ประวัติความเป็นมาของพระเกจิอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสักยันต์หนุมาน  “หลวงพ่อแล ทิตัพโพ” วัดพระทรง แห่งเมืองเพชรบุรี !   

พระเกจิอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสักยันต์หนุมาน

หากมีใครถามถึงพระเกจิอาจารย์ผู้มีความเชี่ยวชาญทางด้านสักยันต์หนุมานแห่งเมืองเพชรบุรี เชื่อว่าใครหลายคนคงจะต้องนึกถึงชื่อของหลวงพ่อแล วัดพระทรง ขึ้นมาเป็นอันดับแรกๆอย่างแน่นอน  และในครั้งนี้เราจะพาคุณมาทราบถึง ประวัติความเป็นมาของพระเกจิอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสักยันต์หนุมาน  “หลวงพ่อแล ทิตัพโพ” วัดพระทรง แห่งเมืองเพชรบุรี !  รวมทั้งจะมาบอกเล่าถึงวัตถุมงคลยอดนิยมของท่านที่ผู้คนยังคงถามหากันเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบัน ดังนั้นหากอยากทราบกันแล้วว่าสาระน่ารู้ในครั้งนี้ จะมีรายละเอียดเป็นอย่างไรบ้าง ต้องอย่ารอช้าค่ะเราไปพบกับสิ่งที่น่าสนใจพร้อมๆกันได้เลยดังต่อไปนี้   ประวัติที่มาของ “หลวงพ่อแล ทิตัพโพ”  วัดพระทรง แห่งเมืองเพชรบุรี  สำหรับหลวงพ่อแล ทิตัพโพ เชื่อว่าใครหลายคนโดยเฉพาะสายบู๊จะต้องคุ้นหูกันดีในนามของท่าน เนื่องจากท่านค่อนข้างมีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในเรื่องของการสักยันต์หนุมาน และวิชาอาคมทางด้านอยู่ยงคงกระพัน หลวงพ่อแลนั้นเดิมทีท่านมีชื่อว่า  แล วาดวงศ์ ท่านเป็นชาวจังหวัดเพชรบุรีโดยกำเนิดท่านเกิดอยู่ที่อำเภอบ้านลาด ที่ตำบลไร่มะขาม ณ บ้านไร่สัตว์ หลวงพ่อท่านเกิดในช่วงปีพ.ศ 2459 ตรงกับวันที่ 19 เดือนกรกฎาคม ท่านเป็นบุตรชายคนสุดท้องของคุณพ่ออยู่กับคุณแม่ทอง วาดวงศ์  ท่านมีพี่น้องรวมทั้งหมด 7 คน (รวมตัวท่าน)  เมื่อหลวงพ่อแลอายุได้ประมาณ 14 ปีท่านก็ได้บวชเป็นสามเณรอยู่ ณ วัดบ้านเกิด และเมื่ออายุครบบวชท่านก็เข้าพิธีบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์อย่างเต็มตัว  ณ วัดหนองไม้เหลือง ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดเพชรบุรี ท่านบวชในช่วงปีพ.ศ 2497 ในวันที่ […]

ประวัติความเป็นมาของพระเกจิอาจารย์ที่สูงที่สุดในโลก หลวงพ่อประสิทธิ์ ปสิทฺธิโก หรือ หลวงพ่อสูง วัดหนองผักชี ! 

หลวงพ่อประสิทธิ์-ปสิทฺธิโก

หากมีใครตั้งคำถามขึ้นมาว่าพระท่านใดตัวสูงที่สุดในโลก เชื่อว่าผู้คนที่รู้จักจะต้องยกมือขึ้นต่อว่าเป็นหลวงพ่อสูงแห่งวัดหนองผักชีกันอย่างแน่นอน และก็มีความเชื่อเช่นกันว่าอาจมีใครอีกหลายคนที่ไม่เคยรู้จักท่านมาก่อน สำหรับวันนี้เราจะพาคุณมาทราบ ประวัติความเป็นมาของพระเกจิอาจารย์ที่สูงที่สุดในโลก หลวงพ่อประสิทธิ์ ปสิทฺธิโก หรือ หลวงพ่อสูง วัดหนองผักชี !  ซึ่งแน่นอนว่าเราจะพาคุณมารู้จักกับหลวงพ่อสูงพร้อมกับทราบถึงประวัติความเป็นมาและผลงานของท่านในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่  เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปพบกับเรื่องราวที่น่าสนใจดังต่อไปนี้กันเลยดีกว่า   ประวัติหลวงพ่อสูง วัดหนองผักชี เขตสายไหม จังหวัดกรุงเทพฯ   สำหรับหลวงพ่อประสิทธิ์ ปสิทฺธิโก แห่ง วัดราษฎร์นิยมธรรม(หรือที่ใครหลายคนมักจะเรียกกันว่าวัดหนองผักชีในครั้งอดีต) นั้นใครหลายคนมักจะรู้จักกันดีในนามของหลวงพ่อสูง เนื่องจากรูปร่างที่ใหญ่โตซึ่งท่านมีความสูงมากกว่าผู้คนปกติ ท่านค่อนข้างมีชื่อเสียงทางด้านแก้คุณไสย และท่านเป็นพระที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตามีเมตตาธรรมสูงอีกทั้งยังชอบช่วยเหลือผู้คนที่มาขอความช่วยเหลือ โดยเฉพาะสำหรับใครที่โดนคุณไสยก็มักจะไปให้หลวงพ่อท่านช่วยรักษา    พระครูวรเวทวิศิษฏ์ หรือหลวงพ่อประสิทธิ์ และอีกหนึ่งชื่อที่ผู้คนมักจะเรียกกันว่าหลวงพ่อสูงนั้น ท่านเกิดในช่วงปีพ.ศ 2493 ซึ่งตรงกับวันที่ 9 เดือนกันยายน  มีนามสกุลว่า กลิ่นจันทร์  ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดาด้วยกันถึง 7 คนซึ่งท่านเป็นลูกชายคนที่ 2 ของคุณพ่อและคุณแม่  โดยปกติแล้วร่างกายของท่านก็เจริญเติบโตไปตามวัยปกติจนกระทั่งเมื่อท่านมีอายุได้ย่างเข้า 16 ปี  ก็ได้ทราบว่าร่างกายของท่านเริ่มผิดปกติ และแปลกไปจากเพื่อนๆรุ่นเดียวกันคือความสูงที่เจริญเติบโตเปลี่ยนแปลงและสูงขึ้นเรื่อยๆอย่างเหลือเชื่อ   จึงเป็นเหตุทำให้ทางบ้านพาท่านไปพบแพทย์และจากการตรวจสอบร่างกาย คุณพ่อและคุณแม่ของท่านจึงเกรงว่าความสุขนี้อาจเป็นอันตราย กลัวโรคภัยต่างๆจะมาเยือนจึงทำให้คุณหมอช่วยตรวจอย่างละเอียด  จากนั้นแพทย์ก็ลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าเกิดจากต่อมฮอร์โมนบางชนิดที่ทำงานผิดปกติ แต่ก็ไม่ส่งผลอันตรายหรือทำให้เกิดพิษภัยใดต่อร่างกาย  แต่ในส่วนของร่างกายที่เจริญเติบโตและสูงผิดปกตินั้นก็มีความสมบูรณ์ทุกอย่างไม่ได้มีอาการเจ็บป่วยใด  สำหรับความสูงของท่านคือ 2.32 เมตร […]

ประวัติความเป็นมาของ พระเกจิชื่อดังแห่งวัดตะโก เมืองกรุงเก่า “หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก” ! 

พระเกจิชื่อดังแห่งวัดตะโก-เมืองกรุงเก่า-หลวงพ่อรวย-ปาสาทิโก

สำหรับหลวงพ่อรวย ปาสาทิโก นั้นท่านได้มรณภาพลงในช่วงปี 2560 ที่หากนับเวลาก็ไม่นานมานี้ และเรายังเชื่อว่าถึงแม้ว่าท่านจะมรณะภาพไปแล้ว แต่ยังคงมีลูกศิษย์ลูกหาที่ยังคงเคารพศรัทธาท่านและระลึกถึงอย่างมีเสื่อ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้วันนี้เราจะพาคุณมาทราบถึง ประวัติความเป็นมาของ พระเกจิชื่อดัง แห่งวัดตะโก เมืองกรุงเก่า “หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก” ! ที่จะมาบอกเล่าถึงประวัติความเป็นมาแบบคร่าวๆของท่านให้คุณได้ทราบกัน ณ ที่นี้   และหากคุณเป็นหนึ่งคนที่เคารพศรัทธาหลวงพ่อรวยและต้องการทราบถึงประวัติความเป็นมาของท่านต้องอย่ารอช้าค่ะเราไปพบกับเรื่องราวที่น่าสนใจพร้อมๆกันได้เลยดังต่อไปนี้  ประวัติความเป็นมาของ  พ่อรวย ปาสาทิโก  แห่งวัดตะโก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำหรับท่านเจ้าคุณ พระมงคลสิทธาจารย์หรือที่เรามักจะรู้จักกันในนาม หลวงพ่อรวยนั้น อันเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ท่านเป็นพระนักปฏิบัติผู้มีจริยวัตรอันงดงามมีความเมตตาธรรมสูงและถึงแม้ว่าท่านจะได้เสียชีวิตมรณภาพลงไปแล้วแต่ยังคงมีลูกศิษย์ลูกหาและญาติโยมที่เคารพศรัทธาท่านระลึกถึงท่านอยู่เสมออย่างไม่เสื่อมคลาย  หลวงพ่อรวยท่านเกิดในช่วงปีพ.ศ 2464 วันที่ 9 เดือนธันวาคม เดิมทีท่านเป็นชาจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเกิดที่บ้านตะโก  จึงตั้งอยู่ในตำบลดอนหญ้านางของอำเภอภาชีที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ท่านเป็นลูกชายของคุณพ่อมีและคุณแม่สินลา มีพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งหมด 8 คน  บรรพบุรุษทางคุณพ่อของหลวงพ่อรวยนั้นเดิมทีท่านเป็นชาวกรุงศรีสัตตนาคนหุต ซึ่งเป็นอาณาจักรล้านช้างแต่เดิม  เมื่อท่านอายุได้ประมาณ 12 ปี  ท่านก็ได้มีโอกาสไปเรียนอยู่ที่วัดตะโก ซึ่งในสมัยโบราณการที่จะได้ศึกษาเล่าเรียนก็ย่อมเกิดขึ้นที่วัด  จึงทำให้เด็กๆส่วนใหญ่มักจะบวชเป็นสามเณรเพื่อศึกษาเล่าเรียน หรือหากใครจะไม่บวชเป็นสามเณรก็สามารถไปเรียนได้เช่นกัน ซึ่งวัดตะโกตั้งอยู่ในพื้นที่ละแวกตำบลหญ้านาง  ในขณะนั้นไม่ได้มีโรงเรียนชั้นประถม  จึงทำให้หลวงพ่อรวยท่านจึงต้องไปเรียนกับพระภิกษุอยู่บนศาลาการเปรียญ  ต่อมาเมื่อมีอายุได้ประมาณ 16 ปี […]

ประวัติความเป็นมา “หลวงปู่นาค แห่ง วัดระฆังโฆสิตาราม จ.กรุงเทพฯ”  !

หลวงปู่นาค-แห่ง-วัดระฆังโฆสิตาราม-จ.กรุงเทพฯ

หากมีใครเอ่ยถึงหลวงปู่นาคแห่งวัดระฆังโฆสิตารามจังหวัดกรุงเทพฯนี้  เชื่อว่าใครหลายคนคงจะต้องนึกถึงพระเครื่องของท่านขึ้นมาอย่างแน่นอน และหนึ่งในนั้นก็คือพระสมเด็จ ที่ใครหลายคนก็ต่างใฝ่ฝันอยากได้หรือมีไว้ในบูชาครอบครอง ในครั้งนี้เราจะพาคุณมาทราบถึง ประวัติความเป็นมา “หลวงปู่นาค แห่ง วัดระฆังโฆสิตาราม จ.กรุงเทพฯ” ! พร้อมกับจะมาบอกเล่าถึงวัตถุมงคลของหลวงปู่นาคที่ท่านได้สร้างเอาไว้ตั้งแต่ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่  ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปพบกับเรื่องราวที่น่าสนใจกันเลยดีกว่า   ประวัติความเป็นมาของหลวงปู่นาค วัดระฆัง จังหวัดกรุงเทพมหานคร  สำหรับประวัติของ พระเทพสิทธินายก อยู่ที่คนรุ่นหลังมักจะรู้จักกันในนามของหลวงปู่นาค (โสภโณ )นั้นท่านเป็นลูกหลานของสมเด็จวัดระฆังมีเชื้อสายโดยตรง และท่านได้สืบทอดวิชาการสร้างพระมาจากสมเด็จพุฒาจารย์โตพรหมรังษี โดยตรงด้วยเช่นกัน   เดิมทีนั้นหลวงปู่นาคท่านมีชื่อว่า นายนาค มะเริงสิทธิ์ ท่านเป็นชาวจังหวัดนครราชสีมาเป็นคนโคราชเกิดที่บ้านปราสาทซึ่งตั้งอยู่ในตำบลจันทร์อัด ท่านเกิดในช่วงปีพ.ศ 2427 ตรงกับวันที่ 1 เดือนสิงหาคมท่านเป็นผู้ที่เกิดวันศุกร์ตรงกับวันขึ้น 10 ค่ำเดือน 9 และปีนั้นตรงกับปีวอก คุณปู่ของหลวงปู่นาคนั้น คือขุนประสิทธิ์ (อยู่) ท่านเป็นนายอากรแห่งเมืองโคราช ส่วนคุณย่าของหลวงปู่นาคนั้นชื่อว่าคุณย่าฉิมมะเริงสิทธิ์ และหลวงปู่นาคท่านเป็นบุตรของนายป้อมกับนางสงวนนามสกุลมะเริงสิทธิ์ มีพี่น้องร่วมสายเลือดทั้งหมด 4 คน(รวมหลวงปู่นาคด้วย)   หลวงปู่นาคนั้นเป็นลูกชายคนโตของคุณพ่อ และมีน้องอีก 3 คน น้องชายของหลวงปู่นาคก็เป็นพระเช่นกันมีนามว่า พระภิกษุโชติ  มะเริงสิทธิ์  และท่านก็มีน้องสาวชื่อว่านางทุเรียน  ปภาวดี […]

ประวัติความเป็นมาของ พระวิสุทธิสมาจาร(หลวงปู่ศรี) แห่ง วัดอ่างศิลา เมืองชลบุรี !

จัดอันดับพระเครื่อง

เรียกได้ว่าเป็นดินแดนแห่งพระปิดตาก็เลยก็ว่าได้สำหรับ เมืองชลบุรี และในครั้งนี้เราจะพาคุณมาทราบถึง  ประวัติความเป็นมาของ พระวิสุทธิสมาจาร(หลวงปู่ศรี) แห่ง วัดอ่างศิลา เมืองชลบุรี ! ซึ่งท่านคือหนึ่งในสุดยอดพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงอีกหนึ่งท่านในช่วงยุคสมัย ปีพ.ศ 2400 มาจนถึง ปีพ.ศ  2500 และ วัตถุมงคลรวมถึงพระปิดตาของท่านก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงอันเป็นที่เลื่องชื่อไม่น้อย และได้ถูกจัดอันดับให้อยู่ในความนิยมลำดับต้นๆกันเลยทีเดียว แต่ก็น้อยคนนักที่จะรู้จัก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ในครั้งนี้พวกเราจะพาคุณไปพบกับเรื่องราวที่น่าสนใจกันดังต่อไปนี้ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราไปรับชมประวัติความเป็นมาของท่านกันเลยดีกว่า ประวัติของ พระวิสุทธิสมาจาร(หลวงปู่ศรี)  แห่ง วัดอ่างศิลา เมืองชลบุรี   สำหรับพระวิสุทธิสมาจารหรือบางท่านมักจะเรียกท่านว่าเจ้าคุณศรี แต่โดยส่วนใหญ่แล้วชาวบ้านมักจะพากันเรียกกันว่าหลวงปู่ศรี จนติดปาก เดิมนั้นท่านมีนามว่า ศรี ยูถะสุนทร เป็นชาวอ่างศิลาจังหวัดชลบุรีมาโดยกำเนิด เป็นบุตรของนายทองและนางเอียง มีพี่น้องทั้งหมดประมาณเจ็ดคน และท่านเกิดในช่วงปีพ.ศ. 2414 ตรงกับวันศุกร์ที่ 28 เดือนเมษายน หลวงปู่ศรีนั้นท่านค่อนข้างมีความเฉลียวฉลาด มีสติปัญญาและไหวพริบเป็นเลิศตั้งแต่วัยเด็ก จึงทำให้ผู้หลักใหญ่มักจะชื่นชม และหนึ่งในนั้นก็คือบิดามารดาของท่านที่เห็นแววความเฉลียวฉลาดนี้ จึงได้พาท่านไปฝากกับพระครูสุวรรณณาทร (เที่ยง) ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงแท้แท้ของท่าน ซึ่งพระครูสุวรรณาทรนี้ท่านก็ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดอ่างศิลา หลวงปู่ศรีจึงได้มีโอกาสเล่าเรียนทั้งทางด้านอักขระภาษาขอมและเรียนเขียนหนังสือภาษาไทย รวมไปถึงการเขียนเลขยันต์ในชั้นต้น เป็นเด็กที่ความจำดีและค่อนข้างว่านอนสอนง่ายจึงทำให้ผู้ใหญ่รักและเมตตาอย่างมากโดยเฉพาะหลวงลุงของท่าน  เมื่อเวลาผ่านไปหลวงปู่ศรีอายุได้ประมาณ 20 ปีบริบูรณ์ท่านก็ได้เข้าพิธีอุปสมบทบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ ซึ่งพระที่เป็นพระอุปัชฌาย์ให้ท่านก็คือ […]

ประวัติความเป็นมา “เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อพร พุทฺธสโร” แห่ง วัดดอนเมือง! 

จัดอันดับพระเครื่อง

อาจกลายเป็นเหรียญหายากกันไปซะแล้วสำหรับ เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อพร พุทฺธสโร วัดดอนเมือง เนื่องจากมีอ่ยุเก่าแก่ไม่น้อย อีกทั้งยังมีคำร่ำลือว่าพุทธสูง จึงเป็นเหตุผลที่เราจะมาบอกถึง ประวัติความเป็นมา “เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อพร พุทฺธสโร” แห่ง วัดดอนเมือง! ในวันนี้ ซึ่งพวกเราทีมงานได้รวบรวมเนื้อสาระมาฝากท่านผู้อ่านที่ชื่นชอบพระเครื่อง และศรัทธาในหลวงพ่อพร แห่งวัดดอนเมือง ณ ที่นี้ และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราจะพาคุณไปพบกับประวัติที่สำคัญของเหรียญรุ่นนี้กันเลยค่ะ  ประวัติความเป็นมาของ “หลวงพ่อพร พุทฺธสโร” วัด ดอนเมือง สำหรับหลวงพ่อพรหรือที่ใครหลายคนมักจะเรียกกันว่าหลวงปู่พรนั้นเดิมทีท่านเป็นชาวอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ท่านเกิดในช่วงปีพ.ศ. 2412 ในวันที่ 6 เมษายนบิดาของท่านชื่อนายแจ้ง เจริญดี และมารดาของท่านชื่อนางสุ่น เจริญดี ต่อมาในช่วงปีพ.ศ. 2444 ท่านก็ได้เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ในวัดในจังหวัดนนทบุรีต่อมา เนื่องจากท่านเป็นพระบุ๊คกิ้งคลาสและมีจริยวัฒน์อันงดงามมีความประพฤติปฏิบัติเป็นที่น่าเลื่อมใสของเราชาวบ้านญาติโยมและพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดกรุงเทพอย่างมาก และต่อมาท่านก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสแห่งวัดดอนเมือง ในช่วงปีพ.ศ. 2460 และท่านเป็นเจ้าอาวาสดอนเมืององค์แรก หลวงพ่อพรถือเป็นพระนักพัฒนาและท่านได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดให้มีความเจริญรุ่งเรืองและดูใหม่อยู่เสมอเป็นที่เคารพศรัทธาของเหล่าบรรดาลูกศิษย์ลูกหา เมื่อครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้นท่านได้สร้างพระและวัตถุมงคลเอาไว้อย่างมากมายจนเมื่อถึงปีพ.ศ. 2484 ท่านก็ได้มรณภาพด้วย Siri อายุ 72 ปีและครองพรรษาได้ถึง 40 พรรษา […]

ประวัติความเป็นมาของ “พระปิดตาหลวงปู่จีน” แห่งวัดท่าลาด ของดี เมืองฉะเชิงเทรา!

จัดอันดับพระเครื่อง

แห่งเอ่ยถึงเมืองธรรมะที่มีพระศักดิ์สิทธิ์อยู่มากมายใกล้กรุงเทพฯ หลายคนอาจจะนึกถึงจังหวัดฉะเชิงเทราขึ้นมาทันที และแน่นอนว่าครั้งนี้เราจะมาเล่าถึง ประวัติความเป็นมาของ “พระปิดตาหลวงปู่จีน” แห่งวัดท่าลาด ของดี เมืองฉะเชิงเทรา! เพื่อให้แฟนๆเว็บไซต์ส่องพระของเราที่ศรัทธาหลวงปู่จีนได้ทราบถึงประวัติความเป็นมาโดยละเอียดที่นี่ และครั้งนี้เราไม่ทำให้คุณต้องผิดหวังกันอย่างแน่นอน ดังนั้นเราไปชมถึงสิางที่น่าสนใจก้นได้เลยด้วต่อไปนี้ !  ประวัติหลวงปู่จีนวัดท่าลาดจังหวัดฉะเชิงเทรา สำหรับหลวงปู่จีนนั้นเรียกได้ว่าท่านคือสุดยอดพระเกจิอีกรูปหนึ่งที่ค่อนข้างมีพุทธาคมอันแก่กล้า ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ได้สร้างวัตถุมงคลอย่างมากมายที่มีพุทธคุณสูงหลวงปู่จีนนั้นเป็นพระผู้มีเมตตาทำอย่างมากซึ่งประวัติของท่านนั้นไม่ได้มีการบันทึกเอาไว้จึงทำให้ไม่มีใครทราบถึงประวัติอย่างแท้จริง แต่ได้มีการสันนิษฐานกันว่าหลวงปู่จีนนั้นเกิดในช่วงประมาณปีพ.ศ. 2357 และต่อมาในช่วงปีพ.ศ. 2497 หลวงปู่จีนก็ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าลาด ในจังหวัดจะเชิงเทรา หลวงปู่จีนนั้นเป็นพระเกจิยุคเดียวกันกับหลวงพ่อแก้ว แห่งวัดเครือวัลย์  นอกจากนี้หลวงปู่จีนยังเป็นได้สร้างพระปิดตา ที่มีเนื้อผงคุกรักอันมีชื่อเสียงโด่งดังจนกลายเป็นที่เรื่องลือ เป็นวัตถุมงคลที่เรากำลังจะนำมาเล่าให้ท่านได้ทราบกันในวันนี้ หลวงปู่จีนนั้นเป็นผู้มีอภิญญาและค่อนข้างเชี่ยวชาญทางด้านพุทธาคมรวมทั้งวิปัสสนาธุระอย่างมากท่านได้ช่วยเหลือชาวบ้านยามเจ็บไข้ได้ป่วยรักษาชาวบ้านอย่างเสมอมาด้วยจิตที่เมตตา ต่อมาในช่วงปีพ.ศ. 2440 หลวงปู่จีนได้มรณภาพลงซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เราลูกศิษย์ลูกค้าต่างพากันโศกเศร้าไม่น้อย ซึ่งรวมสิริอายุของท่านได้ประมาณ 83 ปี แต่ถึงแม้ว่าท่านจะได้มรณภาพไปเกือบ 100 ปีแล้วชื่อเสียงของท่านก็ยังคงอยู่และลูกศิษย์ลูกค้ารวมถึงคนยุคใหม่ก็ยังคงเคารพศรัทธาถึงท่านหลวงปู่จีนอย่างมิเสื่อมคลาย ความเป็นมาของ วัดท่าลาด จ.ฉะเชิงเทรา สำหรับวัดท่าลาดหรือวัดท่าลาดเหนือแห่งนี้ ปัจจุบันตั้งอยู่ในอำเภอพนมสารคามของจังหวัดฉะเชิงเทราอยู่ ณ ตำบลท่าถ่าน เป็นวัดที่มีคณะสงฆ์เป็นฝ่ายมหานิกาย วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงปีพ.ศ. 2395 ซึ่งผู้สร้างก็คือพระยาเขมรที่ได้มีการอพยพมาจากเมืองพระตะบอง หลังจากนั้นประมาณปีเศษหลังจากที่ได้ทำการสร้างเสร็จแล้วก็มีพระที่เดินธุดงค์มาที่นี่ถึงสามรูป จากนั้นชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนั้น เมื่อได้พบเห็นจริยาวัฒน์ที่มีความเคร่งครัดต่อการปฎิบัติของพระทั้งสามรูป จึงเกิดความเลื่อมใสและศรัทธา จากนั้นก็ได้ทำการในวันเพื่อให้พระทั้งสามรูปนั้นได้เข้ามาจำพรรษาอยู่ ณ วัดท่าลาดแห่งนี้ เมื่อจำพรรษาอยู่ที่นี่ไม่นานพระอีกสองรูปก็ได้ออกเดินธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆต่อ […]

ความเป็นมาพระกำลังแผ่นดิน (พระสมเด็จจิตรลดา ปี พ.ศ.2509) พระเครื่องทรงคุณค่าแห่งยุค ! 

พระเครื่อง

หากจะเอ่ยถึงพระเครื่องล้ำค่า ที่ชาวไทยค่อนข้างหวงแหนในยุคสมัยรัชกาลที่ 9 แล้ว ใครหลายคนอาจจะนึกถึงพระกำลังแผ่นดินหรือพระสมเด็จจิตรลดากันอย่างแน่นอน ไม่ได้ครั้งนี้เราจะมาบอกเล่าถึง ความเป็นมาพระกำลังแผ่นดิน (พระสมเด็จจิตรลดา ปี พ.ศ.2509) พระเครื่องทรงคุณค่าแห่งยุค ! ให้คุณได้ทราบและเชื่อว่าที่มาสุดคลาสสิคนี้จะต้องตรึงตราตรึงใจใครคนกันอย่างแน่นอน และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราจะพาคุณมารู้จักกับรายละเอียดของประวัติที่มาดังต่อไปนี้กันเลย  ความเป็นมาของ “ พระสมเด็จจิตรลดา ปีพ.ศ.2509” เหตุผลที่เป็นพระทรงคุณค่าของประชาชนชาวไทยเนื่องจากเป็นพระที่ถูกสร้างขึ้น จากฝีพระหัตถ์ของ องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชหรือรัชกาลที่ 9 ของเรานั่นเอง ซึ่งการสร้างพระในขณะนั้นถือเป็นครั้งแรกของพระองค์ พระองค์ทรงตรวจพุทธลักษณะขององค์พระด้วยพระองค์เอง ต่อมาในช่วงปีพ.ศ 2508 เมื่อทุกอย่างสำเร็จลุล่วงทุกประการตามพระประสงค์แล้ว จึงทรงโปรดให้เทหล่อขึ้นเป็นพระพุทธรูปจากนั้นได้มีพระประสงค์ให้ส่งมอบไปตามจังหวัดต่างๆ ในช่วงปี พ.ศ. 2509 ต่อมาในช่วงปี พ.ศ 2510-2013 ก็ได้มีการสร้างพระขึ้นมาเพิ่มเติม   เนื่องจากในช่วงเวลานั้นได้มีสถานการณ์สงครามเย็นเกิดขึ้น ระหว่างการคอมมิวนิสต์ที่มีผู้นำเป็นสหภาพโซเวียต กับค่ายทุนนิยมเสรีโดยมีประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำ ซึ่งในขณะนั้นได้มีการเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ไปอย่างมากมายในประเทศไทย ประกอบไปด้วยความรุนแรงทั้งหลาย มีการรบราฆ่าฟันกันเกิดขึ้น โดยเฉพาะในบริเวณชนบท ตามยุทธศาสตร์ของป่าล้อมเมือง และเมื่อนายทหาร ตำรวจต่างๆ รวมถึงผู้ที่ได้รับพระราชทานสมเด็จจิตรลดาปีแล้วก็มักจะบูชาขึ้นคอ แต่ก่อนที่จะบูชาขึ้นคอนั้นจะต้องปิดทองเสียก่อน   แต่ให้ปิดเฉพาะด้านหลังขององค์พระเท่านั้น และความหมายของการปิดทองทั้งด้านหลังพระนั้นก็มีนัยยะสำคัญที่หมายถึง การทำความดีนั้นไม่จำเป็นต้องให้ใครรู้ การทำความดีไม่จำเป็นต้องโอ้อวดใครเหมือนกับสุภาษิตคําพังเพยที่ว่า “ ปิดทองหลังพระ” […]

ประวัติความเป็นมาสุดขลัง “ พระปรุหนัง เนื้อชินเงิน” กรุวัดมหาธาตุ จ.พระนครศรีอยุธยา ! 

พระเครื่อง

ถือเป็นอีกหนึ่งพระเครื่องหายากสำหรับ พระปรุหนัง กรุวัดมหาธาตุ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่ามีความเก่าแก่และสวยงาม ด้วยความปราณีตในการสร้างที่มีมาตั้งแต่ยุคอยุธยาตอนต้น วันนี้เราจะมาบอกเล่าถึง ประวัติความเป็นมาสุดขลัง “ พระปรุหนัง เนื้อชินเงิน” กรุวัดมหาธาตุ  ! พร้อมกับจะมาอธิบายถึงพุทธลักษณะขององค์พระเหล่าบรรดานักสะสมได้ทราบข้อมูลการเพิ่มขึ้น หากอยากทราบกันแล้วว่าเนื้อหาสาระที่เราได้นำมาฝากในวันนี้มีความน่าสนใจอย่างไรกันบ้างนะน้องอย่ารอช้าเข้าไปชมรายละเอียดพร้อมกันได้เลยดังต่อไปนี้  วัดมหาธาตุ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  รักเรียกว่าธรรมะเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ได้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ยุคสมัยของ  สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 ตั้งแต่ในช่วงปีพ. ศ. 1917  น่าจะทำถึงอายุอานามของวัดแห่งนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นกลักร้อยปีกันเลยทีเดียว แต่ก็ยังไม่ทันแล้วเสร็จ เนื่องจากสมเด็จพระรามาธิบดีที่1 ท่านได้ทรงเสด็จสวรรคตจากไปเสียก่อน ต่อมาภายหลังวัดแห่งนี้ก็ได้มีการสร้างเพิ่มเติม จนแล้วเสร็จในช่วงยุคสมัยของสมเด็จพระราเมศวร ช่วงปีพศ. 1917 และได้มีปรากฏอยู่ในฉบับพระราชหัตถเลขาของพระราชพงศาวดาร จังหวัดอย่างนี้ได้เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ และในสมัยก่อนได้เป็นศูนย์กลางสำหรับจัดพระราชพิธีต่างๆท้องยุบทำไมอยุธยากำลังรุ่งเรือง ซึ่งได้มีสมเด็จพระสังฆราชในยุคสมัยนั้น อยู่ในวัดแห่งนี้ด้วยเช่นกัน แต่เป็นพระสังฆราช ฝ่ายคามวาสี  แต่พระสังฆราชฝ่ายอรัญวาสีได้ประทับอยู่อีกวัดหนึ่ง ซึ่งก็คือวัดใหญ่ชัยมงคลในปัจจุบันซึ่งในสมัยนั้นงวดนี้จะถูกเรียกกันว่าวัดป่าแก้ว   ถัดมาในช่วงยุคสมัยของพระเจ้าทรงธรรม  ยอดพระปรางค์ทางเดินนั้นได้เกิดการทลายลง แต่ก็ยังไม่ได้มีการซ่อมแซม ต่อมาจนถึงในยุคของสมเด็จพระเจ้าปราสาททองก็ได้มีการบูรณะขึ้นมาใหม่ จนมีความสุขมากถึง 25 วา หรือในช่วงปีพ.ศ 2476 นั่นเอง ต่อมาจนถึงวาระที่ได้เกิดการเสียกรุงครั้งที่ 2 วัดมหาธาตุแห่งนี้ก็ได้ถูกเผาทำลายไปจนเหลือเพียงซากปรักหักพังเท่านั้น ซึ่งเราสามารถเข้าไปท่องเที่ยวหรือเยี่ยมชมได้ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอยุธยา ซึ่งตำแหน่งที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับวัดราชบูรณะ […]

ที่มาสุดขลัง “พระนางพญา กรุวัดดาวเสด็จ จังหวัดสระบุรี” พระเครื่องล้ำค่าที่ใครๆก็ตามหา !

ประวัติพระ

สำหรับใครที่ชื่นชอบพระกรุเป็นเดิมอยู่แล้วต้องไม่ควรพลาดเพราะในครั้งนี้เราจะพาคุณนายแผนที่จังหวัดสระบุรีและมารู้จักกับกรุวัดดาวเสด็จ ทั้งยังจะพาคุณมาทราบถึง ที่มาสุดขลัง “พระนางพญา กรุวัดดาวเสด็จ จังหวัดสระบุรี” พระเครื่องล้ำค่าที่ใครๆก็ตามหา !  เพราะเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่ามีกรุมากมายในประเทศไทยที่มีความเก่าแก่ ก่อนหน้านี้พวกเราทีมงานส่องพระก็ได้พูดถึงจังหวัดอื่นๆกันไปมากมายแล้ว แต่ในครั้งนี้เราจะพาคุณไปยังกรุในจังหวัดสระบุรีกันบ้าง หากอยากทราบกันแล้วว่าเรื่องราวในวันนี้จะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้นต้องอย่ารอช้าเข้ามาชมรายละเอียดไปพร้อมกันได้เลยดังต่อไปนี้  ก่อนอื่นต้องขออนุญาตย้อนไปถึงประวัติความเป็นมาของวัดเก่าแก่ที่มีชื่อว่าวัดดาวเสด็จกันเสียก่อน  เนื่องจากวัดแห่งนี้ค่อนข้างมีความเก่าแก่ และมีมาตั้งแต่สมัยโบร่ำโบราณถูกสร้างขึ้นในสมัยอยุธยา และเป็นอีกวัดหนึ่งที่มีความรุ่งเรืองมากในยุคนั้น เดิมทีได้มีตำแหน่งที่ตั้งตรงข้ามแม่น้ำป่าสัก จากนั้นในช่วงปี 2370 ได้มีการสร้างใหม่และมีตำแหน่งตั้งอยู่ในพื้นที่ของเขตหมู่บ้านดาวเรือง ที่ราบริมฝั่งแม่น้ำป่าสักเช่นกัน ณ จังหวัดสระบุรีในปัจจุบัน จึงได้มีการตั้งชื่อขึ้นมาใหม่ว่าวัดดาวเรือง  และในปัจจุบันผู้คนสมัยใหม่ก็จะรู้จักกันดีในชื่อว่าวัดดาวเรือง ซึ่งนำโดยเจ้าอาวาสของวัดในช่วงนั้น ซึ่งก็คือหลวงพ่อแหย่ง   หากมีใครถามถึงในเรื่องของพระกรุพระเครื่องที่มีความเก่าแก่วัดดาวเรืองหรือวัดดาวเสด็จนี้ ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งวัดที่ค่อนข้างขุดพบพระเครื่องโบราณมากมายเช่นกัน เมื่อครั้งแต่กรุวัดแห่งนี้ได้มีการค้นพบกับพระเครื่องหลากหลายพิมพ์ และมีความโบราณมากอย่าง พระซุ้มกระรอก , พระกำแพงหน้าอิฐ ,พระนาคปรก ,พระปรกโพธิ์ เพียงเอ่ยชื่อก็นับว่าขนรุกกันไปอย่างมากมายแล้ว เนื่องจากพระแต่ละองค์ที่ได้กล่าวมานี้ล้วนแล้วแต่นับว่าเป็นพระในตำนานเลยก็ว่าได้ เป็นพระที่ใครหลายคนใฝ่ฝันและหายากมากในปัจจุบันจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าในแต่ละพิมพ์นั้นย่อมเป็นที่หมายตาหมายใจของเหล่าบรรดาผู้นิยมสะสมพระเครื่องกันอยู่แล้ว รวมถึงพระนางพญาที่เรากำลัจะมาพูดถึงในวันนี้  เรียกได้ว่าเป็นพระที่มีเอกลักษณ์และทรงคุณค่ามากกับชาวจังหวัดสระบุรี สำหรับพระนางพญาของกรุวัดดาวเสด็จหรือวัดดาวเรืองแห่งนี้ มีความคล้ายคลึงกับพระนางพญาแห่งวัด นางพญาในจังหวัดพิษณุโลกอย่างมาก อีกทั้งยังมีพุทธคุณสูงและโดดเด่นในเรื่องของเมตตามหานิยม ค่อนข้างมีความเข้มขลังไปทางโชคลาภ วาสนานำพาอย่างมาก จึงและไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครๆก็ต่างใฝ่หาและอยากได้มีไว้บูชาครอบครอง หากจะเอ่ยถามถึงในเรื่องของราคาแล้วเราก็คาดว่าไม่น่าจะตอบกันได้เนื่องจากแน่นอนว่าราคาค่อนข้างสูง และยังอาจจะะมีการราคาอัพขึ้นกันอยู่เรื่อยๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นพระนางพญาพิมพ์หลังอูมสีแดงด้วยแล้ว ต้องขอบอกเลยว่าเราอาจได้เห็นของจริงกันยาก เนื่องจากเป็นพระเครื่องเก่าแก่มากจึงค่อนข้างหายาก หรือเท่าที่เราได้พบเห็นกันอยู่ก็ไม่ทราบว่าองค์ไหนของใครจะแท้หรือองค์ไหนของใครปลอมกันบ้างซึ่งทั้งนี้เราต้องสอบถามจากผู้รู้  ขุดพบ […]