วันนี้เรา กลัวทุกท่านจะเบื่อ กับพระเครื่องที่มีอยู่ในประเทศไทยซะก่อน เราจึง ขออนุญาต ข้ามไปกล่าวถึง เรื่องราวของเครื่องรางแมลง ที่มีอายุเก่าแก่ อยู่ในยุคของอียิปต์ กันบ้างนะครับ
เมื่อสัญลักษณ์แห่งความเชื่อต่างๆ ได้ถูกนำออกมา จัดวาง องค์ประกอบอย่างสวยงาม ตั้งอยู่ในรูปแบบของเครื่องประดับ และเครื่องรางของอียิปต์ ภายใต้รูปแบบแมลงปีกแข็ง สคารับ ซึ่งบางคน อาจจะเรียกแตกต่างออกไป แล้วแต่ใจชอบ เรียกว่าตัวด้วงบ้าง ตัวแมลงทับ ตัวเต่าทอง ก็ไม่เป็นไร ใครที่เคยไปเที่ยวอียิปต์มาแล้ว จะเห็นว่า ที่ระลึกและรูปแกะสลัก ในแต่ละเมือง ล้วนเต็มไปด้วยรูปแบบ ของแมลง สคารับ ทำให้เกิดความสงสัยว่า แล้วทำไม ถึงได้มีแมลงชนิดนี้ ปรากฏอยู่ในรูปสลัก อักษรรูปภาพ ของที่ระลึก อย่างมากมายถึงเพียงนี้
โดยเฉพาะ ในมหาวิหาร คาร์นัค ยังมีรูปสลาก ของแมลงตัวใหญ่ อยู่บนแท่นบูชา เข้าไปอีก โดยเชื่อว่า เดินวนรอบแล้วจะโชคดีกัน คงจะต้องเกี่ยวกับความเชื่ออะไรบางอย่างที่น่าสนใจเป็นแน่ ส่วนจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวข้องกับอะไรนั้น ติดตามได้เลยครับ

โดยในอียิปต์โบราณ มีความเชื่อเกี่ยวกับแมลง เหล่านี้ โยงไปถึง แนวคิด เปรียบเทียบ ชีวิตหลังความตายกันเลยทีเดียว โดยเกิดขึ้นจากความเชื่อที่ว่า ร่างกายของคนตายนั้น เป็นการบรรจุ ตัวอ่อนแห่งชีวิต เงินหมายถึง วิญญาณ ซึ่งจะถูก เรียกให้ฟื้นคืนชีพ ขึ้นมาใหม่ได้ เพราะคนอียิปต์ มองไปในชีวิตของแมลง ปีกแข็งที่มีความอุตสาหะ ด้วยการวางไข่ไว้ในมูลสัตว์ และม้วนเป็นก้อนกลมๆ เข็นกลับรัง แล้วเกิดเป็นชีวิตใหม่ขึ้นมา จึงนำไปเชื่อมโยงกับ เทพเคปร หรือ คีเป-รา ซึ่งแปลว่า ผู้ทำให้โคจร หมายถึง ผู้นำพาพระอาทิตย์ ให้ข้ามไปในฟากฟ้า เพื่อเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ ซึ่งเปรียบเทียบกับ การมีชีวิตใหม่ แมลงสคารับ ซึ่งถือเป็นเครื่องรางอีกชนิดหนึ่ง ที่จะช่วยนำพา มัมมี่ ให้เดินทางไปสู่โลกของวิญญาณ และยังปกป้องร่างกายที่ตายไปแล้ว กำลังใหม่ที่ไปอยู่ ซึ่งมีการวางรูปแมลงสคารับ ไว้บนหน้าอกด้านซ้าย ของร่างมัมมี่ ตรงกับตำแหน่งของหัวใจ จะเห็นได้ดังรูปนี้
รูปแมลงสคารับ ดูคล้ายกับแมลงกางปีก แต่มองในภาพรวมอีกแง่หนึ่ง จะเห็นว่า ถูกออกแบบไว้ในรูปทรงของหัวใจ ชิ้นนี้ถือเป็นเครื่องรางของยุคอาณาจักรใหม่ที่ค้นพบในบรรดาเครื่องประดับ กลับเครื่องรางร้อยกว่าชิ้น ในหุบผากษัตริย์แห่งเมืองธีบส์ ซึ่งเป็นชิ้นหนึ่งในสมบัติของ ฟาโรห์ตุตันคามุน ผู้มีพระชนม์ชีพอยู่ระหว่างช่วง 1323-1341 ก่อนคริสตศักราช สภาวะชิ้นนี้ มีความสง่างาม เลื่องลือไปทั่วโลก ถือเป็นชิ้นที่ออกแบบ ได้อารมณ์มันอ่อนหวาน ภายใต้องค์ประกอบที่มีความหมาย
การจัดวาง 3 สิ่ง ที่มีความหมายกับชีวิตหลังความตาย และการเกิดใหม่ ได้ดีทีเดียว คือ
1 รูปแมลงสคารับ วางไว้ตรงกลางได้อย่างน่าสนใจ
2 ปีกที่โค้งออกไปทั้งสองฝั่ง โดยกำหนดให้อยู่ ในรูปทรงของหัวใจ
3 สุริยเทพ แทนด้วยวงกลมสีแดง ที่แมลงสคารับ ทูลอยู่เหนือหัว
เครื่องรางชิ้นนี้ โครงทำด้วย ทองคำ สุกสกาว ประดับด้วย LAPIS LAZULI, CARNELIAN, TURQUOISES, GREEN FELDSPAR หิน และอัญมณี หลากสี ที่มีหลากหลายรูปทรง ถูกตัดมาจนพอดีกับช่อง ที่แบ่งด้วยเส้นทองคำ แล้วเรียงขนาดได้อย่างประณีต บ่งบอกถึงฝีมือช่างในยุคนั้น ได้เป็นอย่างดี

แมลงสคารับ โดยมากจะมีสีเขียวแก่เทาหม่นหรือดำที่ใต้ฐานจะะเรียบ และมีคาถาเกี่ยวพันกับชีวิตและการจุติใหม่จารึกไว้ ซึ่งปรากฏในเครื่องประดับของฟาโรห์ ทั้งในสร้อย กำไรด้วยการดุนลาย ฉลุลาย ลงยา เพิ่มสีสันให้สวยงาม อัญมณีที่เลือกใช้ ต้องคำนึงถึงความหมาย และสีของวัตถุนั้น ยังบ่งบอกอำนาจ ที่แฝงอยู่ในแต่ละสี ตามความเชื่อที่ยึดถือ อย่างเช่น สีน้ำเงินหรือสีฟ้าเข้ม ของ LAPIS LAZULI ที่มักเห็นในงานส่วนมากของอียิปต์ ถือว่าเป็นพลอยนำโชค เป็นสีแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย สีแห่งความสุข ด้วยสีทองของท้องฟ้า น้ำดื่มน้ำอันกว้างใหญ่ ของแม่น้ำไนล์ ซึ่งถือเป็นสีแห่ง การให้กำเนิดโลก และเทพเจ้าต่างๆ ของชาวอียิปต์มาช้านา
ความเชื่อ เรื่องเทพเจ้า พลังงาน ชีวิตหลังความตาย มีมาคู่กับมนุษย์เรา ยาวนานเหลือเกิน อย่างไรก็ตามใครจะ เลือกเชื่ออะไร ก็ตามใจของทุกท่าน แต่ขอให้สิ่งนั้น ส่งผลดีกับตนเอง และไม่เบียดเบียนต่อผู้อื่น เป็นพอครับ
credit. เซ็กซี่บาคาร่า , หนังโป๊
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> เว็บสล็อตแท้