หากมีใครถามว่าพระเกจิอาจารย์ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของสมุนไพรและโหราศาสตร์แห่งเมืองประจวบฯนั้นคือใคร พวกเราทีมงานส่องพระคงต้องขออนุญาตระลึกถึง หลวงพ่อเปี่ยม จันทโชโตขึ้นเป็นรายชื่ออันดับแรกๆในวันนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับ ประวัติความเป็นมาของพระเกจิอาจารย์ผู้เลื่องชื่อด้านโหราศาสตร์และสมุนไพร “หลวงพ่อเปี่ยม จันทโชโต” แห่งวัดเกาะหลัก เมืองประจวบคีรีขันธ์ !
ซึ่งแน่นอนว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ส่งวิทยาคม และเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวเมืองสามอ่าว เมืองประจวบคีรีขันธ์ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาหากคุณต้องการทราบแล้วว่าเรื่องราวความเป็นมาของท่านนั้นจะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างเราไปชมสาระน่ารู้ในเรื่องนี้พร้อมๆ กันได้เลยค่ะ
ประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อเปี่ยม จันทะโชโต
วัดเขาหลักจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
สำหรับพระครูเมธีวรคุณหรือที่เรารู้จักกันดีในนามหลวงพ่อเปี่ยม จันทโชโต แห่งวัดเกาะหลักจังหวัดประจวบคีรีขันธ์นั้นเดิมทีท่านมีชื่อว่า นายเปลี่ยม ถาวรนันท์ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าเนื่องจากท่านเกิดในช่วงปีพ.ศ. 2426 เปิดในวันพฤหัสบดีที่ 25 เดือนพฤษภาคมเป็นวันขึ้นแปดค่ำตรงกับปีมะเมีย ท่านเกิดอยู่ที่บ้านนาห้วยซึ่งตั้งอยู่ในตำบลเมืองเก่าของอำเภอปราณบุรี ซึ่งท่านเป็นลูกชายคนสุดท้องของคุณพ่อแก้วและคุณแม่หนูลัภธ์ ถาวรนันท์ ท่านมีพี่ชายร่วมบิดามารดาหนึ่งคนชื่อว่านายถนอม และมีน้องสาวชื่อว่านางลมูลซึ่งเป็นน้องสาวต่างมารดาอีกหนึ่งคน
ในวัยเด็กของหลวงพ่อเปี่ยมนั้นตามข้อมูลได้ระบุเอาไว้ว่าครอบครัวของท่านมีอาชีพเป็นเกษตรกรทำไร่ทำนา ในช่วงที่ท่านอายุได้ประมาณสามขวบคุณพ่อของท่านหนึ่งก็ได้ออกเดินทางไปยังต่างจังหวัดเพื่อค้าขาย และไปตั้งภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่อื่นจากนั้นก็มีครอบครัวใหม่และไม่ได้กลับมาที่บ้านของท่านอีก ด้วยเหตุนี้หลวงพ่อเปี่ยมและพี่ชายจึงพากันทำไร่ทำนาเพื่อช่วยคุณแม่ของท่านตั้งแต่อายุยังเล็ก และเรียกได้ว่าค่อนข้างยากลำบากพอสมควร เมื่อหลวงพ่อท่านอายุได้ประมาณห้าขวบคุณแม่ก็เลยส่งให้ท่านไปเรียนหนังสืออยู่ที่วัดนาห้วยและได้ฝากกับเจ้าอาวาสของวัดแห่งนี้ ซึ่งท่านได้มีโอกาสศึกษาทางด้านภาษาไทยและภาษาขอม จนสามารถอ่านออกเขียนได้
ถัดมาเมื่อท่านอายุได้ประมาณเก้าขวบ ที่บ้านของท่านก็ได้เกิดเหตุไฟไหม้ขึ้น จึงเป็นเหตุทำให้ท่านและมารดาของท่านต้องย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านสระแจงในอำเภอหนองจอก ที่จังหวัดเพชรบุรีซึ่งเป็นบ้านของคุณแม่ของท่านแต่เดิม แต่พี่ชายของท่านไม่ได้ไปด้วยเนื่องจากยังคงเรียนหนังสืออยู่ที่วัดนาห้วยต่อไป เมื่อหลวงพ่อเปี่ยมเติบโตได้อายุประมาณ 11 ปี ท่านก็ได้มีโอกาสร่ำเรียนทางด้านวิชาหมอน้ำมนต์ซึ่งอาจารย์ของท่านมีชื่อว่าหมอเขียว หมอเขียวผู้นี้ถามอันเป็นผู้มีชื่อเสียงในเรื่องของการทำน้ำมนต์และไล่ผีอย่างมาก ถึงขั้นสามารถรักษาคนไข้ได้ เมื่อหลวงพ่อท่านได้มีโอกาสเรียนกับอาจารย์ก็เกิดความชำนาญและเชี่ยวชาญจนสามารถรดน้ำมนต์ให้กับคนไข้แทนหมอเขียวได้
นอกจากนี้ท่านยังมีโอกาสได้ร่ำเรียนวิชาอื่นๆกับอาจารย์ที่มีชื่อเสียงอีกหลายท่าน วิชาที่ท่านได้ศึกษาอื่นๆได้แก่วิชาช่างเขียนวิชาช่างหยวกวิชาช่างปั้นวิชาสร้างบ้าน รวมถึงการอ่านและเขียนหนังสือ ซึ่งในยุคนั้นยังคงมีคนที่อ่านหนังสือไม่ออกอยู่หลายคน และด้วยความมานะพยายามที่มีจึงทำให้หลวงพ่อเปี่ยมท่านมีความสามารถในวิชาการเรียนที่ดีขึ้น
อุปสมบท
และเมื่ออายุครบบวชท่านก็ได้เข้าพิธีอุปสมบทอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรีในอำเภอเมืองที่วัดลาด ซึ่งปีที่ท่านบวชตรงกับปีพ.ศ. 2446 และพระผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ให้กับท่านก็คือพระครูสุวรรณมุณี วัดพระทรง ส่วนพระผู้เป็นพระกรรมวาจาจารย์ให้กับท่านก็คือพระปลัดบุญ วัดชีว์ประเสริฐ และท่านก็ได้รับฉายาท่านถามว่าจันทโชโต
ในระหว่างที่ท่านจำพรรษาอยู่นั้นท่านก็ได้ศึกษาทางด้านภาษาบาลีไปด้วยและหลังจากที่ท่านบวชที่วัดลาดได้ประมาณห้าปีแล้ว ท่านจึงขออนุญาตพระอาจารย์ของท่านออกไปจำพรรษาอยู่ที่วัดนาห้วย ซึ่งมีพระครูสุทธาจารคุณ( หรือหลวงพ่ออ่ำ) เป็นเจ้าอาวาสอยู่ในขณะนั้น ซึ่งหลวงพ่อท่านถือได้ว่าเป็นกำลังสำคัญในการสร้างโบสถ์ของวัดนาห้วยได้จนสำเร็จ
และถัดมาในช่วงปีพ.ศ. 2458 หลังจากที่พระครูสุทธาจารคุณ ได้ย้ายไปรับตำแหน่งเจ้าอาวาสของวัดเกาะหลักและเจ้าคณะของจังหวัดประจวบ จึงทำให้หลวงพ่อเปี่ยมท่านได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้รักสาการตำแหน่งเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดนาห้วยแทน และหลังจากนั้นก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นจะเอาวาดในช่วงปีพ.ศ. 2459
และหลังจากที่ได้จำพรรษาอยู่ณวัดแห่งนี้การศึกษาทางด้านวิชาโหราศาสตร์พระอาจารย์ของท่านทีถ่ายทอดวิชาให้กับท่านก็คือพระสุวรรณมุนีหรือหลวงพ่อชิต ซึ่งในขณะนั้นท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุอยู่ในจังหวัดเพชรบุรี และถัดมาหนูก็เปลี่ยนท่านก็เริ่มมีชื่อเสียงในเรื่องโหราศาสตร์ตั้งแต่ครั้งนั้น
หลวงพ่อเปี่ยมนั้นท่านเป็นพระพิสุสงฆ์ที่พระลูกวัดไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุสงฆ์หรือสามเณรเคารพอย่างยิ่งเนื่องจากท่านปกครองวัดด้วยคุณธรรมอีกทั้งยังบำเพ็ญประโยชน์ให้กับสาธารณะและพุททะศาสนาอย่างมากท่านได้มีส่วนร่วมในการสร้างถาวรวัตถุให้กับวัดอย่างมากมาย อีกทั้งยังเป็นผู้บูรณะและปฏิสังขรณ์ซ่อมแซมวัด และนำพาความเจริญมาให้วัดอย่างยิ่งนอกจากนี้ท่านยังปรับปรุงและแก้ไขวางผังในการสร้างเสนาสนะต่างๆให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยยิ่งขึ้น
ลำดับสมณศักดิ์และงานปกครอง
ในช่วงปีพ.ศ. 2462 นั้นท่านได้รับตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอปราณบุรีและอำเภอเมืองของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ถัดมาท่านก็ได้รับเลื่อนสมณศักดิ์ให้เป็นพระครูชั้นสามัญที่ “พระครูธรรมโสภิต” และได้รับตำแหน่งพระอุปัชฌาย์ในช่วงปีพ.ศ. 2465 จากนั้นถัดมาในช่วงปีพ.ศ. 2467 ท่านก็ได้รับเลื่อนให้เข้ารับตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดเป็นพระครูสุเมธีวรคุณ และตามด้วยการเป็นเจ้าเอาวาสวัดเกาะหลักตามลำดับซึ่งตรงกับช่วงปีพ.ศ. 2473
ผัดบ้างในช่วงปีพ.ศ. 2474 หลวงพ่อเปลี่ยนท่านก็ได้รับตำแหน่งผู้รักษาการในตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และได้รับพระราชทานให้เป็นพระครูสุเมธีวรคุณและดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในช่วงปีพ.ศ. 2484 และในปีเดียวกันนั้นท่านก็ได้รับเลื่อนสมณศักดิ์ให้เป็นพระราชาคณะที่ “พระเมธีวรคุณบุญคีรีเขตต์ ชลประเวศสังฆปาโมกข์”
จากนั้นถัดมาอีกไม่ถึง 10 ปีท่านก็มรณภาพลงรวมสิริอายุได้ประมาณ 66 ปี central มรณภาพในช่วงปีพ.ศ. 2492 ด้วยโรคลำไส้พิการ และหลังจากนั้นในเวลาถัดมาก็ได้มีการจัดงานพระราชทานเพลิงศพที่วัดเกาะหลัก และถึงแม้ว่าท่านจะมรณภาพลงไปนับเวลาได้เกือบ 60 ปีแล้ว แต่ในทุกๆปีจะมีการปิดทองรูปหล่อของท่านอยู่เสมองานจะจัดขึ้น ในวันขึ้น 14 ค่ำเดือนสี่
ถือได้ว่าในขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่นั้นท่านได้อุทิศตนให้กับพระพุทธศาสนารวมถึงบำเพ็ญประโยชน์ให้กับสาธารณะอย่างมากและนอกจากนี้ท่านยังเป็นพระผู้มีเมตตาทำสูงช่วยเหลือผู้คนตกทุกข์ได้ยากอยู่เสมอและด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชาวประจวบคีรีขันธ์จึงเคารพศรัทธาท่านอย่างไม่เสื่อมคลาย และไม่ใช่เพียงชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เท่านั้นเพราะชาวไทยในภูมิภาคอื่นๆก็เคารพศรัทธาท่านด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีวัตถุมงคลที่ท่านได้เคยสร้างเอาไว้อีกมากมายยังคงเป็นที่นิยมมาถึงปัจจุบัน แต่เราจะมาบอกเล่าให้คุณได้ทราบกันในบทความครั้งต่อไปนะคะ
สำหรับวันนี้ต้องขออนุญาตลากันไป และขอฝากบทความ ประวัติความเป็นมาของพระเกจิอาจารย์ผู้เลื่องชื่อด้านโหราศาสตร์และสมุนไพร “หลวงพ่อเปี่ยม จันทโชโต” แห่งวัดเกาะหลัก เมืองประจวบคีรีขันธ์ ! กันไว้แต่เพียงเท่านี้ขอให้คุณโชคดีร่ำรวยเงินทองสุขภาพแข็งแรงกันถ้วนหน้าค่ะ