
กราบสวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านกลับมาพบกันอีกครั้งที่นี่ และสำหรับครั้งนี้เรามีเรื่องราวเกี่ยวกับ รวมประวัติความเป็นมาการสร้าง “พระเหรียญโลหะ” พร้อมเหรียญหายาก! มาฝาก สำหรับท่านผู้อ่านที่ชื่นชอบและต้องการทราบประวัติความเป็นมาของ พระเหรียญโลหะ ต้องห้ามพลาด เพราะครั้งนี้เราได้รวบรวมข้อมูลเหรียญที่มีมูลค่าราคาสูง และเหรียญที่หายากมากฝากคุณอีกด้วย หากอยากทราบกันแล้ว อย่ารอช้า ! เราไปดูกันเลยดีกว่า
สำหรับ ประวัติความเป็นมาของพระเหรียญโลหะ นั้น ได้มีการสร้างขึ้นครั้งแรกสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ( รัชกาลที่ 5) ในช่วงประมาณปีพ.ศ. 2440 ซึ่งพระเหรียญโลหะนั้น ได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ยุค สำหรับยุคแรกที่เรียกกันว่า “พระยุคเก่า” คือช่วงประมาณปีพ.ศ. 2440 – 2499 และยุคที่ 2 ที่เรียกกันว่า “พระยุคใหม่” คือช่วงประมาณปีพ.ศ. 2500 มาจนถึงปัจจุบัน
เหรียญที่ถูกสร้างครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 นั้น คือ “เหรียญพระพุทธชินสีห์” ได้ถูกสร้างหลังจากที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่5) ทรงเสด็จกลับจากประพาสยุโรป และนั่นคือจุดเริ่มต้นทั้งยังต้นแบบในการสร้าง พระเครื่องชนิดเหรียญโลหะมาจนถึงในยุคปัจจุบัน
ซึ่งเหรียญของในแต่ละยุคนั้นจะมีกรรมวิธีและขั้นตอนการสร้างที่แตกต่างกัน ทั้งยังมีเอกลักษณ์ในแบบเฉพาะเจาะจงตามวิวัฒนาการของอดีตจนถึงปัจจุบัน
การสร้าง พระเหรียญโลหะ นั้น คือพระที่นำมาสร้างเป็นเนื้อโลหะในรูปทรงของเหรียญ และรูปทรงของเหรียญก็มีหลายรูปทรง เช่น รูปทรงอาร์ม รูปทรงไข่ รูปทรงกลม หรือรูปทรงใบโพธิ์ ซึ่งมีทั้งเหรียญพระพุทธ และเหรียญรูปเหมือนพระสงฆ์ การสร้างพระเหรียญโลหะนั้นได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ยุค คือ การสร้างพระยุคเก่า และการสร้างพระยุคใหม่ ซึ่งการสร้างพระเหรียญโลหะนั้น แม่พิมพ์จะต้องถูกออกแบบโดยช่างศิลป์ผู้มีความรู้และความชำนาญทางด้านศิลปะโดยตรง และมีขั้นตอนการทำที่ปราณีตและพิถีพิถันอย่างมาก
จะมีการเตรียมการสร้างแบบของแม่พิมพ์จากที่ได้ออกแบบไว้ และจะมีแบบแม่พิมพ์ทั้งด้านหน้าเหรียญและด้านหลังของเหรียญ สำหรับวัสดุโลหะที่นำมาสร้างพระเหรียญนั้นจะมีหลายเนื้อ เช่นทองแดง ทองคำ เงิน หรือโลหะผสมต่างๆ
การสร้างเหรียญพระยุคเก่านั้น จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือในช่วงประมาณ 2440 จนถึง 2485 ที่มักจะสร้างเหรียญแบบไม่มีหูในตัว แต่จะมีการนำมาหูเชื่อมกับเหรียญในภายหลังเรียกกันว่า (เหรียญหูห่วงเชื่อม) ” และอีกยุคหนึ่งคือในช่วงประมาณปี พ.ศ. 2470 มักจะนิยมสร้างเหรียญมีหูในตัว ซึ่งถูกออกแบบมาพร้อมกันกับแม่พิมพ์ ถึงเรียกกันว่า “เหรียญหู”
การสร้างพระเหรียญพระยุคเก่านั้น มักจะนิยมสร้างเหรียญเป็นทรงรูปไข่ รูปทรงอาร์ม รูปทรงกลม และทรงเสมา ซึ่งมีกรรมวิธีการปั๊มข้างเหรียญที่แตกต่างกัน ซึ่งลักษณะของขอบข้างเหรียญได้ถูกจำแนกเป็น 3 ช่วง ได้แก่
ช่วงยุคต้น คือ ช่วงประมาณปี พ.ศ 2440 – ปี พ.ศ 2485 มักนิยมสร้างเหรียญที่มีลักษณะเป็น “เหรียญปั๊มข้างเลื่อย” คือการนำแผ่นโลหะที่มีขนาดใหญ่กว่าเหรียญ มาปั๊มโดยแม่พิมพ์จากนั้นก็นำมาฉลุด้วยเลื่อยให้ได้รูปทรงตามแบบของเหรียญ
ช่วงยุคกลาง คือ ช่วงประมาณปีพ.ศ. 2459 – ปีพ.ศ 2485 มักนิยมสร้างเหรียญที่มีลักษณะเป็น เหรียญเลื่อยข้างปั๊มกระบอก คือ ใช้กรรมวิธีการสร้างเหรียญด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัยกว่าเดิม แต่มีการเลื่อยขอบสำหรับตกแต่งให้ด้านข้างของเหรียญมีลักษณะมนๆ
ช่วงยุคปลาย คือ ช่วงประมาณ 2485 ถึง 2499 มักนิยมสร้างเหรียญที่มีลักษณะเป็น การตัดปั๊มโบราณ โดยการนำเครื่องจักรมาตัดที่ขอบ แทนกรรมวิธีตัดขอบแบบเก่า
การสร้างเหรียญพระยุคใหม่ คือในช่วงปีพ.ศ. 2500 มาจนถึงปัจจุบัน เป็นการสร้างแบบใช้เครื่องจักรที่ทันสมัย จะมีการออกแบบแม่พิมพ์บนกระดาษก่อน แล้วจึงนำส่วนที่ออกแบบนั้นไปถ่ายลงบนแผ่นฟิล์ม จากนั้นก็ให้ช่างศิลป์มาแกะแบบ แล้วจึงค่อยเข้าเครื่องปั๊ม ซึ่งเป็นเครื่องจักรที่ทันสมัย และกรรมวิธีนี้จะทำให้รูปพระมีความชัดเจนกว่ากรรมวิธีการสร้างในแบบยุคเก่า
หลายท่านคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า พระพุทธสีห์ นั้น เป็นพระพุทธรูปที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองของคนไทยมาอย่างช้านาน และสำหรับวันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ เหรียญพระพุทธชินสีห์ รุ่นแรก ปี 2440 วัดบวรนิเวศวิหาร กทม. ซึ่งถือเป็นพระพุทธเหรียญแรกของประเทศไทย ที่มีความเก่าแก่และมีอายุกว่า 100 ปี ทั้งยังได้ถูกยกย่องและเรียกกันว่า “ปู่เหรียญ” อีกด้วย
เหรียญพระพุทธชินสีห์ รุ่นแรก ปี 2440 วัดบวรนิเวศวิหาร กทม. นั้น ได้ถูกสร้างหลังจากที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่5) ทรงเสด็จกลับจากประพาสยุโรป ในช่วงประมาณปี พ.ศ. 2440 และได้พระราชทานในงานสมโภชพระพุทธชินสีห์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหรียญ ที่มีความเก่าแก่และหาชมได้ยากมากในปัจจุบัน
ในด้านของพุทธคุณนั้นทรงพุทธคุณเลิศล้ำ “ครอบจักรวาล” ทั้งยังมีความงดงามในแบบพุทธศิลปะที่แปลกและแตกต่าง จึงเป็นสิ่งที่ทำให้เหล่าบรรดานักสะสมทั้งหลาย ต่างปรารถนาอยากได้มาครอบครองบูชากันเป็นอย่างมาก
สำหรับพุทธะลักษณะนั้นมีการจัดตั้งเป็น 2 แบบ คือ “เหรียญทรงกลมหูเชื่อม” มีรูปโพธิ์อยู่บริเวณตรงกลางและ “เหรียญรูปโพธิ์ไม่มีก้าน ไม่มีรูคล้องเหรียญ ขอบข้างเลื่อย” ในส่วนของกรึ่งกลางนั้น เป็นรูปจำลองจากพระพุทธชินสีห์ ทางด้านใต้ฐานจะมีอักษรไทที่เขียนว่าพระพุทธชินสีห์ ส่วนด้านหลังนั้นจะปรากฏในเส้นใบและในส่วนของปลายใบด้านบนจะลงอักขระ “อุณาโลม” และมีข้อความภาษาไทยที่เขียนว่า “งานสมโภชเมื่อเสด็จกลับจากยุโรป 2440” มี 2 เนื้อ ได้แก่ เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง และเนื้อทองแดง
เหรียญพระพุทธชินสีห์ รุ่นแรก ปี 2440 วัดบวรนิเวศวิหาร กทม.
ชื่อ | เหรียญพระพุทธชินสีห์ รุ่นแรก ปี 2440 วัดบวรนิเวศวิหาร กทม. |
ประเภท | เหรียญ |
ผู้สร้าง | พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่5) |
ศิลปะยุค | รัชกาลที่ 5 |
อายุการสร้าง | กว่า 100 |
กรรมวิธีสร้าง | สร้างแบบยุคเก่า |
เนื้อพระ/มวลสาร | เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง และเนื้อทองแดง |
การแยกพิมพ์ | “เหรียญทรงกลมหูเชื่อม” และ “เหรียญรูปโพธิ์ไม่มีก้าน ไม่มีรูคล้องเหรียญ ขอบข้างเลื่อย” |
พุทธคุณ | ครอบจักรวาล |
พุทธลักษณะ | แบบ “เหรียญทรงกลมหูเชื่อม” มีรูปโพธิ์อยู่บริเวณตรงกลางและ “เหรียญรูปโพธิ์ไม่มีก้าน ไม่มีรูคล้องเหรียญ ขอบข้างเลื่อย” ในส่วนของกรึ่งกลางนั้น เป็นรูปจำลองจากพระพุทธชินสีห์ ทางด้านใต้ฐานจะมีอักษรไทที่เขียนว่าพระพุทธชินสีห์ ส่วนด้านหลังนั้นจะปรากฏในเส้นใบและในส่วนของปลายใบด้านบนจะลงอักขระ “อุณาโลม” และมีข้อความภาษาไทยที่เขียนว่า “งานสมโภชเมื่อเสด็จกลับจากยุโรป 2440” |
มูลค่าราคาประมาณการ | องค์แท้หลักล้าน |
ได้ทราบประวัติความเป็นมากันไปแล้วต่อไปเราจะพาคุณไปรู้จักกับเหรียญยุคเก่าหายาก สำหรับเหรียญยุคเก่านั้นคือเรียนที่ถูกสร้างในช่วงประมาณปีพ.ศ. 2440 – พ.ศ. 2499 ซึ่งแน่นอนว่าในปัจจุบันสำหรับบางเหรียญนั้น หาดูกันแทบไม่ได้ และเราเชื่อว่าหากใครได้พบเห็น จะต้องปรารถนาอยากได้ไว้มาครอบครองบูชากันอย่างแน่นอน เพราะแต่ละเหรียญนั้นมีพุทธคุณที่เลิศลำอย่างมาก หากใครอยากทราบกันแล้วว่ามีเหรียญใดบ้าง เราไปดูพร้อมๆกันเลย
เหรียญแรกที่เราจะพาคุณไปรู้จักก็คือ เหรียญหลวงปู่ไข่ อินทสโร วัดบพิตรพิมุขวรวิหาร (วัดเชิงเลน) ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งตำนานเหรียญหายากในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก มีมูลค่าถึงหลักหลายล้านบาทในปัจจุบัน
สำหรับหลวงปู่ไข่ อินทสโร” วัดบพิตรพิมุขวรวิหาร (วัดเชิงเลน) นั้น หลายๆท่านที่นิยมสะสมพระเครื่อง ย่อมทราบกันดีอยู่แล้วว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้โด่งดัง ในการสร้างพระปิดตา และพระเนื้อผงคุกรัก รวมไปถึงเครื่องรางของขลังตะกรุดและวัตถุมงคลต่างๆ ที่มากด้วยพุทธคุณ จึงทำให้มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย และได้มีการสร้างเหรียญรูปเหมือนท่านขึ้น
กล่าวกันว่าได้มีการสร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ. 2472 ร่างโดยคณะศิษย์โดยการขออนุญาตจัดสร้าง ในโอกาสอายุวัฒนมงคลครบ 6 รอบ หรือ 72 ปี ซึ่งมีจำนวนการสร้างเท่ากับอายุของท่านก็คือ 72 เหรียญ ซึ่งหาได้น้อยมากในปัจจุบัน ซึ่งเป็นที่ปรารถนาสำหรับผู้คนและนักสะสมเป็นอย่างมาก หากเซียนพระคนไหนมี ก็จะถือว่าเป็นสุดยอดเซียนพระคนหนึ่งเลยก็ว่าได้
พุทธะลักษณะเป็นรูปหลวงปู่ไข่นั่งขัดสมาธิอยู่เต็มองค์ ครองจีวรเฉียง มีรูปทรงของเหรียญเป็นรูปทรงไข่ มีหูห่วง ทางด้านบนนั้นมีอักขระยันต์ ในส่วนของด้านหลังเป็นเหรียญเรียบไม่มีอักษรและอักขระยันต์ใดๆ
เหรียญหลวงปู่ไข่ อินทสโร วัดบพิตรพิมุขวรวิหาร (วัดเชิงเลน)
ชื่อ | เหรียญหลวงปู่ไข่ อินทสโร วัดบพิตรพิมุขวรวิหาร (วัดเชิงเลน) |
ประเภท | เหรียญยุคเก่า |
ผู้สร้าง | คณะศิษย์ |
ศิลปะยุค | ปี พ.ศ. 2472 |
อายุการสร้าง | กว่า 100 ปี |
กรรมวิธีสร้าง | สร้างแบบเหรียญยุคเก่า |
เนื้อพระ/มวลสาร | – |
การแยกพิมพ์ | – |
พุทธคุณ | |
พุทธลักษณะ | รูปหลวงปู่ไข่นั่งขัดสมาธิอยู่เต็มองค์ ครองจีวรเฉียง มีรูปทรงของเหรียญเป็นรูปทรงไข่ มีหูห่วง ทางด้านบนนั้นมีอักขระยันต์ ในส่วนของด้านหลังเป็นเหรียญเรียบไม่มีอักษรและอักขระยันต์ใดๆ |
มูลค่าราคาประมาณการ |
และเหรียญยุคเก่าหายากเหรียญต่อไปที่เราจะพาคุณไปรู้จักก็คือ เหรียญหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม รุ่นแรก “เหรียญเสมา พิมพ์หลังขอเบ็ด” ซึ่งถือเป็นอีก 1 เหรียญที่ได้รับการยกย่องจากผู้นิยมสะสมพระเครื่องหลายๆท่าน และถือเป็นเหรียญพระสงฆ์ยอดนิยม ที่มีผู้นิยมสูง เป็นเหรียญเสมารุ่นแรกและเป็นเหรียญยอดนิยมของวงการพระในปัจจุบัน
สำหรับเหรียญรูปเหมือนของหลวงพ่อกันพิมพ์ขอเบ็ดนี้ ได้ถูกสร้างขึ้นช่วงปีพ.ศ. 2469 สร้างขึ้น สร้างโดย พระครูศีลกิตติคุณ (อั้น คันธาโร) ซึ่งเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อกลั่น เพื่อวัตถุประสงค์ในการบูรณะพระอุโบสถวัดพระญาติ และได้มีการแจกจ่ายญาติโยมผู้มีจิตศรัทธารวมทำบุญ บูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถวัดพระญาติการาม จำนวนการสร้างในครั้งนั้นมีทั้งหมดเพียง 3,137เหรียญ แบ่งเป็นเนื้อเงินองค์ทองจำนวน 12 เหรียญ, เนื้อเงินจำนวน100 เหรียญ, เนื้อเงินองค์นากจำนวน 25 เหรียญ และเนื้อทองแดงจำนวน 3,000 เหรียญ
สำหรับพุทธะลักษณะนั้นมีลักษณะเป็นเหรียญรูปเสมา มีหู ด้านหน้าของเหรียญนั้น เป็นรูปหลวงพ่อกลั่นอยู่ในอิริยาบถนั่งขัดประมาทบนตั่งขาสิงห์ ล้อมรอบด้วยอักขระที่เขียนว่า “นะโมพุทธายะ” และในส่วนของด้านหลังเหรียญนั้น มียางอยู่ตรงกลางและด้านล่างมีอักษรเขียนว่า “ที่รฤกในการปฏิสังขรณ์อุโบสถ” และในส่วนของยอดนั้นมียันตรงกลางเป็นตะขอ ซึ่งเป็นที่มาของพิมพ์ “ขอเบ็ด” นั่นเอง และในด้านพุทธคุณนั้นโดดเด่นในด้าน เมตตามหานิยมและอยู่ยงคงกระพัน หนังเหนียวเป็นเลิศ
เหรียญหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม รุ่นแรก “เหรียญเสมา พิมพ์หลังขอเบ็ด”
ชื่อ | เหรียญหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม รุ่นแรก “เหรียญเสมา พิมพ์หลังขอเบ็ด” |
ประเภท | เหรียญยุคเก่าหายาก |
ผู้สร้าง | พระครูศีลกิตติคุณ (อั้น คันธาโร) ศิษย์เอกหลวงพ่อกลั่น |
ศิลปะยุค | พ.ศ. 2469 |
อายุการสร้าง | กว่า 100 ปี |
กรรมวิธีสร้าง | สร้างแบบยุคเก่า |
เนื้อพระ/มวลสาร | ทองคำ |
การแยกพิมพ์ | แบ่งเป็นเนื้อเงินองค์ทองจำนวน 12 เหรียญ, เนื้อเงินจำนวน100 เหรียญ, เนื้อเงินองค์นากจำนวน 25 เหรียญ และเนื้อทองแดงจำนวน 3,000 เหรียญ รวม 3,137 เหรียญ |
พุทธคุณ | เมตตามหานิยมและอยู่ยงคงกระพัน หนังเหนียวเป็นเลิศ |
พุทธลักษณะ | เป็นเหรียญรูปเสมา มีหู ด้านหน้าของเหรียญนั้น เป็นรูปหลวงพ่อกลั่นอยู่ในอิริยาบถนั่งขัดประมาทบนตั่งขาสิงห์ ล้อมรอบด้วยอักขระที่เขียนว่า “นะโมพุทธายะ” และในส่วนของด้านหลังเหรียญนั้น มียางอยู่ตรงกลางและด้านล่างมีอักษรเขียนว่า “ที่รฤกในการปฏิสังขรณ์อุโบสถ” และในส่วนของยอดนั้นมียันตรงกลางเป็นตะขอ |
มูลค่าราคาประมาณการ |
ไปต่อกันที่ เหรียญหลวงพ่อฉุย รุ่นแรก ปี 2465 วัดคงคารามจ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวัตถุมงคลเครื่องโดยเฉพาะเหรียญรุ่นแรกนี้ ทั้งยังได้รับการยกย่องให้เหรียญหลวงพ่อฉุยนี้ เป็นเหรียญอันดับหนึ่งในเบญจภาคีเหรียญด้วย หากจะถามถึงมูลค่าราคาในปัจจุบันแล้ว ขอบอกว่าค่อนข้างสูงมากเลยทีเดียว
เหรียญหลวงพ่อฉุยรุ่นแรก นี้ได้ถูกสร้างประมาณปีพ.ศ. 2465 ได้มีการแบ่งออกเป็น 2 พิมพ์ ได้แก่ บล็อกโมมีไส้ และ ล็อกโมไม่มีสีไส้ สำหรับด้านกับคุณนั้นมีความโดดเด่นในเรื่องคงกระพันชาตรีและเมตตามหานิยม
มีรูปลักษณะเป็นเหรียญปั๊มหูเชื่อม ทรงรูปไข่ และมีเนื้อเป็นทองแดงรมดำ ด้านหน้าเป็นลวดลายดอกไม้รอบเหรียญ และมีโบประดับล้อมทั้งด้านซ้ายและด้านขวา เป็นลักษณะคล้ายกรอบครอบรูปองค์หลวงพ่อฉุย ภายในโบว์นั้นได้จารึกอักษรไทยคำว่า “พ.ศ” ด้านบนคำว่า “65” ด้านล่างขวาเขียนอักษรคำว่า “รณมุณี” และในส่วนของดั้งด้านล่างซ้ายนั้นมีอักษรคำว่า “พระสุวร” ส่วนกลางนั้นเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อฉุย ห่มจีวรและมีผ้าสังฆาฏิพาด
ในส่วนของด้านหลังเหรียญนั้นมีลักษณะเป็นยันต์ห้า คล้ายกับยันต์กระบองไขว้ และมีอักขระขอมซึ่งอ่านว่า “นะโมพุทธายะ” และตรงกลางยันนั้นเป็นอักขระขอมอ่านว่า “สะ”
เหรียญหลวงพ่อฉุย รุ่นแรก ปี 2465 วัดคงคารามจ.เพชรบุรี
ชื่อ | เหรียญหลวงพ่อฉุย รุ่นแรก ปี 2465 วัดคงคารามจ.เพชรบุรี |
ประเภท | เหรียญยุคเก่า |
ผู้สร้าง | – |
ศิลปะยุค | ปีพ.ศ. 2465 |
อายุการสร้าง | กว่า 100 ปี |
กรรมวิธีสร้าง | สร้่างแบบยุคเก่า |
เนื้อพระ/มวลสาร | เนื้อเป็นทองแดงรมดำ |
การแยกพิมพ์ | 2 พิมพ์ ได้แก่ บล็อกโมมีไส้ และ ล็อกโมไม่มีสีไส้ |
พุทธคุณ | คงกระพันชาตรีและเมตตามหานิยม |
พุทธลักษณะ | เป็นเหรียญปั๊มหูเชื่อม ทรงรูปไข่ และมีเนื้อเป็นทองแดงรมดำ ด้านหน้าเป็นลวดลายดอกไม้รอบเหรียญ และมีโบประดับล้อมทั้งด้านซ้ายและด้านขวา เป็นลักษณะคล้ายกรอบครอบรูปองค์หลวงพ่อฉุย ภายในโบว์นั้นได้จารึกอักษรไทยคำว่า “พ.ศ” ด้านบนคำว่า “65” ด้านล่างขวาเขียนอักษรคำว่า “รณมุณี” และในส่วนของดั้งด้านล่างซ้ายนั้นมีอักษรคำว่า “พระสุวร” ส่วนกลางนั้นเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อฉุย ห่มจีวรและมีผ้าสังฆาฏิพาด |
มูลค่าราคาประมาณการ |
ไปต่อกันที่ เหรียญหลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา จ. ปราจีนบุรี เป็นอีกเหรียญที่มีความเก่าแก่ และมีผู้ให้ความนิยม ปรารถนาอยากได้มาครอบครองไว้บูชากันเป็นอย่างมากแต่ค่อนข้างหายากและในปัจจุบัน
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วสำหรับพระเกจิผู้เรืองวิทยาคมอย่าง “หลวงพ่อจาด คังสโร” หรือพระครูสิทธิสารคุณ แห่งวัดบางกระเบา จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งกิตติศัพท์ของท่านนั้นจะเป็นที่เลื่องลือในเรื่องของวิชาล่องหน หายตัว และบางไพร รวมไปถึงวิชามหาอุดฯ และท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้มากมาย และมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมากในสมัยสงครามอินโดจีน
และสำหรับเหรียญหลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2484 มีลักษณะเป็นเหรียญรูปทรงกลม เป็นหูเชื่อม มี 2 เนื้อที่พบคือ เนื้อเงินและเนื้อทองแดง ด้านหน้าเหรียญนั้นตรงกลางเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อจาดครึ่งองค์ หันหน้าตรง มีอักษรเขียนที่ขอบเหรียญว่า “70 ปี แห่งอายุขัย พระครูสิทธิสารคุณ (จาด)”
ในส่วนของด้านหลังเหรียญนั้นมีรูปพระปิดตาอยู่ตรงกลางแล้วล้อมรอบด้วยกรีบดอกบัว ด้านล่างมีอักษรเขียนคำว่า “เจริญลาภ” ส่วนพุทธคุณนั้นมีความโดดเด่นในเรื่องเมตตามหานิยมและอยู่ยงคงกระพัน ล่องหนและมหาอุด
เหรียญหลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา จ.ปราจีนบุรี
ชื่อ | เหรียญหลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา จ. ปราจีนบุรี |
ประเภท | เหรียญยุคเก่า |
ผู้สร้าง | – |
ศิลปะยุค | พ.ศ. 2484 |
อายุการสร้าง | กว่า 100 ปี |
กรรมวิธีสร้าง | สร้างแบบกรรมวิธีโบราณ |
เนื้อพระ/มวลสาร | เนื้อเงินและเนื้อทองแดง |
การแยกพิมพ์ | – |
พุทธคุณ | เมตตามหานิยมและอยู่ยงคงกระพัน ล่องหนและมหาอุด |
พุทธลักษณะ | เป็นเหรียญรูปทรงกลม เป็นหูเชื่อม มี 2 เนื้อที่พบคือ เนื้อเงินและเนื้อทองแดง ด้านหน้าเหรียญนั้นตรงกลางเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อจาดครึ่งองค์ หันหน้าตรง มีอักษรเขียนที่ขอบเหรียญว่า “70ปี แห่งอายุขัย พระครูสิทธิสารคุณ (จาด)” ในส่วนของด้านหลังเหรียญนั้นมีรูปพระปิดตาอยู่ตรงกลางแล้วล้อมรอบด้วยกรีบดอกบัว ด้านล่างมีอักษรเขียนคำว่า “เจริญลาภ” |
มูลค่าราคาประมาณการ |
เราไปต่อกันเหรียญยุคเก่าหายากกับ เหรียญหลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม (รุ่นแรก) อ.ดอนตูม จ.นครปฐม และสำหรับสุดยอดพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เจ้าตำหรับเครื่องรางของขลัง และกุมารทองที่มีชื่อเสียงอันลือลั่น และเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวจังหวัดนครปฐมเป็นอย่างมาก ทั้งยังมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย
และอีกหนึ่งวัตถุมงคลที่นักสะสมพระเครื่องทั้งหลาย ต่างปรารถนาอยากได้มาครอบครองไว้บูชานั้น ก็คือเหรียญหลวงพ่อเต๋ รุ่นแรก ที่เรากำลังเอ่ยถึงอยู่นี้ ซึ่งถูกสร้างในปี พ.ศ. 2486 โดยการจัดสร้างของคณะศิษยานุศิษย์ที่สร้างร่วมกับวัดอรัญญิการาม หรือวัดสามง่ามจังหวัดนครปฐมนั่นเอง
พุทธะลักษณะของเหรียญรูปหลวงพ่อเจ๋งรุ่นแรกนี้ เท่าที่พบจะเป็นเนื้อเงินและเนื้อทองแดง เป็นทรงเหรียญปั๊มตัดโบราณด้านบนเป็นเหรียญมีหู ด้านของหน้าเหรียญจะเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเต๋ ห่มจีวรเฉียงบ่า ด้านปลายผ้าสังฆาฏินั้นเป็นแฉก ด้านล่างมีอักขระโบราณ
ด้านหลังของเหรียญนั้นจะเป็นรูปพระพุทธรูปปางลีลา มีอักขระโบราณร้องรอบวงจำนวน 5 ตัว และมีเส้นแซมตรงส้นเท้าใกล้กับฐานดอกบัว สำหรับเหรียญหลวงพ่อเต๋ รุ่นแรก นี้ มีพุทธคุณสูงในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย
เหรียญหลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม
ชื่อ | เหรียญหลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม (รุ่นแรก) อ.ดอนตูม จ.นครปฐม |
ประเภท | เหรียญยุคเก่า |
ผู้สร้าง | คณะศิษยานุศิษย์พี่สร้างร่วมกับวัดอรัญญิการาม |
ศิลปะยุค | ปี พ.ศ. 2486 |
อายุการสร้าง | กว่า 100 ปี |
กรรมวิธีสร้าง | สร้างแบบโบราณ |
เนื้อพระ/มวลสาร | เนื้อเงิน |
การแยกพิมพ์ | – |
พุทธคุณ | เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย |
พุทธลักษณะ | เป็นทรงเหรียญปั๊มตัดโบราณด้านบนเป็นเหรียญมีหู ด้านของหน้าเหรียญจะเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเต๋ ห่มจีวรเฉียงบ่า ด้านปลายผ้าสังฆาฏินั้นเป็นแฉก ด้านล่างมีอักขระโบราณ ด้านหลังของเหรียญนั้นจะเป็นรูปพระพุทธรูปปางลีลา มีอักขระโบราณร้องรอบวงจำนวน 5 ตัว และมีเส้นแซมตรงส้นเท้าใกล้กับฐานดอกบัว |
มูลค่าราคา |
ได้ทราบถึงเหรียญต่างๆกันไปแล้ว ต่อไปเราจะพาคุณไปรู้จักกับ เหรียญพระเกจิล้านนา ซึ่งเป็นเหรียญที่พวกเราทีมงานได้รวบรวมเฉพาะรุ่นที่ได้รับความนิยม ของพระเกจิอาจารย์ล้านนา และเหรียญยอดนิยมจากเมืองเหนือมาฝากกันไว้ที่นี่ หากอยากทราบไปแล้วว่ามีรุ่นไหนบ้างเราไปดูกันเลยดีกว่า
เรามาเริ่มกันที่ เหรียญพระนเรศวร รุ่น “ตองโข่” ปี ๒๕๐๓ เป็นอีกหนึ่งเหรียญที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และได้รับความนิยมสูงในภาคเหนือ และหายากมากในยุคปัจจุบัน สำหรับ เหรียญพระนเรศวร รุ่น “ตองโข่” ถูกสร้างขึ้นโดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ซึ่งได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยในสมัยนั้น
ได้มีการจัดสร้างขึ้นมาประมาณ 3,000 เหรียญ มีรูปลักษณะเป็นทรงรูปไข่ ทางด้านหน้าเป็นรูปองค์พระนเรศวรมหาราชครึ่งองค์ อยู่ในลักษณะหันข้าง มีตัวอักษรโบราณจารึกไว้ด้านบนและด้านล่าง
ทางด้านหลังเหรียญนั้นมีตัวอักษรไทยใหญ่ทั้งหมดซึ่งด้านบนมีความหมายว่าสมเด็จพระนเรศวรมหาราชา และด้านล่างคืออักษรที่บอกถึงปีที่พระองค์ทรงประสูติถึงปีที่สวรรคต (พ.ศ 2098-2148) มีพุทธคุณสูงมาก มีความโดดเด่นในทุกด้านโดยเฉพาะเรื่องคงกระพันชาตรี
เหรียญพระนเรศวร รุ่น “ตองโข่” ปี ๒๕๐๓
ชื่อ | เหรียญพระนเรศวร รุ่น “ตองโข่” ปี ๒๕๐๓ |
ประเภท | เหรียญยุคใหม่ |
ผู้สร้าง | จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ |
ศิลปะยุค | ปี พ.ศ 2503 |
อายุการสร้าง | กว่า 60 ปี |
กรรมวิธีสร้าง | กรรมวิธีการสร้างแบบยุคใหม่ |
เนื้อพระ/มวลสาร | – |
การแยกพิมพ์ | – |
พุทธคุณ | โดดเด่นในทุกด้านโดยเฉพาะเรื่องคงกระพันชาตรี |
พุทธลักษณะ | เป็นทรงรูปไข่ ทางด้านหน้าเป็นรูปองค์พระนเรศวรมหาราชครึ่งองค์ อยู่ในลักษณะหันข้าง มีตัวอักษรโบราณจารึกไว้ด้านบนและด้านล่าง ทางด้านหลังเหรียญนั้นมีตัวอักษรไทยใหญ่ทั้งหมดซึ่งด้านบนมีความหมายว่าสมเด็จพระนเรศวรมหาราชา และด้านล่างคืออักษรที่บอกถึงปีที่พระองค์ทรงประสูติถึงปีที่สวรรคต (พ.ศ 2098-2148) |
มูลค่าราคา |
ไปต่อกันที่เหรียญพระเกจิล้านนาอีกหนึ่งเหรียญ เรียกได้ว่าหายากแบบสุดๆเช่นกันนั่นก็คือ เหรียญหลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง รุ่น ทอ.๑ ปี ๒๕๑๓ ถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณปีพ.ศ. 2513 ถูกจัดตั้งโดย นาวาอากาศเอกเกษม งามเอก พร้อมคณะอีก 11 คน
มีจำนวนในการสร้างครั้งนั้นประมาณ 3000 เหรียญถูกแบ่งเป็นเหรียญเนื้อเงิน 11 เหรียญ (สำหรับผู้สร้าง) และเนื้อทองแดง 3,000 เหรียญ ในด้านของพุทธะลักษณะความสวยงามและการแบบสมัยใหม่
มีลักษณะเป็นเหรียญรูปทรงกลมมีหู องค์พระอยู่ตรงกลางมองตรงห่มจีวร พร้อมทั้งมีผ้าสังฆาฏิพาดบ่า มีอักษรที่ล้อมรอบขอบวงกลม ในส่วนของด้านหลังนั้นเป็นรูปยันต์ที่ลงอักขระ “พระคาถา พุธโธ อรหัง ธัมโม อรหัง สังโฆ อรหัง” ล้อมรอบวงกลม 8 คาบ และตรงกลางนั้นก็เป็น 3 แถว (1 คาบ)
ในด้านพุทธคุณนั้นมีความโดดเด่นในเรื่องเมตตามหานิยม อยู่ยงคงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า แคล้วคลาด
เหรียญหลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง รุ่น ทอ.๑ ปี ๒๕๑๓
ชื่อ | เหรียญหลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง รุ่น ทอ.๑ ปี ๒๕๑๓ |
ประเภท | เหรียญพระเกจิล้านนา |
ผู้สร้าง | นาวาอากาศเอกเกษม งามเอก พร้อมคณะอีก 11 คน |
ศิลปะยุค | ปี พ.ศ. 2513 |
อายุการสร้าง | กว่า 50 ปี |
กรรมวิธีสร้าง | แบบสมัยใหม่ |
เนื้อพระ/มวลสาร | เนื้อเงิน และเนื้อทองแดง |
การแยกพิมพ์ | – |
พุทธคุณ | ในด้านพุทธคุณนั้นมีความโดดเด่นในเรื่องเมตตามหานิยม อยู่ยงคงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า แคล้วคลาด |
พุทธลักษณะ | เป็นเหรียญรูปทรงกลมมีหู องค์พระอยู่ตรงกลางมองตรงห่มจีวร พร้อมทั้งมีผ้าสังฆาฏิพาดบ่า มีอักษรที่ล้อมรอบขอบวงกลม ในส่วนของด้านหลังนั้นเป็นรูปยันต์ที่ลงอักขระ “พระคาถา พุธโธ อรหัง ธัมโม อรหัง สังโฆ อรหัง” ล้อมรอบวงกลม 8 คาบ และตรงกลางนั้นก็เป็น 3 แถว (1 คาบ) |
มูลค่าราคา |
มาต่อกันที่ เหรียญครูบาเจ้าศรีวิชัย บ้านปาง ปี ๒๕๑๗ ถือเป็นเหรียญยุคใหม่ที่ใครๆ ก็ต่างปรารถนาอยากได้มาครอบครองบูชา เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ครูบาศรีวิชัย อมตเถราจารย์ ผู้เรืองวิทยาคม นั้นมีความโด่งดังเป็นอันดับหนึ่งแห่งเมืองล้านนา ที่ถึงแม้ว่าท่านจะละสังขารจากโลกไปนานแล้ว แต่ยังมีลูกศิษย์ลูกหาและมีผู้คนเลื่อมใสศรัทธา ความเชื่อในบารมีศักดิ์สิทธ์อยู่เสมอมา
เหรียญครูบาเจ้าศรีวิชัย วัดบ้านปางปี 2517 นี้ ได้ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2517 โดยมีพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ ยุคลเป็นประธานในการจัดสร้าง วัดบ้านปาง จังหวัดลำพูน และสำหรับตลอดการประกอบพิธีพุทธาภิเษกในครั้งนั้นได้มีปรากฏการณ์พระจันทร์ทรงกรดทั่วบริเวณงานพิธี
สำหรับเหรียญรุ่นนี้มีด้วยกัน 2 พิมพ์ คือ พิมพ์เศียรโล้นและพิมพ์เศียรหนาม ซึ่งพิมพ์เศียรหนามนั้น ได้รับความนิยมมากกว่าพิมพ์เศียรโล้น มีเหรียญเนื้อทองคำเป็นจำนวน 9 เหรียญ, เนื้อเงิน 579 เหรียญ , เนื้อทองแดง 5,625 เหรียญรวม และเนื้อนวะโลหะ 3,559 เหรียญ ทั้งยังมีในรูปแบบล็อกเก็ทหินอีก 227 อัน และได้มีการตอกโค้ดตัวอักษร
มีพุทธะลักษณะเป็นเหรียญรูปทรงไข่ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนครูบาเจ้าศรีวิชัย ขอบด้านซ้ายมีอักษรภาษาไทยเขียนชื่อของ “ครูบาเจ้าศรีวิชัย” ไว้ และทางด้านขวามีอักษร ส่วนตรงกลางด้านล่างนั้นมีอักษรที่เขียนถึง ปีพ.ศ. “2517” ส่วนทางด้านหลังนั้นยันต์อยู่กึ่งกลางแผ่น
ในด้านของเรื่องเมตตามหานิยมอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัย และเหรียญครูเจ้าครูบาเจ้าศรีวิชัยปี 2517 ถือเป็นอีก 1 เหรียญที่ผู้คนต้องการและปรารถนาเป็นอย่างมาก มีราคาสูงมากโดยเฉพาะเหรียญเนื้อทองคำนี้ มีผู้ให้ราคาถึง 700,000 บาท ในช่วงปี พ.ศ. 2552 – 2555 ที่ผ่านมา
เหรียญครูบาเจ้าศรีวิชัย บ้านปาง ปี ๒๕๑๗
ชื่อ | เหรียญครูบาเจ้าศรีวิชัย บ้านปาง ปี ๒๕๑๗ |
ประเภท | เหรียญพระเกจิล้านนา |
ผู้สร้าง | พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ ยุคลเป็นประธานในการจัดสร้าง |
ศิลปะยุค | ปี พ.ศ. 2517 |
อายุการสร้าง | กว่า 40 ปี |
กรรมวิธีสร้าง | สร้างแบบยุคใหม่ |
เนื้อพระ/มวลสาร | เนื้อทองแดง |
การแยกพิมพ์ | 2 พิมพ์ คือ พิมพ์เศียรโล้นและพิมพ์เศียรหนาม |
พุทธคุณ | เมตตามหานิยม อยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัย |
พุทธลักษณะ | เป็นเหรียญรูปทรงไข่ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนครูบาเจ้าศรีวิชัย ขอบด้านซ้ายมีอักษรภาษาไทยเขียนชื่อของ “ครูบาเจ้าศรีวิชัย” ไว้ และทางด้านขวามีอักษร ส่วนตรงกลางด้านล่างนั้นมีอักษรที่เขียนถึง ปีพ.ศ. “2517” ส่วนทางด้านหลังนั้นยันต์อยู่กึ่งกลางแผ่น |
มูลค่าราคา | 700,000 ขึ้นไป (องค์แท้เนื้อทอง) |
ได้ทราบเกี่ยวกับเรื่องราวของเหรียญกันไปมากมายแล้ว ต่อไปเราจะพาคุณไปพบกับเหรียญหลวงพ่อคูณ ซึ่งสำหรับคนยุคใหม่คงไม่มีใครไม่รู้จักหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ กันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะชาวโคราช ซึ่งท่านถือเป็นที่เคารพศรัทธา เป็นพระสงฆ์ในดวงใจของคนไทยทั่วประเทศ เป็นพระดี ที่มีความเมตตากรุณา เกินบรรยาย อีกทั้งยังสร้างคน สร้างวัด ทั้งยังสร้างผลงานเอาไว้มากมาย ด้วยเกียรติคุณแห่งอำนาจบารมี จึงทำให้ท่านได้รับการการขนานนามว่าเป็น “เทพเจ้าแห่งที่ราบสูง” และในครั้งนี้เราจะพาคุณไปดูเหรียญหลวงพ่อคูณ ที่ท่านได้สร้างเอาไว้ ซึ่งในปัจจุบันแต่ละรุ่นที่เราได้นำมาฝากนี้ ถือเป็นรุ่นหายากและมีราคาสูง อยากทราบกันแล้วเหรียญใดบ้างเราไปดูกันเลยดีกว่า
เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นแรก ปี 2512
ชื่อ | เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นแรก ปี 2512 |
ประเภท | ยุคพระยุคใหม่ |
ผู้สร้าง | หลวงพ่อคูณ |
ศิลปะยุค | ปี พ.ศ 2512 |
อายุการสร้าง | กว่า 50 ปี |
กรรมวิธีสร้าง | สร้างแบบยุคใหม่ |
เนื้อพระ/มวลสาร | เนื้อทองแดงรมดำ |
การแยกพิมพ์ | – |
พุทธคุณ | แคล้วคาดปลอดภัย และเมตตามหานิยมเป็นเลิศ รวมทั้งพุทธคุณอีกมากมาย |
พุทธลักษณะ | เป็นเหรียญรูปทรงไข่ ทางด้านหน้าเหรียญเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อคูณครึ่งองค์ พร้อมทั้งมีตัวอักษรล้อมรอบที่เขียนไว้ว่า “พระอาจารย์คูณ ปริสุทฺโธ” และทางด้านล่างนั้นมีจุด 2 จุด ที่เขียนว่า””วัดบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา” ในส่วนของด้านหลังเหรียญนั้น มีการลงอักขระยันต์ที่ถูกเขียนเอาไว้ตรงกลาง โดยล้อมด้วยตัวอักษรที่เขียนเอาไว้ว่า “ที่ระลึกฉลองพระประธาน วัดแจ้งนอก ในเมืองนครราชสีมา ๙ ส.ค. ๑๒” |
มูลค่าราคา | หลักล้าน- ล้านปลายๆ (องค์แท้) |
มาต่อกันเลยดีกว่ากับ เหรียญหลวงพ่อคูณ ปี 2517 ซึ่งในการสร้างเรียนทั้งนั้นมีเหตุการณ์ที่ถือเป็นตำนานให้กับเราชาวโคราชให้ไม่ลืมกันเลยทีเดียว แต่สำหรับเหรียญหลวงพ่อคูณรุ่นยนต์จะถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2517 ซึ่งวัตถุประสงค์ในการสร้างเหรียญก็เพื่อ นำไปสร้างกุฎิสงฆ์หลังใหญ่ 2 ชั้น
ก่อนอื่นต้องขออนุญาตย้อนไปเมื่อปีพ.ศ. 2513 ซึ่งในช่วงปีนั้นหลวงพ่อคูณท่านได้อาพาธ จึงได้มีการรักษาตัวอยู่ที่ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมานี้ และท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดสระแก้ว ในช่วงปี 2513 – 2527 รวมเป็นระยะเวลาประมาณ 15 ปี
ซึ่งในขณะที่หลวงพ่อคูณท่านได้อาพาธอยู่นั้น ท่านก็ได้มองเห็นถึงความยากลำบากของพระสงฆ์ที่อยู่ในวัด เพราะมีเพียงกุฎิสงฆ์แบบที่มีเพียงสังกะสีเล็กๆมุงอยู่ แม้ในยามฝนตกหลังคาก็รั่วจนเปียกฝน และบางหลังก็ไม่สามารถพักได้ ดังนั้นหลวงพ่อคูณท่านจึงมีความคิดว่าต้องการสร้างกุฎิ 2 ชั้น เพื่อใช้เป็นหอฉัน เป็นห้องพักของสงฆ์ และเป็นทั้งศาลาการเปรียญ จึงสร้างเหรียญขึ้นมาเพื่อให้ญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมทำบุญ จนสามารถรวบรวมเงินและนำมาสร้างกุฎิสงฆ์หลังใหญ่ได้สำเร็จ และเป็นประโยชน์มาจนถึงคนรุ่นหลังในปัจจุบันนี้
สำหรับลักษณะของเหรียญนั้นเป็นเหรียญรูปทรงไข่ เป็นรูปเหมือนของหลวงพ่อคูณครึ่งองค์ ห่มจีวรและมีผ้าสังฆาฏิพาดที่บ่า มีอักษรที่เขียนด้านล่างว่า “วัดบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทด นครราชสีมา” ทางด้านของหลังเหรียญนั้นมีบรรจุชะตา ของหลวงพ่อคูณ และมีอักษรภาษาขอมที่เป็นพระคาถาล้อมอยู่เขียนว่า “สะนิทัสสะนะ อัปปะฏิคา” “มะอะอุ” ซึ่งเป็นพระคาถามหาอุด
ในส่วนของพุทธคุณนั้นมีความเข้มขลังในด้านอยู่ยงคงกระพันฟันแทงไม่เข้า มหาอุด
เหรียญหลวงพ่อคูณ ปี 2517
ชื่อ | เหรียญหลวงพ่อคูณ ปี 2517 |
ประเภท | เหรียญพระยุคใหม่ |
ผู้สร้าง | หลวงพ่อคูณ |
ศิลปะยุค | ปี พ.ศ 2517 |
อายุการสร้าง | กว่า 40 ปี |
กรรมวิธีสร้าง | สร้างแบบยุคใหม่ |
เนื้อพระ/มวลสาร | |
การแยกพิมพ์ | – |
พุทธคุณ | อยู่ยงคงกระพันฟันแทงไม่เข้า มหาอุด |
พุทธลักษณะ | เป็นเหรียญรูปทรงไข่ เป็นรูปเหมือนของหลวงพ่อคูณครึ่งองค์ ห่มจีวรและมีผ้าสังฆาฏิพาดที่บ่า มีอักษรที่เขียนด้านล่างว่า “วัดบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทด นครราชสีมา” ทางด้านของหลังเหรียญนั้นมีบรรจุชะตา ของหลวงพ่อคูณ และมีอักษรภาษาขอมที่เป็นพระคาถาล้อมอยู่เขียนว่า “สะนิทัสสะนะ อัปปะฏิคา” “มะอะอุ” ซึ่งเป็นพระคาถามหาอุด |
มูลค่าราคา | หลักแสนบาท (องค์แท้) |
มาต่อกันที่ เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นสร้างบารมี ปี 2519 ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีราคาแพงมากในปัจจุบันและหายากแบบสุดๆ เป็นเหรียญอีกหนึ่งรุ่นที่นัดที่ไหนต่างปรารถนาอยากได้มาครอบครองบูชาซึ่งในปัจจุบัน มีผู้ให้ราคาถึงหลักหลายล้านบาท
สำหรับเหรียญหลวงพ่อคูณรุ่นสร้างบารมีนี้ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2519 เป็นเหรียญรุ่นที่ 3 ของหลวงพ่อคูณ ซึ่งมีพุทธลักษณะที่สวยงามแบบสมัยใหม่เป็นอย่างมาก ได้มีการสร้างไว้หลายเนื้อ และจำนวนการสร้างในครั้งนั้น มีเนื้อทองคำจำนวน 9 เหรียญ , เนื้อเงินจำนวน 199 เหรียญ เนื้อนวะโลหะจำนวน 999 เหรียญ และเนื้อทองแดงรมดำจำนวน 2519 เหรียญ (ซึ่งเป็นการสร้างตามจำนวน ปีพ.ศ. ที่สร้าง)
มีรูปลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่ ทางด้านหน้านั้นเป็นรูปเหมือนของหลวงพ่อคูณนั่งสมาธิเต็มองค์ มีอักษรที่เขียนทางด้านล่างว่า “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” ในส่วนด้านหลังเหรียญนั้นมีอักขระเขียนอักษรคำว่า “วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา”
เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นสร้างบารมี ปี 2519
ชื่อ | เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นสร้างบารมี ปี 2519 |
ประเภท | เหรียญพระยุคใหม่ |
ผู้สร้าง | – |
ศิลปะยุค | ปี พ.ศ. 2519 |
อายุการสร้าง | กว่า 40 ปี |
กรรมวิธีสร้าง | สร้างแบบยุคสมัยใหม่ |
เนื้อพระ/มวลสาร | เนื้อทองคำ |
การแยกพิมพ์ | – |
พุทธคุณ | อำนาจบารมี เมตตามหานิยม มหาลาภ |
พุทธลักษณะ | เป็นเหรียญรูปไข่ ทางด้านหน้านั้นเป็นรูปเหมือนของหลวงพ่อคูณนั่งสมาธิเต็มองค์ มีอักษรที่เขียนทางด้านล่างว่า “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” ในส่วนด้านหลังเหรียญนั้นมีอักขระเขียนอักษรคำว่า “วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา” |
มูลค่าราคา | หลักล้าน |
คาถาแคล้วคลาด หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ
(ตั้งนะโมฯ 3 จบ ตั้งจิตให้มั่น)
“พุทธัง นพไกรเข้ามาอยู่ในตัวกู ให้แคล้วคลาดศัตรู วินาสสันติ
ธัมมัง นพไกรเข้ามาอยู่ในตัวกู ให้แคล้วคลาดศัตรู วินาสสันติ
สังฆัง นพไกรเข้ามาอยู่ในตัวกู ให้แคล้วคลาดศัตรู วินาสสันติ”
คาถาเรียกเงิน ของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ
“พุทธังโหม ธัมมังโหม สังฆังล้อม อันตะรายาวินาศสันติ”
ได้รู้จักกับเหรียญต่างๆ กันมากมายแล้ว ต่อไปเราจะพาคุณไปดูเหรียญมูลค่าหลักล้าน ที่มีราคาสูงถึงหลักล้านและบางเหรียญอาจมีราคาถึงหลักหลายล้านกันเลยทีเดียว มีทั้งเหรียญยุคเก่าและเห็นยุคใหม่ รวมทั้งประวัติความเป็นมาและพุทธคุณที่เราได้นำมาฝากคุณในครั้งนี้ด้วย หากจะทราบกันแล้วว่ามีเหรียญรุ่นใดบ้างนั้น เราไปดูกันเลยดีกว่า
เริ่มกันที่ เหรียญหลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง รุ่นแรก ปี 2460 ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2460 ถือเป็นเหรียญยุคเก่า เป็นเหรียญมูลค่าหลักล้านที่หายากอีกหนึ่งเหรียญมีราคาสูงมากในปัจจุบัน ซึ่งมีผู้ให้ค่านิยมประมาณหลายล้านบาทเลยทีเดียว เนื่องด้วยมีพุทธคุณที่สูงและปาฏิหาริย์อันเป็นที่ลือลั่น มาจนถึงปัจจุบัน
สำหรับเหรียญหลวงพ่อโต รุ่นแรกปี 2460 หรือที่นิยมเรียกกันว่า “เหรียญหลวงพ่อโตพิมพ์เศียรเล็ก” ซึ่งสาเหตุที่เรียกกันว่า “พิมพ์เศียรเล็ก”หรือ “พิมพ์เศียรถั่วงอก” นั้น ก็เพราะพระเศียรของพระอัครสาวกทางด้านซ้ายและด้านขวานั้น ที่เป็นพระโมคคัลลาและพระสารีบุตรนั้น จะมีเศียรที่เล็กกว่าองค์หลวงพ่อโตที่นั่งอยู่ตรงกลาง มีลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปอาร์ม มีหูในตัว มีเนื้อมวลสารนั้นเป็นเนื้อทองแดง ที่มีทั้งทองแดงกะไหล่เงิน และทองแดงกะไหล่ทอง
สำหรับด้านพุทธคุณนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์ที่ครบครันในทุกๆด้าน ครอบจักรวาล จนเป็นที่เลื่องลือมาจนถึงยุคปัจจุบัน
“เหรียญหลวงพ่อโต วัดพนัญเชิงรุ่นแรก ปี 2460”
ชื่อ | เหรียญหลวงพ่อโต วัดพนัญเชิงรุ่นแรก ปี 2460 |
ประเภท | เหรียญยุคเก่า |
ผู้สร้าง | – |
ศิลปะยุค | ปี พ.ศ. 2460 |
อายุการสร้าง | กว่า 100 ปี |
กรรมวิธีสร้าง | สร้างแบบยุคเก่า |
เนื้อพระ/มวลสาร | เนื้อทองแดง |
การแยกพิมพ์ | – |
พุทธคุณ | มีความศักดิ์สิทธิ์ที่ครบครันในทุกๆด้าน ครอบจักรวาล |
พุทธลักษณะ | องค์หลวงพ่อโตที่นั่งอยู่ตรงกลาง มีลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปอาร์ม มีหูในตัว มีเนื้อมวลสารนั้นเป็นเนื้อทองแดง ที่มีทั้งทองแดงกะไหล่เงิน และทองแดงกะไหล่ทอง พระเศียรของพระอัครสาวกทางด้านซ้ายและด้านขวานั้น ที่เป็นพระโมคคัลลาและพระสารีบุตรนั้น จะมีเศียรที่เล็กกว่า องค์หลวงพ่อโตที่นั่งอยู่ตรงกลาง |
มูลค่าราคา | หลักหลายล้าน |
มารู้จักกันในเหรียญต่อไปที่มีมูลค่าหลักล้าน นั่นก็คือ เหรียญหลวงปู่เอี่ยม รุ่นแรก ยันต์สี่ วัดหนัง กทม. ซึ่งใครหลายคนคงทราบถึงชื่อเสียงของท่านในเรื่องของการสร้างวัตถุมงคลและรู้จักกันดีอยู่แล้วสำหรับ หลวงปู่เอี่ยม สุวณฺณสโร หรือ ท่านเจ้าคุณเฒ่า อดีตเจ้าอาวาสวัดหนัง
สำหรับ เหรียญหลวงปู่เอี่ยม รุ่นแรก ยันต์สี่ นี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2467 โดยหลวงปู่เอี่ยมท่านอนุญาตให้มีการจัดสร้างเหรียญเพื่อเป็นที่ระลึก และได้แจกให้กับญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาในการบริจาคปัจจัย เพื่อร่วมทำบุญปฏิสังขรณ์ศาลาการเปรียญที่ชำรุดทรุดโทรม ผู้คนในยุคปัจจุบันให้การยกย่องว่าเป็นหนึ่งใน 5 เหรียญยอดนิยม ที่มีราคาสูงเป็นอย่างมาก
มีพุทธะลักษณะเป็นรูปเหมือนหลวงปู่เอี่ยมวัดนั่งสมาธิบนฐานขาสิงห์ รูปเหรียญเป็นทรงใบเสมา ด้านขอบเหรียญมีหูในตัว ในส่วนของด้านหน้าและด้านหลังนั้น มีการแกะลวดลายกระหนกอย่างงดงามที่ขอบเหรียญ ด้านข้างของขอบเหรียญนั้นเป็นลักษณะแบบเลื่อย ในส่วนเหนือศรีษะของหลวงปู่มีอักขระที่เขียนว่า “พุธโธ” และด้านล่างใต้ฐานขาสิงห์นั้นมีอักขระขอมที่เขียนเป็นชื่อท่านคือ “ภาวนาโกศลเถระ”
ได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 พิมพ์ ซึ่งทางวงการพระมักจะเรียกกันว่ายันสี่สี่จุด และยันตีสามจุด ซึ่งมีการเรียกตาม. ให้ปลาที่ข้างตัวพอพานและเลข 7 ในส่วนของเหรียญด้านหลัง มีด้วยกันหลายเนื้อคือเนื้อทองคำเนื้อเงินและเนื้อทองแดง ในส่วนของพุทธคุณนั้นมีความเข้มขลังครบทุกด้าน เรียกได้ว่า ครอบจักรวาล !
เหรียญหลวงปู่เอี่ยม รุ่นแรก ยันต์สี่ วัดหนัง กทม.
ชื่อ | เหรียญหลวงปู่เอี่ยม รุ่นแรก ยันต์สี่ วัดหนัง กทม. |
ประเภท | เหรียญยุคใหม่ |
ผู้สร้าง | – |
ศิลปะยุค | ปี พ.ศ. 2467 |
อายุการสร้าง | กว่า 90 ปี |
กรรมวิธีสร้าง | สร้างแบบยุคเก่า |
เนื้อพระ/มวลสาร | เนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อทองแดง |
การแยกพิมพ์ | 2 พิมพ์ ยันสี่สี่จุด และยันตีสามจุด |
พุทธคุณ | ครอบจักรวาล ไม่ว่าจะเป็น แคล้วคลาด ปลอดภัย เมตตามหานิยม โชคลาภ คงกระพันชาตรี |
พุทธลักษณะ | เป็นรูปเหมือนหลวงปู่เอี่ยมวัดนั่งสมาธิบนฐานขาสิงห์ รูปเหรียญเป็นทรงใบเสมา ด้านขอบเหรียญมีหูในตัว ในส่วนของด้านหน้าและด้านหลังนั้น มีการแกะลวดลายกระหนกอย่างงดงามที่ขอบเหรียญ ด้านข้างของขอบเหรียญนั้นเป็นลักษณะแบบเลื่อย ในส่วนเหนือศรีษะของหลวงปู่มีอักขระที่เขียนว่า “พุธโธ” และด้านล่างใต้ฐานขาสิงห์นั้นมีอักขระขอมที่เขียนเป็นชื่อท่านคือ “ภาวนาโกศลเถระ” |
มูลค่าราคา | หลักหลายล้าน |
มาดูกันที่อีกหนึ่งเหรียญมูลค่าหลักล้านที่เราได้นำมาฝากคุณในครั้งนี้ เหรียญพระพุทธโสธร รุ่นแรก ปี 2460 ซึ่งหาดูกันแทบไม่ได้เลยในยุคปัจจุบันก็ว่าได้ หรือหากใครมีก็คงไม่มีใครอยากจะปล่อยกันเป็นแน่แท้ องค์ปลอมก็มาก องค์แท้ก็ดูยาก จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เหล่าบรรดานักสะสมและเซียนพระทั้งหลาย ต่างปรารถนาอยากได้มามีไว้ในครอบครองเป็นอย่างมาก
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วสำหรับพระพุทธรูป “หลวงพ่อโสธร” ที่มีฤทธานุภาพและอภินิหารมากมายของชนชาวไทย ซึ่งได้ประดิษฐานอยู่ ณ พระอุโบสถวัดโสธรวรารามวรวิหารจังหวัดฉะเชิงเทรา เนื่องด้วยได้รับความนิยมจากเหล่าประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ จึงได้มีการจัดสร้างเหรียญหลวงพ่อโสธรขึ้น
สำหรับ เหรียญพระพุทธโสธร รุ่นแรก ปี 2460 หรือเรียกกันว่าเหรียญอาร์ม รุ่นแรก ปี 2460 นี้ ถือเป็นเหรียญพระพุทธที่มีมูลค่าแพงที่สุดในประเทศไทย ในปัจจุบันมีผู้ให้ราคาสูงถึงหลักหลายสิบล้านเลยทีเดียว และอย่างที่เราได้กล่าวกันไว้ข้างต้นแล้วว่า แทบจะหาดูกันไม่ได้เลยเพราะมีน้อยมาก และเป็นเหรียญพระพุทธที่ ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน “ชุดเบญจภาคีเหรียญพระพุทธ” อีกด้วย
การจัดสร้าง “เหรียญพระพุทธโสธร รุ่นแรก” นี้ ได้มีการสร้างขึ้นในปี พ.ศ 2460 เพื่อวัตถุประสงค์ในการนำมามอบให้แก่พสกนิกรที่มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคทรัพย์ ในการซ่อมแซมฐานชุกชีขององค์โสธร โดยมีขุนศิรินิพัฒน์ เป็นผู้ดำเนินงาน
ในการสร้างเหรียญครั้งนั้น มีด้วยกัน 2 แบบ คือเหรียญรูปเสมา(แจกเฉพาะกรรมการ) และเหรียญรูปอาร์ม มีด้วยกันทั้งหมด 4 เนื้อ ก็คือเนื้อทองคำ เนื้อสัมฤทธิ์ เนื้อเงิน และเนื้อทองแดง ลักษณะภายในของเหรียญรูปอาร์มนั้นจะมีหูในตัว ขอบข้างเลื่อย และตรงกลางนั้นจะเป็นรูปองค์พระพุทธโสธรประทับนั่งอยู่บนฐานอาสนะ และมีอักษรไทยเขียนอยู่ด้านใต้ฐานอาสนะว่า “พ.ศ ๒๔๖๐” ซึ่งหมายถึงปีที่สร้างนั่นเอง ทางด้านหลังนั้นมีอักขระขอมอยู่ 4 บรรทัด ซึ่งอ่านว่า “นะโมพุทธายะ อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง”
มีด้วยกันทั้งหมด 3 พิมพ์ ได้แก่พิมพ์สระอุติดไม่ชัด, พิมพ์สระอุติดชัด และพิมพ์สระอุติดไม่ชัดและมีรอยเป็นเส้นแตก จึงนิยมเรียกกันว่า “พิมพ์แตก”
เหรียญพระพุทธโสธร รุ่นแรก ปี 2460
ชื่อ | เหรียญพระพุทธโสธร รุ่นแรก ปี 2460 |
ประเภท | เหรียญพระพุทธยุคเก่า |
ผู้สร้าง | – |
ศิลปะยุค | ปี พ.ศ 2460 |
อายุการสร้าง | กว่า 100 ปี |
กรรมวิธีสร้าง | แบบยุคเก่า |
เนื้อพระ/มวลสาร | มี 4 เนื้อ ก็คือเนื้อทองคำ เนื้อสัมฤทธิ์ เนื้อเงิน และเนื้อทองแดง |
การแยกพิมพ์ | 3 พิมพ์ ได้แก่พิมพ์สระอุติดไม่ชัด, พิมพ์สระอุติดชัด และพิมพ์สระอุติดไม่ชัดและมีรอยเป็นเส้นแตก จึงนิยมเรียกกันว่า “พิมพ์แตก” |
พุทธคุณ | ครอบจักรวาล ครบทุกด้าน |
พุทธลักษณะ | ลักษณะภายในของเหรียญรูปอาร์มนั้นจะมีหูในตัว ขอบข้างเลื่อย และตรงกลางนั้นจะเป็นรูปองค์พระพุทธโสธรประทับนั่งอยู่บนฐานอาสนะ และมีอักษรไทยเขียนอยู่ด้านใต้ฐานอาสนะว่า “พ.ศ ๒๔๖๐” ซึ่งหมายถึงปีที่สร้างนั่นเอง ทางด้านหลังนั้นมีอักขระขอมอยู่ 4 บรรทัด ซึ่งอ่านว่า “นะโมพุทธายะ อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง” |
มูลค่าราคา | หลักหลายล้านบาท (องค์เนื้อทองคำ) |
พระคาถาบูชา พระพุทธโสธร
(ตั้งนะโมฯ 3 จบ)
“นะ ทรงฟ้า โม ทรงดิน พุทธ ทรงสินธุ์ ธา ทรงสมุทร
ยะ ทรงอากาศ พุทธังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด
สังฆังแคล้วคลาด ศัตรูพาล วินาศสันติ
นะ กาโร กุกกุสันโธ สิโรมัชเฌ โมกาโร โกนาคะมะโน
นานาจิตเต พุทธกาโร กัสสะโป พุทโธ จะ ทะเวเนเต
ธา กาโร ศรีศากกะยะมุนี โคตะโม ยะกันเน
ยะ กาโร อะริยะ เมตตรัยโย ชิวหาทีเต
ปัญจะพุทธา นะมามิหัง”
สำหรับเรื่องราวและประวัติความเป็นมาของพระเหรียญโลหะ ต่างๆ ที่เราได้นำมาฝากท่านผู้อ่านกันในครั้งนี้ ผ่านบทความ รวมประวัติความเป็นมาการสร้าง “พระเหรียญโลหะ” พร้อมเหรียญหายาก! เมื่อสักครู่ พวกเราทีมงานหวังว่าท่านผู้อ่านจะถูกใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่รักและชื่นชอบพระเหรียญอยู่แล้ว รวมไปถึงเรื่องราวของ พระเหรียญโลหะ เหรียญหลวงพ่อคูณ เหรียญมูลค่าหลักล้าน เหรียญพระเกจิล้านนา และ เหรียญยุคเก่าหายาก และอื่นๆที่เราได้รวบรวมนำข้อมูลมาฝากคุณในครั้งนี้
สำหรับวันนี้ก่อนจากกัน พวกเราทีมงาน ขออำนาจบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายรวมทั้งอำนาจพุทธคุณจากพระเกจิอาจารย์ปกปักษ์รักษาท่านผู้อ่านทุกท่าน ให้ปลอดภัยจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสร้ายในครั้งนี้ เราจะผ่านพ้นไปด้วยกัน และครั้งนี้ต้องขออนุญาตลากันไปก่อน หากผิดพลาดประการใดพวกเราทีมงานต้องขออภัย ณ ที่นี้ แล้วพบกันใหม่กับบทความในครั้งหน้า จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับพระในแบบใดมาฝากกันอีกนั้นต้องห้ามพลาด ขอขอบพระคุณท่านผู้อ่านทุกท่านสำหรับการติดตามอ่านเสมอมา
ความเป็นมาของเหรียญ puttharugsa
เหรียญตัดขอบ ubonpra
รวมข่าวสารเกี่ยวกับพระเครื่อง เครื่องราง เหรียญ วัตถุมงคล พระ พระบูชา จัดอันดับพระเครื่อง พระเครื่องในภาคกลาง พระเครื่องในภาคอีสาน พระเครื่องในภาคตะวันออก พระเครื่องในภาคตะวันตก พระเครื่องในภาคเหนือ พระเครื่องในภาคใต้ พระเครื่องยอดนิยม ประวัติพระ