พระเครื่องคืออะไร มีกี่ประเภท อะไรบ้าง? ไปดูกัน!

หากจะพูดถึง พระเครื่อง ต้องขออนุญาตย้อนพูดไปถึงเรื่องราวของความเชื่อ ความศรัทธา วัฒนธรรม วิถีชีวิต ของคนไทยเรา มาตั้งแต่ครั้งโบร่ำโบราณ “พระเครื่องที่นิยม มากที่สุด“ ก็แตกต่างกันออกไป ในแต่ละยุคแต่ละสมัย ส่วนที่มาที่ไปจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ลองมาติดตามกันได้เลยครับ
พระเครื่องมีที่มาอย่างไร

ขอพูดถึงในส่วนของประเทศไทย ที่มีวัฒนธรรมเกี่ยวกับความเชื่อ ในเรื่องต่างๆมายาวนานเป็นพันปี ตั้งแต่ยังไม่มีชื่อประเทศไทยด้วยซ้ำ โดยเฉพาะในเรื่องของพระพุทธศาสนา รวมไปถึงความเชื่อในเรื่องของ เครื่องรางของขลัง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องคุ้มกันตัวเอง ทุกส่วนมีความเกี่ยวพันกัน จนแยกกันแทบไม่ออก พระเครื่อง ก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของความเชื่อ ว่ามีอิทธิฤทธิ์ที่จะสามารถปกป้องคุ้มครอง ผู้ที่สวมใส่ และแสดงถึงความศรัทธา ความเคารพนับถือ ในพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นเป้าประสงค์แรกๆ ของผู้ที่สร้างพระเครื่องขึ้นมา คือจะไม่มีเป้าหมาย ในการสร้างให้เป็นเครื่องรางของขลังแต่อย่างใด ต่อมาได้มีการพัฒนา “รูปทรงพระเครื่อง“ นอกเหนือจากรูปจำลองขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ออกไปอีกหลายรูปแบบ
พูดง่ายๆคือ การสร้างพระเครื่อง เพื่อเป็นการ เอาบุญ และยังมีการบรรจุใส่กรุ หีบ ไห และนำ ไปฝังไว้ในฐานพระเจดีย์ ตามวัดวาอารามต่างๆ เพื่อให้ในภายภาคหน้า จะมีคนไปขุดค้นเจอ หรือถึงกาลอันสมควร เจดีย์ชำรุดทรุดโทรม จะปรากฏออกมาให้พุทธศาสนิกชนได้เห็น ตามที่เราเคยได้ยินข่าวสารต่างๆว่า พบเจอกรุพระ กรุแตก ซึ่งเราจะ เรียกพระที่อยู่ในกรุว่า “พระกรุ” จุดประสงค์เพื่อ สืบทอดพระพุทธศาสนา ซึ่งตามความเชื่อของพุทธศาสนิกชน หากได้ทำตามสิ่งที่ได้กล่าวมานั้น ถือได้ว่าเป็นบุญใหญ่ และเป็นที่นิยมทำกันในสมัยโบราณ จวบจนปัจจุบัน เป็นอย่างมาก

พระเครื่องในประเทศไทย
ในสมัยรัชกาลที่ 3 ถึงรัชกาลที่ 4 ประเทศไทย มีความเจริญรุ่งเรืองด้านการค้าขายกับต่างประเทศ สิ่งที่เข้ามาพร้อมกันนั้น หนีไม่พ้นเรื่องความเชื่อ จากศาสนาพุทธนิกายมหายาน ที่ได้นำ “พระกริ่ง” เป็นการผลิตจากโลหะ มีการเว้นช่องว่าง หรือเจาะด้านในองค์พระ ให้เป็นโพรง และบรรจุเม็ดโลหะ ไว้ข้างในช่องว่างนั้น ทำการอุดให้เรียบร้อย เมื่อเขย่าองค์พระจะมีเสียงดังกริ่งกริ่ง มีขนาดย่อมลงมา สามารถพกพาไปไหนได้ จึงนิยมนำมาพกไว้เป็นเครื่องราง มีความเชื่อว่าพกไว้แล้ว จะเป็นสิริมงคล เหมือนมีองค์พระพุทธเจ้าอยู่ใกล้ๆคอยยับยั้งการทำความชั่วทั้งหลาย หรือคุ้มครองป้องกันภยันตรายต่างๆ จนมาถึงในรัชกาลที่ 5 ได้มีการผลิตพระเครื่องในรูปแบบอื่นๆจากโลหะไม่ว่าจะเป็น “พระเหรียญ” “พระสมเด็จ” จนเป็นที่นิยมถึงปัจจุบัน
พระเครื่องมีกี่ประเภท
พระเครื่องในยุคปัจจุบันนี้จะมีการ แบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ ๆ 9 ประเภท ดังนี้
1. พระเบญจภาคี

พระเบญจภาคี คือ จักรพรรดิแห่งพระเครื่อง ประกอบกันด้วยพระ 5 องค์ คือ พระสมเด็จวัดระฆัง, พระกำแพงซุ้มกอ, พระผงสุพรรณ, พระรอดลำพูน, พระนางพญา
2. พระเนื้อดิน

พระเนื้อดิน คือ พระที่ใช้ดินเป็นส่วนประกอบหลัก ส่วนใหญ่จะผ่าน กระบวนการที่ทำให้องค์พระแกร่งมากยิ่งขึ้น เช่น เผา ตากแดด เป็นต้น
3. พระเนื้อชิน

พระเนื้อชิน คือ โลหะที่เกิดจากการผสมผสานกัน ระหว่างโลหะ 2 ชนิดคือ ดีบุก กับ ตะกั่ว สำหรับพระเนื้อชิน จะแบ่งประเภทออกเป็น อีก 3 ประเภท คือ เนื้อชินเงิน, เนื้อชินสนิมแดง และ เนื้อชินสนิมแดงตะกั่ว
4. พระเนื้อผง

พระเนื้อผง คือ พระที่ทำมาจากผงต่างๆ มากมายหลายชนิด ผงที่จะนำมาเป็นส่วนผสมของการสร้างพระนั้น ส่วนใหญ่จะมาจากพระเกจิอาจารย์ ผู้เรืองวิทยาคม มีกลเม็ดเคล็ดลับ หรือ วิชาอาคมในการ สร้างผงออกมา ตามกรรมวิธีต่างๆ ที่มีการสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น เช่น ผงปถมัง ผงอิทธิเจ เป็นต้น
5. พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ และ รูปหล่อ

พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ และ รูปหล่อ คือ การจำลองพระพุทธรูปองค์สำคัญ พระเกจิที่ได้รับความศรัทธาเลื่อมใส ให้มีขนาดย่อมลงมา เพื่อที่จะสามารถพกพาติดตัว เพื่อความเป็นสิริมงคล ทำจากโลหะหลากหลายชนิด ใช้วิธีการหล่อ
6. พระเหรียญ

พระเหรียญ คือ การจำลองรูปของพระพุทธรูป พระเกจิอาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงรูปของบุคคล ที่ควรเคารพนับถือ ทำการจารึกไว้ในรูปแบบเหรียญ โดยการสร้างนั้น จะมีทั้งการปั๊มและการหล่อขึ้นมา
7. ประเภทพระปิดตา

พระปิดตา คือ พระที่มีลักษณะขององค์พระยกมือขึ้นปิดตา จริงๆแล้วไม่ใช่เพียงปิดตาเท่านั้น แต่มีทั้งหน้า คือปิดรวมทั้ง ตา จมูก ปาก และ หู ส่วนตำนานพระปิดตานั้น ต้องย้อนไปถึงสมัยพุทธกาล
8. พระเนื้อว่าน

พระเนื้อว่าน คือ พระที่นำดินมาผสมกับน้ำว่าน และ เนื้อว่าน บ้างเล็กน้อยเพราะถ้ามีเนื้อว่านมากเกินไปจะทำให้องค์พระผุกร่อนได้ง่ายๆ
9. เครื่องราง-ของขลัง

เครื่องราง-ของขลัง คือ วัตถุมงคลที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นตามความเชื่อในแต่ละท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นซีกโลกตะวันออก หรือซีกโลกตะวันตก ทุกพื้นที่ล้วนมีการสร้างเครื่องราง ของขลัง ขึ้นมาเพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจกันแทบทั้งสิ้น
พระเครื่องยอดนิยม

มาถึงในยุคนี้เราจะเห็นทางพิมพ์พระ ที่ออกจากวัดของพระเกจิอาจารย์หลายท่าน ให้เราร่วมบุญเช่าหาบูชา แต่สำหรับกลุ่มพระเครื่องที่ได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษก็ยังเป็นพระจากยุคก่อนที่ถูกค้นพบ อย่างที่เราบอกกันในตอนแรกเรื่องพระกรุ เครื่องสำหรับพระกรุนั้น จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ตำนาน รวมไปถึง คุณวิเศษ อำนาจพิเศษ หรือที่เราคุ้นเคยว่า “พุทธคุณ” จึงมีการจัดลำดับ “พระเครื่องยอดนิยม” เป็นที่เฝ้าฝันหาของ เซียนพระ นักสะสม ประชาชนโดยทั่วไป ที่จะได้ครอบครอง มาไว้บูชาเพราะมีความเชื่อว่าหากได้ครอบครองแล้วนั้นชีวิตจะเจริญรุ่งเรือง และสำหรับสุดยอดพระเครื่องที่กล่าวมานี้ก็คือ เบญจภาคี ซึ่งถือได้ว่าเป็นสุดยอดของพระเครื่อง ประกอบด้วยพระเครื่อง 5 องค์ดังนี้
1. พระสมเด็จวัดระฆังโฆสิตาราม

พระสมเด็จวัดระฆังโฆสิตาราม ที่สร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี ซึ่งถือได้ว่าเป็นอันดับ 1 ของวงการพระเครื่องและเป็นตัวแทนของสมัยรัตนโกสินทร์ มีพุทธคุณครบพร้อมในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นเมตตามหานิยม หนุนดวงชะตา แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันอันตรายต่างๆ ให้โชคลาภ คนที่มีไว้ชีวิตจะมีความเจริญรุ่งเรือง ไม่มีวันตกต่ำ สภาพสวย สมบูรณ์ ราคาตลาดอยู่ที่ 10-120 ล้านบาท
2. พระกำแพงซุ้มกอ

พระกำแพงซุ้มกอ จังหวัดกำแพงเพชร ถือได้ว่าเป็นตัวแทนของสมัยสุโขทัย มีพุทธคุณในด้านช่วยเสริมความเป็นใหญ่ เหนี่ยวนำทรัพย์สิน มีอำนาจวาสนาบารมี ไม่มีวันจน ยังมีคำพูดตั้งแต่สมัยโบราณโบราณว่า มีกูแล้วไม่จน พระสภาพสวย สมบูรณ์ ราคาตลาดอยู่ที่ 1-12 ล้านบาท
3. พระผงสุพรรณ

พระผงสุพรรณ จังหวัดสุพรรณบุรี แต่ว่าเป็นตัวแทนของสมัยอู่ทอง มีพุทธคุณในด้านโชคลาภ ค้าขายนิรันตราย ช่วยให้น่าเกรงขาม เสริมความเป็นผู้นำ ช่วยให้จิตใจหนักแน่นสงบ มีเสน่ห์ พระสภาพสวน สมบูรณ์ ราคาตลาดอยู่ที่ 3-15 ล้านบาท
4. พระรอด

พระรอด จังหวัดลำพูน ถึงได้ว่าเป็นตัวแทนสมัยทราวดี เป็นพระเครื่องที่มีความเก่าแก่ที่สุด พุทธคุณ เด่นทางด้านโชคลาภร่ำรวยทรัพย์สินเงินทองเมตตามหานิยม คุ้มภัยให้ลาภ พระสภาพสวย สมบูรณ์ ราคาตลาดอยู่ที่ 1-12 ล้านบาท
5. พระนางพญา

พระนางพญา จังหวัดพิษณุโลก เธอได้ว่าเป็นตัวแทนของสมัยกรุงศรีอยุธยา พุทธคุณเด่นทางด้าน คงกระพันชาตรีแคล้วคลาดปลอดภัย มีบารมีคนเกรงใจ พระสภาพสวยสมบูรณ์ ราคาตลาดอยู่ที่ 2-10 ล้านบาท

ไม่ว่าจะเป็นด้านความเก่าแก่ ความหายาก จำนวนการสร้างน้อย ประวัติศาสตร์ของพระเครื่องในชุดเบญจภาคี และที่สำคัญ ผู้ที่ได้ครอบครองพระเครื่องมีความหวงแหนเป็นอยากมาก ทำให้มูลค่าการเช่าหา มาไว้ในครอบครอง ย่อมมีมูลค่าสูงตามไปด้วย ไม่เพียงแต่พระเครื่องในชุดเบญจภาคีที่มีมูลค่าสูง อยู่ในหลักล้านบาท เท่านั้น ยังมีพระเครื่องในรูปแบบอื่น มีมูลค่าเรียกได้ว่า “พระเครื่องหลักล้าน” ด้วยกันอีกหลายประเภท อีกหลายชนิด และขออนุญาตย้ำตรงนี้ว่าราคาในการเช่าหาพระเครื่อง เป็นไปตามความพอใจของผู้ที่ตกลงเช่ากับผู้ให้เช่า เป็นสำคัญ น้อยจะมีองค์ประกอบอีกมากมายหลายอย่าง ทั้งความน่าเชื่อถือ การรับประกันพระแท้ เงื่อนไขการรับซื้อคืน ต่างๆเหล่านี้เป็นส่วนประกอบในการซื้อขาย
ทั้งนี้ สิ่งที่ได้กล่าวไปนั้นเป็นเพียงบางส่วน ขอย้ำว่าบางส่วนเท่านั้น ของวงการพระเครื่อง โดยเฉพาะในส่วนของการเช่าบูชาพระเครื่อง เอามาไว้ในครอบครองสัก 1 องค์นั้น ไม่ว่าจะมีจุดประสงค์เพื่อนำมาบูชา หรือนำมาทำการซื้อขายก็ตาม จำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง (ขออนุญาตพูดตามตรง) ผู้ที่เข้าหาเพื่อทำการซื้อขายนั้น จำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีความ เชี่ยวชาญ ในการดูพระ ถ้าจะให้เรียกภาษาในวงการก็คือ ส่องพระ ที่เมื่อทำการส่องกันแล้ว จะต้องแยกแยะพระแท้ พระเทียม พระเก๊ พระเลียนแบบ ที่มีอยู่มากมาย นับได้ว่ามากกว่าพระแท้เป็นร้อยเท่าพันเท่า มีความเข้าใจของ “รูปทรงพระเครื่อง“ เป็นอย่างดี

โดยเฉพาะในส่วนของพระที่มีการปั๊ม มีแม่พิมพ์ พระที่มีแม่พิมพ์เดียวกัน ย่อมออกมาเหมือนกัน แต่ก็จะมีพวกเหลือบไรของวงการพระเครื่อง ที่คอยจะสร้างพระเก๊ออกมาสู่ตลาด ล่อใจด้วยนะราคาที่แสนถูก และการพัฒนาของวงการพระเก๊นั้น ก็ได้พัฒนามาตามการสร้างพระแท้เช่นเดียวกัน ยิ่งวิวัฒนาการการสร้างพระพัฒนาไปเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะทำให้การแยกพระแท้พระเก๊เป็น เป็นเรื่องยากตามไปด้วย ความรู้ ความเข้าใจ จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ สำหรับเซียนพระ นักเล่นพระ และ บุคคลทั่วไป
พระเครื่องกับการลงทุน

เราคงจะเคยได้ยินคำว่า พุทธพาณิชย์ ซึ่งต้องยอมรับว่า ยังมีผู้คนบางส่วน มองว่าการขายพระเครื่อง เป็นอะไรที่ไม่สมควร “บาป” พระเครื่องควรมีไว้บูชา หรือมอบให้แก่กันเป็นของขวัญเพื่อความเป็นสิริมงคล เท่านั้น แต่หากมองลึกลงไปจริงๆ การเริ่มต้นกระบวนการนี้ เริ่มมาจากความตั้งใจในการสืบทอดพระพุทธศาสนา ประกอบกับ เรามีนิสัยในเรื่องความกตัญญู การตอบแทนซึ่งกันและกัน ดังนั้นจึงมองว่า เมื่อมีใครให้อะไรเราเราก็ต้องตอบแทนบางอย่างไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ในเมื่อมันเกิดกระบวนการเช่นนี้ อย่ากระนั้นเลย ขอแลกเป็นเงินแล้วกัน เมื่อเห็นว่ามีการแลกเป็นเงินได้ ก็เหมือนกับการซื้อขายของทุกประเภท ย่อมมีการเก็งกำไรตามมา และก็อีกเช่นกัน นักลงทุน ย่อมมีความต้องการในแบบที่ ซื้อมาในราคาถูกที่สุด และขายในราคาแพงที่สุด เท่าที่จะทำได้เพื่อหวัง “กำไร” นั่นเอง ส่วนจะทำได้หรือไม่นั้นมีปัจจัยประกอบด้วยกันหลายอย่าง ทั้งกลไกการตลาด ความน่าเชื่อถือ เครดิตการซื้อขาย ความรู้ความสามารถ ในระดับสูง หรือที่เราเรียกกันว่า เซียนพระ จึงอย่าแปลกใจที่มีเซียนพระหลายคน ให้เช่าพระในมูลค่าที่สูงได้ เพราะนั่นไม่ใช่มูลค่าของพระอย่างเดียว ยังมีมูลค่าของความรู้ พร้อมทั้งเงื่อนไขต่างๆ การรับประกัน ความน่าเชื่อถือ ไหนๆก็เอ่ยถึงการลงทุนแล้ว ขอกระซิบ พระเครื่องมาแรง 2564 ที่น่าลงทุน ในส่วนของพระเกจิที่ยังมีชีวิตอยู่ให้ได้ทราบกัน
Table of Contents
- May 27, 2021
- 9:56 pm