แน่นอนว่าหากมีใครถามถึงพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองนครปฐมในช่วงยุคปี 2500 นั้น แน่นอนว่าจะต้องมีชื่อของหลวงพ่อเปิ่นขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆอย่างแน่นอน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ครั้งนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับ ประวัติความเป็นมาสุดยอดพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง แห่งเมืองนครปฐม “หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ แห่ง วัดบางพระ” ! และถึงแม้ว่าท่านจะได้มรณภาพลงไปหลาย 10 ปีแล้วแต่พวกเราทีมงานสองพระยังคงละลึกถึง และเชื่อว่ายังคงมีลูกศิษย์ลูกหาที่เคารพและระลึกถึงอย่างเสมอมาเช่นกัน ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปทราบถึงประวัติความเป็นมาของท่านพร้อมๆกันได้เลยดังต่อไปนี้
ประวัติความเป็นมาหลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ แห่ง วัดบางพระ จังหวัด
สำหรับหลวงพ่อเปิ่นนั้นเดิมทีท่านมีชื่อว่านายเปิ่น มีนามสกุลว่าภู่ระหงษ์ ท่านเกิดในช่วงปีพ.ศ. 2466 ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคมเป็นปีกุน เดิมทีท่านเป็นคนที่ตำบลบางแก้วฟ้าซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอนครชัยศรีของจังหวัดนครปฐม บิดาของท่านมีชื่อว่านายฟักภู่ระหงษ์ และมารดาของท่านมีชื่อว่านางยวง ภู่ระหงษ์ ท่านเป็นบุตรชายคนที่เก้าของบิดาและมารดาซึ่งมีพี่น้องทั้งหมดจำนวน 10 คน
ตั้งแต่ครั้งที่ท่านยังเป็นเด็กนั้นท่านมีความสนใจและชื่นชอบในเรื่องของไสยศาสตร์มาก และครอบครัวของท่านก็อาศัยอยู่ใกล้ๆกับวัดบางพระ จึงทำให้ท่านเข้าออกอยู่บริเวณวัดเสมอ แต่ต่อมาไม่นานครอบครัวของท่านก็ได้ย้ายที่อยู่ไปอยู่ณบ้านทุ่งคอกจึงตั้งอยู่ในอำเภอสองพี่น้องของจังหวัดสุพรรณบุรี จากนั้นหลวงพ่อผลท่านก็ได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์กับหลวงพ่อแดงแห่งวัดทุ่งคอกที่ตั้งอยู่อำเภอสองพี่น้องนั่นเอง (หลวงพ่อแดงนั้นท่านเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อโหน่ง แห่งวัดคลองมะดัน) ท่านจึงมีวิชาเนื่องจากได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อโหน่งหลายแขนง และในที่สุดหลวงพ่อแดงท่านนี้ท่านก็คือพระอาจารย์ของหลวงพ่อเปิ่นในที่สุด
ภายหลังในเวลาไม่นานครอบครัวของท่านก็ได้ย้ายบ้านกลับมาอาศัยอยู่ ยังภูมิลำเนาเดิมซึ่งในจังหวัดนครปฐม และเมื่อมีอายุครบการเกณฑ์ทหารท่านก็ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ลูกผู้ชายทุกคนพึงทำ และได้รับตำแหน่งเป็นทหารราชณโยธา จากนั้นถัดมาเวลาไม่นานตำแหน่งนี้ก็ถูกประกาศยกเลิกไปทำให้หลวงพ่อเปิ่นท่านได้กลับมาหาบิดามารดาและช่วยบิดามารดาทำงานเพื่อเลี้ยงชีพซึ่งอาชีพของครอบครัวท่านก็คือเป็นชาวไร่ชาวนา ในขณะที่หลวงพ่อท่านทำไร่ทำนาอยู่นั้นท่านก็ได้มีโอกาสร่ำเรียนทางด้านวิชาสักยันต์กับพระอาจารย์หิ่ม อินทโชโต แห่งวัดบางพระ ด้วยความชื่นชอบเป็นเดิมอยู่แล้วจึงทำให้ท่านตั้งไจเรียนและศึกษาทางด้านนี้อย่างมาก
จากนั้นเมื่อท่านมีอายุได้ 20 ปีบริบูรณ์ ก็ได้เข้าพิธีอุปสมบทบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ ณ วัดบางพระ ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดนครปฐมอยู่ในตำบลบางแก้วฟ้าอำเภอนครชัยศรี ที่อยู่ใกล้ๆกับบ้านเกิดของท่านนั่นเอง ซึ่งพระผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ให้ท่านก็คือพระอาจารย์หิ่ม แห่งวัดบางพระ ส่วนพระผู้เป็นพระกรรมวาจาจารย์ก็คือพระอาจารย์ทองอยู่ และพระผู้เป็นพระอนุสาวนาจารย์ก็คือพระอาจารย์เปลี่ยน ฐิตธัมโม และฉายาทางธรรมของหลวงพ่อเปิ่นก็คือ “ฐิตคุโณ” และหลังจากที่ท่านได้อุปสมบทแล้วท่านก็ได้มีโอกาสร่ำเรียนวิชาอักขระโบราณจากการถ่ายทอดของพระอาจารย์หิ่ม ซึ่งเป็นรูปแบบยันต์ต่างๆสำหรับใช้ในการลงอาคม
ถัดมาในช่วงเวลาประมาณสี่ปีพระอาจารย์หิ่มท่านก็ได้มรณภาพลง จึงทำให้หลวงพ่อเปิ่นท่านได้ออกเดินธุดงค์ และได้พบกับหลวงพ่อโอภาสี แห่งวัดอาศรมบางมด จากนั้นท่านก็ได้ขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์และร่ำเรียนวิทยาคมจากหลวงพ่อโอภาสีเป็นช่วงเวลาประมาณหนึ่งปี จากนั้นหลวงพ่อเปิ่นก็ได้ออกเดินธุดงค์ไปยังจังหวัดต่างๆรวมไปถึงภาคใต้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ก็เพื่อปฏิบัติและฝึกฝนทางด้านวิปัสสนากรรมฐาน จนแตกฉานและมีความเชี่ยวชาญชำนาญแกร่งกล้าทางด้านวิชาอาคมและโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือทั้งด้านสมาธิจิตหลวงพ่อเปิ่นท่านมีความแกร่งกล้ามาก
ถัดมาในช่วงปี 2504 หลวงพ่อเปิ้ลท่านได้ทำการปักกลดเพื่อปฏิบัติกรรมฐาน ซึ่งในครั้งนี้ท่านเลือกปักกลดอยู่ในบริเวณทุ่งนา ซึ่งละแวกนั้นก็จะมีวัดอยู่ใกล้ๆ ซึ่งอยู่ในอำเภอลาดหญ้าของจังหวัดกาญจนบุรี เป็นเวลาระยะหนึ่ง จากนั้นก็มีชาวบ้านผ่านไปผ่านมาได้พบเห็นซึ่งหลวงพ่อท่านก็ใช้วิชาความรู้ทางด้านสมุนไพรและยารักษาโรคต่างๆ มาใช้ในการรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยของชาวบ้าน จนทำให้ชาวบ้านเกิดความเลื่อมใสศรัทธาและก็ได้นิมนต์ให้ท่านมาอยู่ ณ วัดทุ่งนางหลอก ซึ่งเป็นวัดที่ตั้งอยู่ในบริเวณที่ท่านปักกลด
แต่ก็ด้วยเหตุที่ว่าหลวงพ่อเปิ้ลท่านมีอาการป่วยและล้มป่วยอย่างกระทันหันจึงทำให้ท่านต้องกลับมารักษาตัวอยู่ที่วัดบางพระ ในจังหวัดนครปฐม จนหายขาดและเมื่อหายแล้วท่านก็ตั้งใจจะออกเดินธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆต่อ แต่ชาวบ้านก็ขอนิมนต์ให้ท่านไปช่วยพัฒนาวัดโค่กเคมาจึงทำให้ท่านได้ไปจำพรรษาอยู่ ณ วัดโคกเสมาและรับตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อ และถัดมาในช่วงปีพ.ศ. 2516 หลังจากที่หลวงพ่อทองอยู่ท่านได้มรณภาพลง เหล่าบรรดาญาติโยมและชาวบ้านแห่งตำบลบางพระ ก็ได้นิมนต์ให้หลวงพ่อเปิ่นท่านเข้ารับตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อ
และถัดมาในช่วงปี 2522 ท่านก็ได้รับพระราชทานให้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ที่พระครูฐาปนกิจสุนทร และถัดมาอีกไม่กี่ปีท่านก็ได้เดือนรับพระราชทานให้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอกที่พระครูฐาปนกิจสุนทร ในพระราชณทินนามนามเดิมซึ่งตรงกับช่วงปีพ.ศ. 2532 จากนั้นก็ได้รับพระราชทานให้เป็นพระราชาคณะสามัญที่ “พระอุดมประชานารถ” เนื่องจากท่านได้พัฒนาวัดจนสร้างผลงานอันเลื่องลือและดีงามแก่ชุมชน รวมถึงได้รับพระราชทาน ปริญญาบัตรพุทธศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ในสาขาสังคมศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยในปี 2538 อีกด้วย
หลวงพ่อเปิ่นนั้นนอกจากท่านจะมีความเชี่ยวชาญทางด้านไสยเวทย์วิชาอาคมต่างๆแล้ว ท่านยังเป็นนักพัฒนา และเป็นพระผู้มีเมตตาธรรมต่อเหล่าบรรดาประชาชนอย่างมาก จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมท่านจึงมีลูกศิษย์ลูกหาและมีผู้คนเลื่อมใสอย่างมากมาย ในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้นท่านได้สร้างคุณงามความดีไว้อย่างมาก และถึงแม้ว่าท่านจะมรณภาพลงไปเป็นเวลาหลายสิบปีแล้วแต่คุณความดีของท่านและผลงานที่ท่านได้สร้างเอาไว้ นั้นยังคงทำให้ผู้คนยังคงเลื่อมใสและละลึกถึงท่านอย่างไม่เสื่อมคลาย ซึ่งท่านได้มรณภาพลงในช่วงปีพ.ศ. 2545 ในวันที่ 30 มิถุนายน
การสร้างวัตถุมงคลขึ้นครั้งแรกของหลวงพ่อเปิ่น แห่ง วัดบางพระ
และถัดมาในช่วงปีพ.ศ. 2509 ท่านก็ได้สร้างวัตถุมงคลขึ้นเป็นครั้งแรกในชีวิต ซึ่งในครั้งนั้นท่านได้จัดสร้างวัตถุมงคลและเหรียญออกมาหลายรุ่นจนทำให้เราบรรดาชาวบ้านและญาติโยมในแถบนั้นช่วยกันบูชาเพื่อนำเงินในการบูชาวัตถุมงคลของท่านไปพัฒนาวัด ซึ่งในปัจจุบันวัตถุมงคลที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 2509 นี้ค่อนข้างหายากมากและมีราคาที่สูงมากด้วยเช่นกัน และหลังจากการสร้างวัตถุมงคลขึ้นเป็นครั้งแรกแล้วในปีถัดมาอีกหลายหลายปีท่านก็ได้สร้างวัตถุมงคลรวมถึงพระเครื่องเอาไว้อย่างมากมายซึ่งหากถามถึงราคาในการเล่นหาผลงานของหลวงพ่อเปิ่นแล้วล่ะก็ น้อยชิ้นนักที่จะมีราคาไม่สูง เนื่องจากมีเรื่องเล่าต่อๆกันมาทางด้านพุทธคุณว่ามีความเป็นเลิศเฉพาะด้านในหลายๆด้านกันเลยทีเดียวในแต่ละวัตถุมงคลของท่าน
อย่างไรก็ตามพวกเราทีมงานต้องขอฝากเรื่องราว ประวัติความเป็นมาสุดยอดพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง แห่งเมืองนครปฐม “หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ แห่ง วัดบางพระ” ! กันไว้แต่เพียงเท่านี้ แล้วกลับมาพบกับพวกเราได้ใหม่ในบทความที่เกี่ยวกับพระเครื่องได้ที่นี่ในครั้งต่อไป สำหรับครั้งนี้ต้องขอขอบคุณการติดตามอ่านจากทุกๆท่านขอให้คุณโชคดีและมีความสุขไปกับปีใหม่นะคะ
