มาทางฝั่งตะวันออกกันบ้างในครั้งนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับของดีเมืองชลบุรี เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งพระเครื่องล้ำค่าของชาวชลบุรีไม่น้อย ซึ่งเราจะมาพูดถึง ประวัติการสร้างเหรียญหายาก “เหรียญรูปเหมือนหลวงพ่ออี๋ รุ่นแรก ปี 2473” วัดสัตหีบ เมืองชลบุรี ให้แฟนๆได้ทราบ เพราะนอกจากประวัติการสร้างแล้วเราจะพาคุณมารู้จักกับประวัติของหลวงพ่ออี๋ด้วยเช่นกันดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปพบกับเนื้อหาสาระที่น่าสนใจกันได้เลยดังต่อไปนี้
ประวัติ หลวงพ่ออี๋ พุทธสโร
ก่อนอื่นเราจะพาคุณมารู้จักกับประวัติของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งยุคสงครามอินโดจีนหรือที่ใครหลายคนอาจรู้จักกันดีในนามหลวงพ่ออี๋ พุทธสโร หรือ “พระครูวรเวทมุนี” ซึ่งท่านได้สร้างวัตถุมงคลเอาไว้อย่างมากมายในช่วงเวลาที่ท่านยังมีชีวิตอยู่เพื่อปกปักรักษาลูกหลานและเหล่าทหารที่ต้องร่วมรบในครั้งสงครามโลกครั้งที่สอง
เดิมทีนั้นท่านเป็นชาวจังหวัดชลบุรีท่านเกิดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมในปีพ.ศ. 2408 ซึ่งเป็นวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 เป็นปีฉลูและเกิดวันอาทิตย์ ซึ่งวันคล้ายวันเกิดของท่านนั้นตรงกับในช่วงปลายยุคของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บิดาของท่านชื่อในขำ ทองขำ และมารดาของท่านชื่อนางเอียง ทองขำ ท่านเกิดนะบ้านที่ตำบลสัตหีบอยู่ใน กิ่งอำเภอสัตหีบ ของจังหวัดชลบุรีในปัจจุบัน
เมื่ออายุของท่านได้ 25 ปีบริบูรณ์ ท่านก็ได้เข้าอุปสมบท ณ วัดอ่างศิลานอก ซึ่งในครานั้นมีพระผู้เป็นพระอนุสาวนาจารย์ให้ก็คือ พระอาจารย์แดง, มีพระกรรมวาจาจารย์คือพระอาจารย์ทิม และพระผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ก็คือพระอธิการจั่น จนฺทสโร ณ วัดเสม็ด และได้รับฉายาว่า พุทฺธสโร
หลวงพ่ออี๋ท่านได้ศึกษาในเรื่องเวทมนตร์จากพระอาจารย์แดง ท่านเป็นสิทธิ์ที่มีความเคร่งครัด และปฎิบัติตนอยู่ในศีลธรรมอันดีเสมอ จากนั้นท่านก็ได้เป็นศิษย์ของ “พระครูพิพัฒนิโรธกิจ (ปาน)” ณ วัดคลองด่าน นอกจากจะเคร่งครัดในเรื่องการฝึกปฏิบัติต่างๆแล้วท่านยังได้มีโอกาสออกเดินธุดงค์ตัวตรไปตามสถานที่ต่างๆและเดินทางไปทั่วทุกภาคของประเทศ เมื่อมีความกล้าแกร่งทางจิตและเกิดผลสัมฤทธิ์ทางทำแล้วฉันก็ได้เดินทางกลับมานะวัดบ้านเกิดจากนั้นก็ได้สร้างวัดสัตหีบขึ้น
วัดสัตหีบนั้นได้ใช้เวลาในการสร้างอย่างเสร็จสมบูรณ์ประมาณห้าปี และในขณะที่หลวงพ่ออี๋ท่านยังคงมีชีวิตอยู่ฉันก็เลยสร้างเครื่องรางของขลังอย่างมากมายเอาไว้ให้ลูกศิษย์ลูกหาได้มีติดตัวติดกาย เพื่อปกปักษ์รักษาให้ผลจากทุกข์ภัยต่างๆ ท่านเป็นพระผู้มีความรอบรู้และมีณาญปัญญาเป็นเลิศ อีกทั้งยังมีความปราดเปรื่องทางด้านวิทยาคมและคาถาอาคมอย่างมาก ต่อมาในช่วงปี 2489 ท่านก็ได้มรณภาพด้วยสิริอายุครบ 85 ปี และครองพรรษานานถึง 64 พรรษา ซึ่งเป็นที่โศกเศร้าแก่ลูกศิษย์ลูกหาและญาติโยมชาวชลบุรีอย่างมากในขณะนั้น
ประวัติ วัดสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
สำหรับวัดสัตหีบแห่งนี้ได้ถูกตั้งอยู่บนถนนชายทะเลนะตำบลสัตหีบฆ้องอำเภอสัตหีบในจังหวัดชลบุรี ถูกสร้างขึ้นในช่วงปีพ.ศ. 2442 เป็นยุคสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีนายขำและนั่งเอียง ทองขำ (ซึ่งเป็นบิดามารดาของหลวงพ่ออี๋หรือหลวงปู่อี๋ ) ได้เข้าขอพระราชทานที่ดินเพื่อนำมาทำการสร้างวัด ซึ่งที่ดินนั้นเป็นที่ดินว่างเปล่าเป็นผืนป่าอันไม่มีเจ้าของ และได้รับอนุญาตจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวให้สามารถสร้างวัดในครั้งนี้ได้
มีพื้นที่โดยรวมในปัจจุบันอยู่ประมาณ 30 ไร่กับอีก 28 ตารางวา วัดแห่งนี้ได้รับพระราชทาน “วิสุงคามสีมาอุโบสถหลังแรก” ในช่วงปีพ.ศ. 2463 และสร้างแล้วเสร็จโดยใช้เวลาประมาณห้าปี และมีหลวงพ่ออี๋เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกรูปแรกของวัด ซึ่งท่านเป็นเจ้าอาวาส ณ วัดแห่งนี้มาอย่างยาวนานถึง 47 ปี
ถัดมาในช่วงปีพ.ศ. 2557 วัดนี้ได้รับสถานะให้เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวัดที่ค่อนข้างมีความสำคัญต่อจังหวัดชลบุรีไม่น้อยและหากใครที่ได้มีโอกาสมาจังหวัดชลบุรีอำเภอสัตหีบก็มักจะแวะมาไหว้พระและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นี่อยู่เสมอ
ที่มาการสร้าง “เหรียญพระรูปเหมือน หลวงพ่ออี๋ พุทธสโร”
สำหรับเหรียญรูปเหมือนรุ่นแรกนี้ได้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ในช่วงปีพ.ศ. 2473 ได้สร้างเป็นเนื้อทองคำ, เนื้อเงิน, เนื้อทองแดง และเนื้อนาค เนื่องจากในครั้งนั้นทางวัดได้มีการสร้างหล่อพระพุทธรูปเพื่อให้เป็นพระประธานประจำอุโบสถของวัดสัตหีบ ศิษย์ของหลวงปู่อี๋จึงได้ทำการขออนุญาตเพื่อจัดสร้างเหรียญรูปเหมือนขึ้นมาในครั้งนั้น และเมื่อได้มีการจัดสร้างเสร็จแล้วก็เลยมอบเป็นที่ระลึกให้กับเราผู้มีจิตศรัทธาที่ได้เข้าร่วมบริจาคปัจจัยในการทำบุญช่วยสร้างวัด ในครั้งนั้นจัดทำขึ้นด้วยกันเป็นสองพิมพ์ก็คือพิมพ์พุ่มข้าวบิณฑ์ (เป็นพิมพ์ที่จัดทำขึ้นสำหรับผู้หญิง) และเป็นพิมพ์รูปไข่ที่จัดทำขึ้น (สำหรับผู้ชาย)
เนื้อมวลสาร
สำหรับเหรียญพระรูปเหมือนรุ่นนี้ได้มีด้วยกันหลายเนื้อ ซึ่งมีทั้งเนื้อมวลสารที่เป็นเนื้อทองคำ, เนื้อเงิน, เนื้อนาค รวมถึงเนื้อทองแดง ในการจัดสร้าง
พุทธลักษณะ
เราจะสามารถสังเกตได้อย่างชัดเจนว่าลักษณะของเหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญปั๊มที่มีรูปทรงไข่ (สำหรับผู้ชาย) มีลักษณะเป็นหัวเชื่อมและทางด้านข้างนั้นเป็นปั๊มกระบอก มองเข้าไปเราจะเห็นชัดเจนว่าภายใต้หูเชื่อมนั้นจะมีรูปขององค์หลวงพ่ออี๋นั่งอยู่ในท่านั่งสมาธิแบบเต็มองนั่งอยู่เนื้ออาสนะ มีอักขระเป็นตัวอุณาโลมถูกจารึกเอาไว้ช่วงบริเวณศีรษะของรูปเหมือนหลวงพ่ออี๋
จากนั้นเราจะเห็นว่าด้านข้างของทั้งสองฝั่งนั้นจะถูกจารึกด้วยอักษรภาษาไทยที่ระบุคำว่า “พระอุปัชฌาย์อี๋” และ “วัดสัตหีบ” จากนั้นจะมีการลงอักขระที่เป็นอักขระขอมซึ่งจารึกเอาไว้ว่า “อุมะอ่ะ” ถัดลงมาเราจะเห็นว่ามีรูปลักษณะเหมือนกับเป็นรูปดอกจันทร์อยู่ตรงภายใต้ของอาสนะ
และสำหรับพุทธะลักษณะทางด้านหลังจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าบริเวณขอบโค้งนั้นจะปรากฏอักษรภาษาไทยที่ระบุคำว่า “ที่ระฤก ในงานหล่อพระพุทธรูป พ.ศ.2473” เอาไว้ ซึ่งภายในจะถูกบรรจุด้วย ‘ตัวเฑาะว์’ และเราจะสังเกตได้ชัดว่ามียันต์สี่ถูกกำหนดแบบซ้อนกันปรากฏอยู่ให้เห็นอย่างชัดเจน
พุทธคุณ
มีความเชื่อกันว่าหากใครได้ครอบครองบูชาเหรียญพระรูปเหมือนนี้เอาไว้ติดตัวก็จะแคล้วคลาดปลอดภัยรวมไปถึงมีความโดดเด่นทางด้านคงกระพันชาตรีและโดดเด่นทางด้านเมตตามหานิยมอย่างมาก ซึ่งเป็นไปได้ว่าช่วงนั้นอาจเป็นช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่สองจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้คนมักจะมาขอเครื่องรางของขลังและมักจะมาขอพระดีจากหลวงพ่ออี๋ แต่
อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้ก็ไม่ได้เป็นเหรียญที่หากันได้ง่ายง่ายแล้วฤ หรือหากจะมีก็คงจะราคาแพง แต่ใช่ว่ามีเงินแล้วจะซื้อได้เนื่องจากเรียนแท้ก็ไม่ได้หาชมกันได้ง่ายเช่นกัน
เพราะอย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าพระเก๊ก็มีไม่น้อย อย่างไรก็ตามการที่คุณจะตัดสินใจบูชาเอาไว้ควรศึกษาที่มาให้ละเอียดถี่ถ้วนเสียก่อนเสียก่อน
ได้พาคุณมารู้จักกับเรื่องราวของ ประวัติการสร้างเหรียญหายาก “เหรียญรูปเหมือนหลวงพ่ออี๋ รุ่นแรก ปี 2473” วัดสัตหีบ เมืองชลบุรี กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามพวกเราทีมงานหวังอย่างยิ่งว่าเรื่องราวนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคุณและทำให้คุณได้ทราบถึงประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจของหลวงพ่ออี๋และวัดสัตหีบกันได้มากินขึ้นนะคะอย่างไรก็ตามหากคุณชื่นชอบบทความนี้ ก็สามารถแชร์หรือส่งต่อให้กับเพื่อนเพื่อนและคนที่คุณรักได้เช่นกัน แล้วสามารถกลับมาพบกับพวกเราได้ใหม่ในบทความครั้งต่อไปซึ่งจะมีเรื่องราวใดที่เกี่ยวกับพระเครื่องมาฝากกันอีกนั้นต้องคอยติดตามกันต่อไปนะคะ สำหรับวันนี้ต้องขออนุญาตลากันไปก่อนค่อยคุณโชคดีและมีความสุข
