ประวัติความเป็นมาของ พระวิสุทธิสมาจาร(หลวงปู่ศรี) แห่ง วัดอ่างศิลา เมืองชลบุรี !

เรียกได้ว่าเป็นดินแดนแห่งพระปิดตาก็เลยก็ว่าได้สำหรับ เมืองชลบุรี และในครั้งนี้เราจะพาคุณมาทราบถึง ประวัติความเป็นมาของ พระวิสุทธิสมาจาร(หลวงปู่ศรี) แห่ง วัดอ่างศิลา เมืองชลบุรี ! ซึ่งท่านคือหนึ่งในสุดยอดพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงอีกหนึ่งท่านในช่วงยุคสมัย ปีพ.ศ 2400 มาจนถึง ปีพ.ศ 2500 และ วัตถุมงคลรวมถึงพระปิดตาของท่านก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงอันเป็นที่เลื่องชื่อไม่น้อย และได้ถูกจัดอันดับให้อยู่ในความนิยมลำดับต้นๆกันเลยทีเดียว แต่ก็น้อยคนนักที่จะรู้จัก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ในครั้งนี้พวกเราจะพาคุณไปพบกับเรื่องราวที่น่าสนใจกันดังต่อไปนี้ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราไปรับชมประวัติความเป็นมาของท่านกันเลยดีกว่า ประวัติของ พระวิสุทธิสมาจาร(หลวงปู่ศรี) แห่ง วัดอ่างศิลา เมืองชลบุรี สำหรับพระวิสุทธิสมาจารหรือบางท่านมักจะเรียกท่านว่าเจ้าคุณศรี แต่โดยส่วนใหญ่แล้วชาวบ้านมักจะพากันเรียกกันว่าหลวงปู่ศรี จนติดปาก เดิมนั้นท่านมีนามว่า ศรี ยูถะสุนทร เป็นชาวอ่างศิลาจังหวัดชลบุรีมาโดยกำเนิด เป็นบุตรของนายทองและนางเอียง มีพี่น้องทั้งหมดประมาณเจ็ดคน และท่านเกิดในช่วงปีพ.ศ. 2414 ตรงกับวันศุกร์ที่ 28 เดือนเมษายน หลวงปู่ศรีนั้นท่านค่อนข้างมีความเฉลียวฉลาด มีสติปัญญาและไหวพริบเป็นเลิศตั้งแต่วัยเด็ก จึงทำให้ผู้หลักใหญ่มักจะชื่นชม และหนึ่งในนั้นก็คือบิดามารดาของท่านที่เห็นแววความเฉลียวฉลาดนี้ จึงได้พาท่านไปฝากกับพระครูสุวรรณณาทร (เที่ยง) ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงแท้แท้ของท่าน ซึ่งพระครูสุวรรณาทรนี้ท่านก็ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดอ่างศิลา หลวงปู่ศรีจึงได้มีโอกาสเล่าเรียนทั้งทางด้านอักขระภาษาขอมและเรียนเขียนหนังสือภาษาไทย รวมไปถึงการเขียนเลขยันต์ในชั้นต้น เป็นเด็กที่ความจำดีและค่อนข้างว่านอนสอนง่ายจึงทำให้ผู้ใหญ่รักและเมตตาอย่างมากโดยเฉพาะหลวงลุงของท่าน เมื่อเวลาผ่านไปหลวงปู่ศรีอายุได้ประมาณ 20 ปีบริบูรณ์ท่านก็ได้เข้าพิธีอุปสมบทบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ ซึ่งพระที่เป็นพระอุปัชฌาย์ให้ท่านก็คือ […]
ประวัติความเป็นมา “เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อพร พุทฺธสโร” แห่ง วัดดอนเมือง!

อาจกลายเป็นเหรียญหายากกันไปซะแล้วสำหรับ เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อพร พุทฺธสโร วัดดอนเมือง เนื่องจากมีอ่ยุเก่าแก่ไม่น้อย อีกทั้งยังมีคำร่ำลือว่าพุทธสูง จึงเป็นเหตุผลที่เราจะมาบอกถึง ประวัติความเป็นมา “เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อพร พุทฺธสโร” แห่ง วัดดอนเมือง! ในวันนี้ ซึ่งพวกเราทีมงานได้รวบรวมเนื้อสาระมาฝากท่านผู้อ่านที่ชื่นชอบพระเครื่อง และศรัทธาในหลวงพ่อพร แห่งวัดดอนเมือง ณ ที่นี้ และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราจะพาคุณไปพบกับประวัติที่สำคัญของเหรียญรุ่นนี้กันเลยค่ะ ประวัติความเป็นมาของ “หลวงพ่อพร พุทฺธสโร” วัด ดอนเมือง สำหรับหลวงพ่อพรหรือที่ใครหลายคนมักจะเรียกกันว่าหลวงปู่พรนั้นเดิมทีท่านเป็นชาวอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ท่านเกิดในช่วงปีพ.ศ. 2412 ในวันที่ 6 เมษายนบิดาของท่านชื่อนายแจ้ง เจริญดี และมารดาของท่านชื่อนางสุ่น เจริญดี ต่อมาในช่วงปีพ.ศ. 2444 ท่านก็ได้เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ในวัดในจังหวัดนนทบุรีต่อมา เนื่องจากท่านเป็นพระบุ๊คกิ้งคลาสและมีจริยวัฒน์อันงดงามมีความประพฤติปฏิบัติเป็นที่น่าเลื่อมใสของเราชาวบ้านญาติโยมและพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดกรุงเทพอย่างมาก และต่อมาท่านก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสแห่งวัดดอนเมือง ในช่วงปีพ.ศ. 2460 และท่านเป็นเจ้าอาวาสดอนเมืององค์แรก หลวงพ่อพรถือเป็นพระนักพัฒนาและท่านได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดให้มีความเจริญรุ่งเรืองและดูใหม่อยู่เสมอเป็นที่เคารพศรัทธาของเหล่าบรรดาลูกศิษย์ลูกหา เมื่อครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้นท่านได้สร้างพระและวัตถุมงคลเอาไว้อย่างมากมายจนเมื่อถึงปีพ.ศ. 2484 ท่านก็ได้มรณภาพด้วย Siri อายุ 72 ปีและครองพรรษาได้ถึง 40 พรรษา […]
ประวัติความเป็นมาของ “พระปิดตาหลวงปู่จีน” แห่งวัดท่าลาด ของดี เมืองฉะเชิงเทรา!

แห่งเอ่ยถึงเมืองธรรมะที่มีพระศักดิ์สิทธิ์อยู่มากมายใกล้กรุงเทพฯ หลายคนอาจจะนึกถึงจังหวัดฉะเชิงเทราขึ้นมาทันที และแน่นอนว่าครั้งนี้เราจะมาเล่าถึง ประวัติความเป็นมาของ “พระปิดตาหลวงปู่จีน” แห่งวัดท่าลาด ของดี เมืองฉะเชิงเทรา! เพื่อให้แฟนๆเว็บไซต์ส่องพระของเราที่ศรัทธาหลวงปู่จีนได้ทราบถึงประวัติความเป็นมาโดยละเอียดที่นี่ และครั้งนี้เราไม่ทำให้คุณต้องผิดหวังกันอย่างแน่นอน ดังนั้นเราไปชมถึงสิางที่น่าสนใจก้นได้เลยด้วต่อไปนี้ ! ประวัติหลวงปู่จีนวัดท่าลาดจังหวัดฉะเชิงเทรา สำหรับหลวงปู่จีนนั้นเรียกได้ว่าท่านคือสุดยอดพระเกจิอีกรูปหนึ่งที่ค่อนข้างมีพุทธาคมอันแก่กล้า ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ได้สร้างวัตถุมงคลอย่างมากมายที่มีพุทธคุณสูงหลวงปู่จีนนั้นเป็นพระผู้มีเมตตาทำอย่างมากซึ่งประวัติของท่านนั้นไม่ได้มีการบันทึกเอาไว้จึงทำให้ไม่มีใครทราบถึงประวัติอย่างแท้จริง แต่ได้มีการสันนิษฐานกันว่าหลวงปู่จีนนั้นเกิดในช่วงประมาณปีพ.ศ. 2357 และต่อมาในช่วงปีพ.ศ. 2497 หลวงปู่จีนก็ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าลาด ในจังหวัดจะเชิงเทรา หลวงปู่จีนนั้นเป็นพระเกจิยุคเดียวกันกับหลวงพ่อแก้ว แห่งวัดเครือวัลย์ นอกจากนี้หลวงปู่จีนยังเป็นได้สร้างพระปิดตา ที่มีเนื้อผงคุกรักอันมีชื่อเสียงโด่งดังจนกลายเป็นที่เรื่องลือ เป็นวัตถุมงคลที่เรากำลังจะนำมาเล่าให้ท่านได้ทราบกันในวันนี้ หลวงปู่จีนนั้นเป็นผู้มีอภิญญาและค่อนข้างเชี่ยวชาญทางด้านพุทธาคมรวมทั้งวิปัสสนาธุระอย่างมากท่านได้ช่วยเหลือชาวบ้านยามเจ็บไข้ได้ป่วยรักษาชาวบ้านอย่างเสมอมาด้วยจิตที่เมตตา ต่อมาในช่วงปีพ.ศ. 2440 หลวงปู่จีนได้มรณภาพลงซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เราลูกศิษย์ลูกค้าต่างพากันโศกเศร้าไม่น้อย ซึ่งรวมสิริอายุของท่านได้ประมาณ 83 ปี แต่ถึงแม้ว่าท่านจะได้มรณภาพไปเกือบ 100 ปีแล้วชื่อเสียงของท่านก็ยังคงอยู่และลูกศิษย์ลูกค้ารวมถึงคนยุคใหม่ก็ยังคงเคารพศรัทธาถึงท่านหลวงปู่จีนอย่างมิเสื่อมคลาย ความเป็นมาของ วัดท่าลาด จ.ฉะเชิงเทรา สำหรับวัดท่าลาดหรือวัดท่าลาดเหนือแห่งนี้ ปัจจุบันตั้งอยู่ในอำเภอพนมสารคามของจังหวัดฉะเชิงเทราอยู่ ณ ตำบลท่าถ่าน เป็นวัดที่มีคณะสงฆ์เป็นฝ่ายมหานิกาย วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงปีพ.ศ. 2395 ซึ่งผู้สร้างก็คือพระยาเขมรที่ได้มีการอพยพมาจากเมืองพระตะบอง หลังจากนั้นประมาณปีเศษหลังจากที่ได้ทำการสร้างเสร็จแล้วก็มีพระที่เดินธุดงค์มาที่นี่ถึงสามรูป จากนั้นชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนั้น เมื่อได้พบเห็นจริยาวัฒน์ที่มีความเคร่งครัดต่อการปฎิบัติของพระทั้งสามรูป จึงเกิดความเลื่อมใสและศรัทธา จากนั้นก็ได้ทำการในวันเพื่อให้พระทั้งสามรูปนั้นได้เข้ามาจำพรรษาอยู่ ณ วัดท่าลาดแห่งนี้ เมื่อจำพรรษาอยู่ที่นี่ไม่นานพระอีกสองรูปก็ได้ออกเดินธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆต่อ […]
ความเป็นมาพระกำลังแผ่นดิน (พระสมเด็จจิตรลดา ปี พ.ศ.2509) พระเครื่องทรงคุณค่าแห่งยุค !

หากจะเอ่ยถึงพระเครื่องล้ำค่า ที่ชาวไทยค่อนข้างหวงแหนในยุคสมัยรัชกาลที่ 9 แล้ว ใครหลายคนอาจจะนึกถึงพระกำลังแผ่นดินหรือพระสมเด็จจิตรลดากันอย่างแน่นอน ไม่ได้ครั้งนี้เราจะมาบอกเล่าถึง ความเป็นมาพระกำลังแผ่นดิน (พระสมเด็จจิตรลดา ปี พ.ศ.2509) พระเครื่องทรงคุณค่าแห่งยุค ! ให้คุณได้ทราบและเชื่อว่าที่มาสุดคลาสสิคนี้จะต้องตรึงตราตรึงใจใครคนกันอย่างแน่นอน และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราจะพาคุณมารู้จักกับรายละเอียดของประวัติที่มาดังต่อไปนี้กันเลย ความเป็นมาของ “ พระสมเด็จจิตรลดา ปีพ.ศ.2509” เหตุผลที่เป็นพระทรงคุณค่าของประชาชนชาวไทยเนื่องจากเป็นพระที่ถูกสร้างขึ้น จากฝีพระหัตถ์ของ องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชหรือรัชกาลที่ 9 ของเรานั่นเอง ซึ่งการสร้างพระในขณะนั้นถือเป็นครั้งแรกของพระองค์ พระองค์ทรงตรวจพุทธลักษณะขององค์พระด้วยพระองค์เอง ต่อมาในช่วงปีพ.ศ 2508 เมื่อทุกอย่างสำเร็จลุล่วงทุกประการตามพระประสงค์แล้ว จึงทรงโปรดให้เทหล่อขึ้นเป็นพระพุทธรูปจากนั้นได้มีพระประสงค์ให้ส่งมอบไปตามจังหวัดต่างๆ ในช่วงปี พ.ศ. 2509 ต่อมาในช่วงปี พ.ศ 2510-2013 ก็ได้มีการสร้างพระขึ้นมาเพิ่มเติม เนื่องจากในช่วงเวลานั้นได้มีสถานการณ์สงครามเย็นเกิดขึ้น ระหว่างการคอมมิวนิสต์ที่มีผู้นำเป็นสหภาพโซเวียต กับค่ายทุนนิยมเสรีโดยมีประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำ ซึ่งในขณะนั้นได้มีการเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ไปอย่างมากมายในประเทศไทย ประกอบไปด้วยความรุนแรงทั้งหลาย มีการรบราฆ่าฟันกันเกิดขึ้น โดยเฉพาะในบริเวณชนบท ตามยุทธศาสตร์ของป่าล้อมเมือง และเมื่อนายทหาร ตำรวจต่างๆ รวมถึงผู้ที่ได้รับพระราชทานสมเด็จจิตรลดาปีแล้วก็มักจะบูชาขึ้นคอ แต่ก่อนที่จะบูชาขึ้นคอนั้นจะต้องปิดทองเสียก่อน แต่ให้ปิดเฉพาะด้านหลังขององค์พระเท่านั้น และความหมายของการปิดทองทั้งด้านหลังพระนั้นก็มีนัยยะสำคัญที่หมายถึง การทำความดีนั้นไม่จำเป็นต้องให้ใครรู้ การทำความดีไม่จำเป็นต้องโอ้อวดใครเหมือนกับสุภาษิตคําพังเพยที่ว่า “ ปิดทองหลังพระ” […]
ประวัติความเป็นมาสุดขลัง “ พระปรุหนัง เนื้อชินเงิน” กรุวัดมหาธาตุ จ.พระนครศรีอยุธยา !

ถือเป็นอีกหนึ่งพระเครื่องหายากสำหรับ พระปรุหนัง กรุวัดมหาธาตุ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่ามีความเก่าแก่และสวยงาม ด้วยความปราณีตในการสร้างที่มีมาตั้งแต่ยุคอยุธยาตอนต้น วันนี้เราจะมาบอกเล่าถึง ประวัติความเป็นมาสุดขลัง “ พระปรุหนัง เนื้อชินเงิน” กรุวัดมหาธาตุ ! พร้อมกับจะมาอธิบายถึงพุทธลักษณะขององค์พระเหล่าบรรดานักสะสมได้ทราบข้อมูลการเพิ่มขึ้น หากอยากทราบกันแล้วว่าเนื้อหาสาระที่เราได้นำมาฝากในวันนี้มีความน่าสนใจอย่างไรกันบ้างนะน้องอย่ารอช้าเข้าไปชมรายละเอียดพร้อมกันได้เลยดังต่อไปนี้ วัดมหาธาตุ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รักเรียกว่าธรรมะเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ได้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ยุคสมัยของ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 ตั้งแต่ในช่วงปีพ. ศ. 1917 น่าจะทำถึงอายุอานามของวัดแห่งนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นกลักร้อยปีกันเลยทีเดียว แต่ก็ยังไม่ทันแล้วเสร็จ เนื่องจากสมเด็จพระรามาธิบดีที่1 ท่านได้ทรงเสด็จสวรรคตจากไปเสียก่อน ต่อมาภายหลังวัดแห่งนี้ก็ได้มีการสร้างเพิ่มเติม จนแล้วเสร็จในช่วงยุคสมัยของสมเด็จพระราเมศวร ช่วงปีพศ. 1917 และได้มีปรากฏอยู่ในฉบับพระราชหัตถเลขาของพระราชพงศาวดาร จังหวัดอย่างนี้ได้เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ และในสมัยก่อนได้เป็นศูนย์กลางสำหรับจัดพระราชพิธีต่างๆท้องยุบทำไมอยุธยากำลังรุ่งเรือง ซึ่งได้มีสมเด็จพระสังฆราชในยุคสมัยนั้น อยู่ในวัดแห่งนี้ด้วยเช่นกัน แต่เป็นพระสังฆราช ฝ่ายคามวาสี แต่พระสังฆราชฝ่ายอรัญวาสีได้ประทับอยู่อีกวัดหนึ่ง ซึ่งก็คือวัดใหญ่ชัยมงคลในปัจจุบันซึ่งในสมัยนั้นงวดนี้จะถูกเรียกกันว่าวัดป่าแก้ว ถัดมาในช่วงยุคสมัยของพระเจ้าทรงธรรม ยอดพระปรางค์ทางเดินนั้นได้เกิดการทลายลง แต่ก็ยังไม่ได้มีการซ่อมแซม ต่อมาจนถึงในยุคของสมเด็จพระเจ้าปราสาททองก็ได้มีการบูรณะขึ้นมาใหม่ จนมีความสุขมากถึง 25 วา หรือในช่วงปีพ.ศ 2476 นั่นเอง ต่อมาจนถึงวาระที่ได้เกิดการเสียกรุงครั้งที่ 2 วัดมหาธาตุแห่งนี้ก็ได้ถูกเผาทำลายไปจนเหลือเพียงซากปรักหักพังเท่านั้น ซึ่งเราสามารถเข้าไปท่องเที่ยวหรือเยี่ยมชมได้ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอยุธยา ซึ่งตำแหน่งที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับวัดราชบูรณะ […]
ที่มาสุดขลัง “พระนางพญา กรุวัดดาวเสด็จ จังหวัดสระบุรี” พระเครื่องล้ำค่าที่ใครๆก็ตามหา !

สำหรับใครที่ชื่นชอบพระกรุเป็นเดิมอยู่แล้วต้องไม่ควรพลาดเพราะในครั้งนี้เราจะพาคุณนายแผนที่จังหวัดสระบุรีและมารู้จักกับกรุวัดดาวเสด็จ ทั้งยังจะพาคุณมาทราบถึง ที่มาสุดขลัง “พระนางพญา กรุวัดดาวเสด็จ จังหวัดสระบุรี” พระเครื่องล้ำค่าที่ใครๆก็ตามหา ! เพราะเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่ามีกรุมากมายในประเทศไทยที่มีความเก่าแก่ ก่อนหน้านี้พวกเราทีมงานส่องพระก็ได้พูดถึงจังหวัดอื่นๆกันไปมากมายแล้ว แต่ในครั้งนี้เราจะพาคุณไปยังกรุในจังหวัดสระบุรีกันบ้าง หากอยากทราบกันแล้วว่าเรื่องราวในวันนี้จะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้นต้องอย่ารอช้าเข้ามาชมรายละเอียดไปพร้อมกันได้เลยดังต่อไปนี้ ก่อนอื่นต้องขออนุญาตย้อนไปถึงประวัติความเป็นมาของวัดเก่าแก่ที่มีชื่อว่าวัดดาวเสด็จกันเสียก่อน เนื่องจากวัดแห่งนี้ค่อนข้างมีความเก่าแก่ และมีมาตั้งแต่สมัยโบร่ำโบราณถูกสร้างขึ้นในสมัยอยุธยา และเป็นอีกวัดหนึ่งที่มีความรุ่งเรืองมากในยุคนั้น เดิมทีได้มีตำแหน่งที่ตั้งตรงข้ามแม่น้ำป่าสัก จากนั้นในช่วงปี 2370 ได้มีการสร้างใหม่และมีตำแหน่งตั้งอยู่ในพื้นที่ของเขตหมู่บ้านดาวเรือง ที่ราบริมฝั่งแม่น้ำป่าสักเช่นกัน ณ จังหวัดสระบุรีในปัจจุบัน จึงได้มีการตั้งชื่อขึ้นมาใหม่ว่าวัดดาวเรือง และในปัจจุบันผู้คนสมัยใหม่ก็จะรู้จักกันดีในชื่อว่าวัดดาวเรือง ซึ่งนำโดยเจ้าอาวาสของวัดในช่วงนั้น ซึ่งก็คือหลวงพ่อแหย่ง หากมีใครถามถึงในเรื่องของพระกรุพระเครื่องที่มีความเก่าแก่วัดดาวเรืองหรือวัดดาวเสด็จนี้ ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งวัดที่ค่อนข้างขุดพบพระเครื่องโบราณมากมายเช่นกัน เมื่อครั้งแต่กรุวัดแห่งนี้ได้มีการค้นพบกับพระเครื่องหลากหลายพิมพ์ และมีความโบราณมากอย่าง พระซุ้มกระรอก , พระกำแพงหน้าอิฐ ,พระนาคปรก ,พระปรกโพธิ์ เพียงเอ่ยชื่อก็นับว่าขนรุกกันไปอย่างมากมายแล้ว เนื่องจากพระแต่ละองค์ที่ได้กล่าวมานี้ล้วนแล้วแต่นับว่าเป็นพระในตำนานเลยก็ว่าได้ เป็นพระที่ใครหลายคนใฝ่ฝันและหายากมากในปัจจุบันจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าในแต่ละพิมพ์นั้นย่อมเป็นที่หมายตาหมายใจของเหล่าบรรดาผู้นิยมสะสมพระเครื่องกันอยู่แล้ว รวมถึงพระนางพญาที่เรากำลัจะมาพูดถึงในวันนี้ เรียกได้ว่าเป็นพระที่มีเอกลักษณ์และทรงคุณค่ามากกับชาวจังหวัดสระบุรี สำหรับพระนางพญาของกรุวัดดาวเสด็จหรือวัดดาวเรืองแห่งนี้ มีความคล้ายคลึงกับพระนางพญาแห่งวัด นางพญาในจังหวัดพิษณุโลกอย่างมาก อีกทั้งยังมีพุทธคุณสูงและโดดเด่นในเรื่องของเมตตามหานิยม ค่อนข้างมีความเข้มขลังไปทางโชคลาภ วาสนานำพาอย่างมาก จึงและไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครๆก็ต่างใฝ่หาและอยากได้มีไว้บูชาครอบครอง หากจะเอ่ยถามถึงในเรื่องของราคาแล้วเราก็คาดว่าไม่น่าจะตอบกันได้เนื่องจากแน่นอนว่าราคาค่อนข้างสูง และยังอาจจะะมีการราคาอัพขึ้นกันอยู่เรื่อยๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นพระนางพญาพิมพ์หลังอูมสีแดงด้วยแล้ว ต้องขอบอกเลยว่าเราอาจได้เห็นของจริงกันยาก เนื่องจากเป็นพระเครื่องเก่าแก่มากจึงค่อนข้างหายาก หรือเท่าที่เราได้พบเห็นกันอยู่ก็ไม่ทราบว่าองค์ไหนของใครจะแท้หรือองค์ไหนของใครปลอมกันบ้างซึ่งทั้งนี้เราต้องสอบถามจากผู้รู้ ขุดพบ […]
ปาฏิหาริย์ “พระของขวัญ พระผงรุ่นแรก” หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ !

หากมีการพูดถึงพระของขวัญของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เชื่อได้เลยว่าไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก เนื่องจากพระของขวัญพระผงศักดิ์สิทธิ์นี้ เป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก ดังเช่นในสมัยสงครามเกาหลี ที่มีรัฐบาลไทยสมัยนายพล ป.พิบูลสงคราม ที่ได้ส่งทหารไทยไปช่วยรบและรอดชีวิตกลับมาในครั้งนั้น ในวันนี้จึงได้นำ ปาฏิหาริย์ “พระของขวัญ พระผงรุ่นแรก ของหลวงพ่อวัดปากน้ำ”ภาษีเจริญ ! มาฝากกันในครั้งนี้ เพราะมีความศักดิ์สิทธิ์และได้สร้างปาฏิหาริย์ในการคุ้มครองเหล่าทหารให้ได้รับความปลอดภัยจากการรบได้อย่างเหลือเชื่อ และใครหลายคนมักเก็บไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้สามารถต่อสู้ได้อย่างแข็งแกร่ง ไม่หวั่นแม้ต้องเผชิญกับระเบิดหรือปืนใหญ่ที่ยิงเข้ามาจากฝ่ายตรงข้าม และยังคงเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนรุ่นหลังได้ถึงเล่าขานต่อๆกันมา รวมทั้งยังทำให้พระเครื่องรุ่นนี้กลายเป็นอีกหนึ่งรุ่นยอดนิยม เรียกได้ว่าผู้นิยมสะสมพระเครื่องหลายๆท่านต่างใฝ่หากันเลยทีเดียว เพราะเชื่อกันว่าหากใครได้พกติดตัวก็จะยิ่งเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและปกปักรักษาคุ้มครองผู้มีไว้ในครอบครอง และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปพบกับสิ่งที่น่าสนใจกันเลยดีกว่า ! พุทธประวัติ พระของขวัญเป็นพระผงรุ่นแรกที่สร้างขึ้นมาเมื่อปีพุทธศักราช 2493 จำนวน84,,000องค์เป็นรุ่นแรกเนื่องจากไม่พอแจกให้แก่ญาติโยมที่ชวนกันมาทำบุญเป็นจำนวนมาก จึงได้สร้าง รุ่น 2 ในปี 2494 อีก 84,000 องค์ และรุ่น3ในปี 2499 อีก 84,000 องค์ โดยหลวงพ่อสดปากน้ำ ภาษีเจริญ (สด จันทสโร) หรือพระมงคลเทพมุนี สร้างขึ้นมาเพื่อมอบให้แก่ลูกศิษย์ลูกหา และญาติโยมที่ได้ทำบุญสมทบทุนสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม ทำบุญด้วยเงิน 25 บาทขึ้นไป จะได้รับพระของขวัญหนึ่งองค์ และได้รับจากมือของหลวงพ่อเองจึงจะศักดิ์สิทธิ์ […]
ที่มาพระเครื่องเลื่องชื่อ พุทธคุณสูง “หลวงพ่อปาน พิมพ์ ทรงไก่หางพวง” วัดบางโคนม !

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าพระเครื่องและวัตถุมงคลต่างๆ ของหลวงพ่อปานวัดบางนมโคนั้น ค่อนข้างมีความโดดเด่นในเรื่องของพุทธคุณอันเป็นเลิศ ทั้งนี้เนื่องด้วยมีการนำส่วนประกอบของ ผงวิเศษ 3 สูตร มาใช้ในการสร้างพระซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ยากจะมีใครเหมือน ในครั้งนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับ ที่มาพระเครื่องเลื่องชื่อ พุทธคุณสูง “หลวงพ่อปาน พิมพ์ ทรงไก่หางพวง วัดบางโคนม” ! กันค่ะ และถึงแม้ว่าหลวงพ่อปานท่านได้ละสังขารไปนานหลายปีแล้ว แต่ยังคงมีลูกศิษย์ลูกหาเลื่อมใสศรัทธาและระลึกถึงไม่เสื่อมคลาย และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปชมรายละเอียดที่น่าสนใจกันเลยดีกว่า ! หลวงพ่อปานวัดบางนมโค จังหวัดพระนครศรอุยธยาได้เริ่มปลุกเสกพระเครื่องขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พุทธศักราช 2450 มีด้วยกันหลายพิมพ์ วงการพระเรียกกันว่าพิมพ์โบราณ ต่อมาในปี พุทธศักราช 2460 ได้สร้างพระเครื่องขึ้นมาอีกครั้ง รวม6 ชนิด ซึ่งได้แก่ พิมพ์ทรงนก พิมพ์ทรงไก่ พิมพ์ทรงปลา พิมพ์ทรงเม่น , พิมพ์ทรงครุฑ และพิมพ์ทรงหนุมาน ในแต่ละพิมพ์ก็จะมีพิมพ์ย่อยลงมาอีกมากมาย ตัวอย่างเช่นพิมพ์ทรงไก่ ก็จะมีพิมพ์ทรงไก่หางพวง ได้รับความนิยมสูงสุด รองลงมาคือ พิมพ์ไก่หางรวม,พิมพ์ไก่หางสามเส้น พิมพ์ไก่หางสี่เส้นบัวสองชั้น พิมพ์ไก่หางสี่เส้นบัวชั้นเดียว พิมพ์ไก่หางห้าเส้น และพิมพ์ไก่ยันต์แถวเดียว เป็นต้น พุทธลักษณะ พุทธลักษณะด้านหน้าของ พระเครื่องหลวงพ่อปาน […]
ประวัติความเป็นมาของ “พระปิดตา แร่บางไผ่ หลวงปู่จัน วัดโมลี” อีกหนึ่งพระดีเมืองนนฯ ที่ใครๆก็ตามหา !

หากเอ่ยถึงนามหลวงปู่จัน ใครหลายคนคงจะต้องนึกถึงวัตถุมงคลที่ท่านได้สร้าง ในช่วงยุคสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่กันอย่างแน่นอน และในครั้งนี้เราจะมาพูดถึงประวัติความเป็นมาของ “พระปิดตา แร่บางไผ่ หลวงปู่จัน วัดโมลี” อีกหนึ่งพระดีเมืองนนฯ ที่ใครๆก็ตามหา ! พร้อมทั้งได้นำเรื่องราวของหลวงปู่จันมาฝากกันไว้ที่นี่ เพื่อให้แฟนๆของชาวส่องพระ และผู้ที่เคารพเลื่อมใสหลวงปู่จัน ณ วัดโมลี จังหวัดนนทบุรีเป็นเดิมอยู่แล้วได้ทราบกันมากยิ่งขึ้น หากอยากทราบกันแล้วว่าจะมีเรื่องราวความเป็นมาอย่างไรบ้างนั้น เราไปชมพร้อมๆกันได้เลยดังนี้ ก่อนอื่นต้องขออนุญาตย้อนไปถึงในช่วงสมัยรัชกาลที่3 เนื่องจากได้มีการสร้างวัดโมลีขึ้นในช่วงเวลานั้นประมาณปีพ.ศ. 2369 โดยมีเจ้าอาวาสที่มีนามว่า “เถื่อน” เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ต่อมาหลวงปู่จันก็ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสรูปที่สามแห่งวัดโมลี และท่านได้สร้างวัตถุมงคลชิ้นเอกซึ่งก็คือ “พระปิดตามหาอุด เนื้อแร่บางไผ่ ” อันสร้างชื่อเสียงโด่งดังจนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งประเทศ เนื่องด้วยมีพุทธคุณอันเป็นเลิศ จนได้รับการยกย่องให้เป็นพระปิดตาเนื้อโลหะที่เป็นหนึ่งในชุดเบญจภาคี ซึ่งได้รับความนิยมสูงมากและในปัจจุบันนั้นก็มีราคาที่ค่อนข้างเอื้อมถึงยากเช่นกัน เนื่องจากหาของแท้ได้ยากมาก และเรียกได้ว่าเป็นที่ใฝ่ฝันของเหล่าบรรดานักสะสมพระเครื่องทั้งหลายอีกหนึ่งองค์ ประวัติความเป็นมาของหลวงปู่จัน สำหรับหลวงปู่จันนั้นเดิมท่านเป็นชาวกัมพูชาโดยกำเนิด เกิดในประเทศกัมพูชา(เขมร) ช่วงประมาณปี 2355 ท่านได้อุปสมบทและศึกษาธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด จนได้ออกเดินธุดงค์แสวงบุญมาจากประเทศกัมพูชา จนมาถึงอำเภอบางบัวทองจังหวัดนนทบุรี ครั้งที่ท่านได้ธุดงค์มายังประเทศไทยในช่วงแรกๆนั้น ชาวบ้านในละแวกนั้นต่างพากันล่ำลือว่า มีพระที่เก่งในเรื่องรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้กับชาวบ้านซึ่งเป็นพระชาวเขมรถึง2องค์ อีกทั้งยังมีจริยวัตรที่งดงามอันน่าเลื่อมใสจนทำให้ชาวบ้านต่างพากันศรัทธา ต่อมาเมื่อวัดโมลีได้ขาดเจ้าอาวาส จึงนิมนต์ให้พระชาวเขมรรูปนั้นได้เป็นเจ้าอาวาสวัดรูปต่อไป โดยความพร้อมใจของชาวบ้านและผู้เลื่อมใสศรัทธาในยุคนั้น ซึ่งก็คือพระภิกษุจัน นั่นเอง จากนั้นก็ได้มีคำร่ำลือถึงพระภิกษุจันว่าท่านเป็นพระเกจิผู้มีวิชาอาคมอันแก่กล้า สามารถล่องหนยนระยะทางได้ […]
ประวัติความเป็นมา “พระขุนแผนเคลือบ กรุวัดใหญ่ชัยมงคล” ของดีเมืองอยุธยา !

กลับมาพบกับเรื่องราวที่เกี่ยวกับพระและพระเครื่องต่างๆจากพวกเราได้เช่นเคย หากจะเอ่ยถึงพระพระขุนแผนก็ต้องขอบอกเลยว่ามีอยู่ด้วยกันหลายรุ่น และในครั้งนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ ประวัติความเป็นมา “พระขุนแผนเคลือบ กรุวัดใหญ่ชัยมงคล” ของดีเมืองอยุธยา ! เพื่อให้คุณได้ทราบกันมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ได้ห่างหายกันไปนานเราเชื่อว่าจะต้องมีแฟนๆชาวส่องพระ ที่คิดถึงพวกเรากันอย่างแน่นอน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ในครั้งนี้ได้มีการรวบรวมเรื่องราวของประวัติความเป็นมา พร้อมทั้งจะมาบอกถึงเรื่องพุทธลักษณะและพุทธคุณ เพื่อให้แฟนๆที่ชื่นชอบพระขุนแผนเป็นทุนเดิมอยู่แล้วได้ทราบกันมากยิ่งขึ้น และอาจมีใครเคยสงสัยว่าทำไมพระขุนเคลือบจึงค่อนข้างได้รับความนิยมสูง อีกทั้งยังมีราคาที่ค่อนข้างเอื้อมถึงยาก ในครั้งนี้เราจะมาบอกเล่าเพื่อไขข้อสงสัยให้กับคุณ หากอยากทราบกันแล้วว่าน่าสนใจอย่างไรบ้าง ต้องอย่ารอช้ากันอยู่เลย เราไปชมพร้อมๆกันได้เลยดังนี้ ก่อนอื่นเราจะขออนุญาตพูดถึงวัดใหญ่ชัยมงคลกันเสียก่อน เนื่องจากเป็นวัดที่มีความเก่าแก่ และค่อนข้างมีความสำคัญมากในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาของประเทศไทยเรานี้ ซึ่งในสมัยก่อนเดิมมีชื่อว่า “วัดพญาไทย” ซึ่งได้มีการสันนิษฐานว่าเป็นวัดที่ถูกสร้างมาตั้งแต่ในสมัยอยุธยาในช่วงก่อนมีการสถาปนากรุงศรีอยุธยา ซึ่งถือว่ามีระยะเวลาอันยาวนานพอสมควร ซึ่งได้เป็นที่ประทับของพระสังฆราชฝ่ายขวา ที่มักจะเรียกกันว่า ฝ่ายวัดป่าแก้ว ซึ่งพระสังฆราชแห่งวัดปากแก้วนี้ ท่านคือพระอาจารย์ของพระสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งมีสมณศักดิ์ว่าสมเด็จพระพนรัตน์ นั่นเอง สำหรับพระขุนแผนเคลือบ วัดใหญ่ชัยมงคล นี้ถือเป็นพระเครื่องที่ค่อนข้างนิยมและมีชื่อเสียงเรื่องลือมากเป็นอันดับหนึ่งของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื่องด้วยมีพุทธะศิลปะและพุทธะลักษณะที่มีความงดงามสวยและมีพุทธคุณเป็นเลิศจึงทำให้ใครๆก็ต่างปรารถนาและอยากได้มาครอบครองเอาไว้บูชากันอย่างยิ่ง ถือเป็นพระเครื่องต้นแบบของพระพิมพ์ขุนแผนที่ได้มีการจัดสร้างต่อๆกันมาหลายยุคหลายสมัยจนถึงยุคปัจจุบัน ขออนุญาตย้อนไปถึงในช่วงยุคสมัยที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชยังทรงปกครอง หลังจากที่ท่านได้ทรงกระทำสงครามยุทธหัตถีและได้รับชัยชนะต่อพระมหาอุปราชา ก็ได้ทรงโปรดฯให้สร้าง “พระมหาเจดีย์ใหญ่” ขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์และเป็นพุทธบูชาแห่งการสงครามในครั้งนั้น ณ วัดป่าแก้ว ซึ่งเป็นที่ประทับของสมเด็จพระพนรัตน์ (หรือพระอาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวร)นั่นเอง ต่อมาสมเด็จพนรัตน์ท่านได้สร้างพระพิมพ์ไว้อย่างหลายพิมพ์และให้นำไปบรรจุไว้ที่พระมหาเจดีย์ และหนึ่งในพระพิมพ์เหล่านั้นก็คือพระขุนแผนเคลือบ ที่เหล่าบรรดาผู้นิยมสะสมพระเครื่องและนักสะสมในปัจจุบันค่อนข้างจะรู้จักกันเป็นอย่างดี และต่างใฝ่ฝันอยากได้มาครอบครองบูชากันเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยพุทธคุณอันครบครัน ที่มีความโดดเด่นในเรื่องคงกระพันชาตรี […]