกสร้างขึ้นในสมัยที่สุโขทัยยังเป็นราชธานี ซึ่งเป็นพระที่มีอายุเกือบ 1 พันปี ถูกสร้างขึ้นโดย พระมหาธรรมราชาภิไท ก่อนมีการสถาปนาเป็นกษัตริย์ในสมัยสุโขทัย มีพุทธลักษณะที่งดงาม วิจิตร มีความปราณีตในแบบศิลปะยุคสุโขทัย
ซึ่งในปัจจุบันมีราคาสูงถึงหลักหลายสิบล้านบาท ถือว่าแพงแบบสุดไปเลย เป็นที่ปรารถนาของเหล่านักสะสมกันเป็นอย่างมาก เป็นวุตถุมงคลหายากอีกหนึ่งชิ้น เพราะหลายคนเชื่อว่าในเรื่องของพุทธคุณนั้นมีความเข้มขลัง และมีความโดดเด่นครบทุกด้านไม่ว่าจะในเรื่อง เมตตามหานิยม มหาลาภ แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี ถือว่าครบ อีกทั้งยังความเชื่อว่า หากใครทำการค้าขายก็จะไม่มีจน จนมีฉายาว่า “มีกูแล้วไม่จน”
มีพุทธลักษณะที่เป็นองค์พระพระปะติมากรรมใช้มวลสารจากเนื้อดินในการสร้าง โดยนำมาผสมกับเนื้อว่านมงคล เกสรดอกไม้ต่างๆ และถูกสร้างด้วยกรรมวิธีโบราณในแบบยุคสุโขทัย
ชื่อพระ | พระซุ้มกอ จ.กำแพงเพชร |
ประเภท | พระเนื้อผง |
ผู้สร้าง | พระมหาธรรมราชาภิไท |
ศิลปะยุค | สุโขทัยยังเป็นราชธานี |
อายุการสร้าง | เกือบ 1000 ปี |
เนื้อพระ | มวลสารจากเนื้อดิน |
พุทธลักษณะ | มีพุทธลักษณะที่เป็นองค์พระพระปะติมากรรม |
กรรมวิธีการสร้าง | ถูกสร้างด้วยกรรมวิธีโบราณในแบบยุคสุโขทัย ใช้มวลสารจากเนื้อดินผสมกับเนื้อว่านมงคล เกสรดอกไม้ต่างๆ |
พุทธคุณ | เมตตามหานิยม มหาลาภ แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี ครบทุกด้าน |
การแยกพิมพ์ | – |
มูลค่าราคาประมาณการ | หลายสิบล้านบาท |
พระเนื้อผงพิมพ์สามเหลี่ยม
ได้ทราบกันถึงประวัติความเป็นมาต่างๆของพระเนื้อผงกันไปบ้างแล้ว สำหรับครั้งนี้เราจะยิบเรื่องราวของ พระเนื้อผงพิมพ์สามเหลี่ยม มาเล่าให้คุณฟังกันบ้าง ซึ่งพระที่เราจะพูดถึงกันในครั้งนี้ถือเป็นพระเครื่องอีกหนึ่งรุ่นที่หายากมากในยุคบัจจุบัน เป็นอีกหนึ่งพระที่ผู้นิยมสะสมพระเครื่องต่างปรารถนามาครอบครองบูชากันมาก นอกจากนี้ยังมีราคาที่แพงมากอีกด้วย จะคือพระอะไรนั้นเรามาดูกันเลย

พระผงสุพรรณ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุพรรณบุรี
สำหรับพระเนื้อผงพิมพ์สามเหลี่ยม ต้องยกให้กับ พระผงสุพรรณ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุพรรณบุรี กันเลย ถือเป็นอีกหนึ่งสำหรับพระเนื้อผงยอดนิยม ที่มีราคาสูงมากในปัจจุบันมีราคาสูงถึงหลักสิบล้าน ทั้งยังเป็นอีกหนึ่งพระที่อยู่ใน “ชุดพระเบญจภาคี” ที่เรียกได้ว่าหายากมากจริงๆ
ถูกสร้างขึ้นในสมัยอู่ทอง แต่ถูกค้นพบในสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งมีรูปลักษณะที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของยุคอู่ทองตอนต้นอยุธยา มีความเชื่อกันว่ามีความโดดเด่นของพุทธคุณในด้าน คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด ถูกสร้างขึ้นเพื่อปกป้องคถ้มครองเหล่านักรบในยุคนั้น เป็นเนื่องจากในยุคนั้นยังคงมีการทำสงครามจึงเป็นที่นิยมกันมาก ในเหล่าบรรดาทหารผู้ออกรบ
กรรมวิธีในการสร้างพระใช้วิธีสร้างโดยการนำมาเผาแบบโบราณ มวลสารของเนื้อพระเป็นเนื้อดินละเอียด ที่ได้นำมาผสมเข้ากับน้ำว่านและเกสรของดอกไม้ต่างๆ และในส่วนของพระผงสุพรรณที่ได้ทำจากธาตุโลหะนั้น เรียกว่า “แร่สังฆวานร” หรือ “พระผงสุพรรณยอดโถ”

พระผงสุพรรณ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุพรรณบุรี
ชื่อพระ | พระผงสุพรรณ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุพรรณบุรี |
ประเภท | พระผงเนื้อดินเผา |
ผู้สร้าง | – |
ศิลปะยุค | สมัยอู่ทองตอนต้นอยุธยา (แต่ถูกพบในสมัยรัชกาลที่ 6 ) |
อายุการสร้าง | สมัยอู่ทองตอนต้นอยุธยา |
เนื้อพระ | พระเนื้อดินเผา |
พุทธลักษณะ | มีรูปลักษณะเป็นองค์พระนั่งขัดสมาธิ |
กรรมวิธีการสร้าง | ได้มีการเผาเนื้อดินแบบโบราณ โดยผสมกับน้ำว่านและเกสรดอกไม้ |
พุทธคุณ | คงกระพันชาตรี |
การแยกพิมพ์ | พิมพ์หน้าแก่ พิมพ์หน้ากลาง และ พิมพ์หน้าหนุ่ม |
มูลค่าราคาประมาณการ | หากสภาพสมบูรณ์ จะมีราคาราวๆ 40-50 ล้าน บาท |

พระเนื้อผงพุทธคุณ
สำหรับ พระเนื้อผงพุทธคุณ คือการสร้างพระโดยการใช้ผงพุทธคุณมาเป็นส่วนผสมในการสร้าง ไม่ว่าจะสร้างจากเนื้อดิน เนื้อผงต่างๆ รวมทั้งการนำผงวิเศษ 5 ประการ มาเป็นส่วนผสมในการสร้างด้วย ซึ่งการสร้างพระเครื่องนั้นถือเป็นศาสตร์ในด้านศิลปะอีกแขนงหนึ่ง ซึ่งในครั้งนี้เราได้นำพระเนื้อผงพุทธคุณที่หายากมาฝากกันในครั้งนี้อีกด้วย หากอยากทราบกันแล้วว่าคือพระองค์ใด อย่่ารอช้า เราไปดูกันเลย

พระพิมพ์เนื้อผงพุทธคุณ กรุวัดทัพข้าวจังหวัดสุโขทัย
สำหรับพระกุวัดทัพข้าว ที่จังหวัดสุโขทัยนี้ บางท่านให้ชื่อเรียกว่า “ทัพเข้า” หรือ “ทับข้าว” ซึ่งยุคแรกสร้างในสมัยสุขโขทัย มีความเก่าแก่มาก มีอายุมากกว่า 700 ปี ถูกสร้างมาตั้งแต่ในสมัยโบราณ และถูกสร้างมาก่อนพระสมเด็จวัดระฆัง ของสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เป็นพระเนื้อดินที่ผสมผงพุทธคุณเนื้อขาวสะอาด และมีความแกร่งดั่งหิน
ได้ถูกขุดพบเมื่อครั้งเปิดกรุที่จังหวัดสุโขทัย เมื่อปี พ.ศ. 2480 ซึ่งค้นพบด้วยกันหลายพิมพ์ได้แก่ พิมพ์พระร่วงนั่ง พิมพ์ยืนลีลา และพิมพ์พระร่วงยืนปางประทานพร มีพระพุทธคุณที่โดดเด่นในด้ทนเมตตามหานิยม และแคล้วคลาด คล้ายกับพระสมเด็จวัดระฆังฯ ซึ่งนอกจากนี้ยังได้ถูกนำมาสร้างในยุคที่สองคือสมัยรัตนโกสินทร์ต้อนต้น และในยุคที่ 3 คือยุครัชกาลที่ 6 -รัชกาลที่ 9

พระพิมพ์เนื้อผงพุทธคุณ กรุวัดทัพข้าว จังหวัดสุโขทัย
ชื่อพระ | พระกรุวัดทัพข้าว จังหวัดสุโขทัย |
ประเภท | พระพิมพ์เนื้อผงพุทธคุณ |
ผู้สร้าง | – |
ศิลปะยุค | ยุคแรกในยุคสุโขทัย , ยุคที่สองสมัยรัตนโกสินทรตอนต้น และยุคที่สามคือยุครัชกาลที่ 6-9 |
อายุการสร้าง | – |
เนื้อพระ | เนื้อผงพุทธคุณ |
พุทธลักษณะ | – |
กรรมวิธีการสร้าง | สร้างแบบกรรมวิธีโบราณ ในทุกการสร้าง |
พุทธคุณ | มตตามหานิยม และแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี |
การแยกพิมพ์ | พิมพ์พระร่วงนั่ง พิมพ์ยืนลีลา และ พิมพ์พระร่วงยืนปางประธานพร |
มูลค่าราคาประมาณการ | – |

พระสมเด็จอรหัง วัดมหาธาตุ
พระสมเด็จอรหัง วัดมหาธาตุ ถือเป็นพระพิมพ์ที่มีความคล้ายกับพระสมเด็จของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธจารย์โต เป็นอย่างมาก และเป็นที่ปรารถนาของนักสะสมและนิยมบูชาพระเครื่องอย่างยิ่งหากใครได้มีไว้ในครอบครองบูชาจะนำพาโชคลาภ ชื่อเสียงมาให้ และถือว่ามีบารมีมาก
ถูกสร้างขึ้นโดยสมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) ประมาณปี พ.ศ 2360 ที่ใช้มวลสารหลักคือปูนเปลือกหอย โดยนำมาผสมกับผงอิทธิเจ มีรูปลักษณะเป็นพิมพ์ทรงสี่เหลี่ยมชิ้นฟัก ซึ่งบนฐาน 3 ชั้น องค์พระประธานนั้นอยู่ในอิริยาบถประทับนั่งแสดงปางสมาธิ จะมีสองสีคือเนื้อขาวและเนื้อสีแดง

พระสมเด็จอรหัง วัดมหาธาตุ
ชื่อพระ | พระสมเด็จอรหัง วัดมหาธาตุ |
ประเภท | พระเนื้อผงพุทธคุณ |
ผู้สร้าง | สมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) |
ศิลปะยุค | สมัยอยุธยา ในรัชกาลของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ์ |
อายุการสร้าง | ประมาณปี พ.ศ. 2360 |
เนื้อพระ | เนื้อดินผสมผงพุทธคุณเนื้อขาว |
พุทธลักษณะ | มีรูปลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมชิ้นฟัก ซึ่งองค์พระประธานนั้น อยู่ในอิริยาบทประทับนั่งในปางสมาธิ บนฐาน 3 ชั้น |
กรรมวิธีการสร้าง | มีกรรมวิธีการสร้างแบบโบราณ โดยมีมวลสารหลักเป็นปูนเปลือกหอย และได้นำมาประสานกับผงอิทธิเจ |
พุทธคุณ | เมตตามหานิยม และแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี |
การแยกพิมพ์ | มี จ พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่ฐาน3ชั้นเป็นพิมพ์ฐานคู่เนื้อขาว, พิมพ์ใหญ่มีฐาน3ชั้น เกศอุเป็นเนื้อขาว, พิมพ์เล็กมีประภามณฑลเป็นเนื้อขาว, พิมพ์เล็กไม่มีประภามณฑลเป็นเนื้อขาว, พิมพ์ชิ้นฟักเป็นเนื้อขาว, พิมพ์ใหญ่มีฐาน3ชั้นมีเนื้อแดง และพิมพ์ฐานคู่มีเนื้อแดง |
มูลค่าราคาประมาณการ | – |
สำหรับเรื่องราวของ พระเนื้อผง ที่เราได้นำมาฝากกันผ่านบทความ ประวัติความเป็นมา “พระเนื้อผง” ที่ใครหลายคนอยากรู้! ซึ่งเราหวังว่าท่านผู้อ่านทุกท่านจะถูกใจ และได้รับประโยชน์กับเรื่องราวของ พระเนื้อผงพุทธ พระเนื้อผงยอดนิยม ที่เราได้รวบรวมและนำมาฝาก แล้วพบกันใหม่กับบทความในครั้งหน้า หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยกัน ณ ที่นี้ ด้วยนะคะ ขอขอบคุณสำหรับทุกการติดตามอ่านค่ะ
ที่มาพระสมเด็จฯ
พระสมเด็จอรหัง วัดมหาธาตุ
ประวัติความเป็นมา “พระเนื้อผง” ที่ใครหลายคนอยากรู้ !
- June 1, 2021
- 3:01 pm