สำหรับเป็นแฟนๆท่านใดที่ชื่นชอบพระเครื่องเมืองใต้ และมีความเลื่อมใสศรัทธา พ่อท่านเกลื่อนเป็นเดิมอยู่แล้วต้องไม่ควรพลาด เพราะในบทความนี้เราจะมาบอกเล่าถึง ประวัติความเป็นมาของสุดยอดพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองสงขลา “พ่อท่าน เกลื่อน วัดประดู่หมู่ อ. นาทวี” ! เพื่อให้ท่านใดทราบข้อมูลเพิ่มเติมอย่างละเอียด และไม่ได้เพียงแต่จะมาบอกเล่าถึงประวัติความเป็นมาของท่านเท่านั้น เพราะเราได้นำวัตถุมงคลยอดนิยมของท่านมาฝากไว้ในบทความนี้ด้วยเช่นกัน และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราจะพาคุณไปชมเรื่องราวที่น่าสนใจกันเลยดังต่อไปนี้
ประวัติพ่อท่านเกลื่อน วัดประดู่หมู่ อ.นาทวี จ.สงขลา
สำหรับพระครูประสูติโสภณ หรือที่ใครหลายคนมักจะรู้จักกันดีในนามของพ่อท่านเกลื่อน เดิมทีนั้นท่านมีชื่อว่าอั้น ชายะพันธ์ เกิดในช่วงปีพ.ศ. 2452 ซึ่งตรงกับปีระกา ท่านเกิดในวันที่ 17 พฤษภาคม มีเรื่องเล่าที่ถูกเล่าต่อๆกันมาว่าในขณะที่ท่านเกิดนั้นมีเหตุการณ์รกพันคอแต่ก็มีชีวิตรอดมาได้ จึงมีความเชื่อว่าท่านเป็นผู้มีบุญวาสนามาเกิดและถือเป็นนิมิตมงคลที่ดี
ท่านเป็นลูกชายคนโตของนายแก้วและนางละเอียด นามสกุลชายะพันธ์ เมื่อครั้งที่ท่านยังเป็นเด็กอยู่นั้น ท่านมีรูปร่างผอมบางมีความคล่องแคล่วปราดเปรียวจึงทำให้ครอบครัวและผู้คนเรียกท่านว่า “เกลื่อน” และท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดาประมาณหกคน จากนั้นเมื่ออายุได้ประมาณ 19 ปีบริบูรณ์ท่านก็ได้มีโอกาสบวชเป็นสามเณร ในจังหวัดยะลาซึ่งตรงกับที่พ.ศ. 2470. ในวันที่ 17 พฤษภาคม เมื่อบวชเป็นสามเณรแล้วท่านก็ได้ศึกษาภาษาบาลีก่อนที่จะบวชเป็นพระพิสุสงฆ์เมื่อถึงอายุครบบวช
ต่อมาเมื่ออายุได้ 20 ปีบริบูรณ์ท่านก็ได้เข้าพิธีอุปสมบทและเป็นพระภิกษุตามที่ใจปรารถนา ท่านบวชที่วัดนาทวีในช่วงปีพ.ศ. 2472 ซึ่งในครั้งนั้นพระผู้เป็นพระอุปชาให้กับท่านก็คือ ท่านพระครูอินทอง แห่ง วัดปลักชะเมา และพระผู้เป็นพระกรรมวาจาจารย์ให้กับท่านก็คือพระอาจารย์เทพ ธมฺมโชโต แห่งวัดนาหว้า และพระผู้เป็นพระอนุสาวนาจารย์ให้กับท่านก็คือ พระอาจารย์หนุ่ม จนฺสุวณ์โณ แห่งวัดประดู่หมู่ และพระอาจารย์อินทองท่านนี้ก็คือพระอาจารย์คนแรกของพ่อท่านเกลื่อนนั่นเอง เมื่อได้เข้าพิธีอุปสมบทบวชเป็นพระเรียบร้อยแล้วท่านก็มีความตั้งอกตั้งใจในการศึกษาทางด้านพระธรรมมาวินัยตามหลักคำสอนและมีความเคร่งครัดในการปฏิบัติอย่างยิ่ง
อีกทั้งยังได้มีโอกาสศึกษาทางด้านวิชาอาคมต่างๆอย่างมากมายจากพ่อท่านอินทร์ทอง ซึ่งในยุคนั้นพ่อท่านอินทร์ทองผู้นี้เรียกได้ว่าเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงอย่างมากเราบรรดาลูกศิษย์ลูกค้าชาวบ้านญาติโยมรวมทั้งผู้คนในละแวกนั้นย่อมรู้จักกิตติศัพท์ของท่านเป็นอย่างดีเนื่องจากท่านเป็นผู้มีอภิญญาและมีความเชี่ยวชาญทางด้านวิทยาคมอย่างมาก และสิ่งนี้ทำให้ผู้คนชาวแถบชายแดนภาคใต้โดยเฉพาะอำเภอจะนะอำเภอเทพาไปจนถึงจังหวัดยะลาได้เคารพศรัทธาตัวท่านเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าในยุคนั้นคงไม่มีใครไม่รู้จัก “พ่อท่านอินทร์ทอง” เป็นแน่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือชาวจังหวัดสงขลาต้องรู้จักท่านกันดี
ด้วยความเพียรพยายามและต้องอกตั้งใจในการปฏิบัติจึงทำให้เพราะท่านเกลื่อนมีความเชี่ยวชาญ ทางด้านวิชาความรู้ต่างๆที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากพระอาจารย์ของท่านเป็นอย่างดี และนอกจากนี้ท่านยังเป็นสหธรรมมิก กลับพระเกจิอาจารย์ชื่อดังเมืองใต้อย่างพระเกจิที่มีนามว่าอุโฆษ รวมถึงพระอาจารย์ทิมแห่งวัดช้างให้อีกด้วย เรียกได้ว่าค่อนข้างมีความสนิทสนมกันไม่น้อย
และนอกจากนี้ท่านยังเป็นศิษย์ของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังท่านอื่นๆอย่างเช่นพ่อท่านเส้ง แห่งวัดแหลมทราย, พ่อท่านวันแห่งวัดปากพะยูน , พ่อท่านเอียด แห่งวัดดอนศาลา อีกทั้งยังเป็นเพื่อนที่ได้ศึกษาเล่าเรียนในสำนักเค้าอ้อของขุนพันธ์รักษ์ราชเดช อีกด้วย
ไม่ใช่แต่เป็นเพียงพระผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียนและใฝ่ธรรมเท่านั้น แต่ท่านยังเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เป็นพระนักพัฒนาและเป็นนักปกครองชั้นยอดเรียกได้ว่าท่านเป็นพระเกจิธีราจารย์ผู้เรืองเวชวิทยาคมอย่างมาก และท่านก็เป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดในวัง ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอนาทวีตำบลนาทวีจังหวัดสงขลา ถัดมาในเวลาต่อมาท่านก็ได้ลาออกจากสมณสักในการเป็นเจ้าเอาวาส และมาจำพรรษาอยู่ที่วัดประดู่หมู่ด้วยความสงบ ท่านเป็นพระผู้ดำรงตนอย่างสมถะมีความเมตตา ต่อผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยากอีกทั้งยังปฏิบัติกรรมฐานอยู่อย่างสม่ำเสมอและชอบเจริญกรุงปัสสนาท่านเป็นผู้เคร่งครัดในศีล และมักช่วยเหลือผู้คนที่อยู่ในสภาวะยากลำบากอยู่เสมอโดยไม่เลือกชั้นวรรณะใดๆทั้งสิ้น
มีความเชื่อที่ถูกเล่าต่อๆกันมาว่าหากใครมาขอให้ลุงอิสไม้มงคลเพื่อนำไปสร้างบ้านบ้านหลังนั้นก็จะอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขและมักจะมีนายตำรวจและทหารและเวียนมากราบขอพรขอบารมีท่านอยู่อย่างไม่ขาดสายแต่ท่านก็มิได้มอบวัตถุมงคลอะไรให้และได้เพียงรดน้ำมนต์ให้ทุกๆคนที่มากราบไหว้ ถึงแม้กว่านั้นชื่อเสียงของท่านก็ยังพจรไปไกลไม่ได้เพียงแค่ในประเทศไทยหรือแถบจังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้นแต่ยังมีชื่อเสียงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเช่นประเทศสิงคโปร์และมาเลเซียอีกด้วย และถึงแม้ว่าท่านจะได้จากโลกนี้ไปเป็นเวลาหลาย 10 ปีแล้วแต่ชื่อเสียงของท่านก็ยังคงเลื่องลือและลูกศิษย์ลูกหา ก็ยังเคารพศรัทธาและระลึกถึงอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย และในบางครั้งก็ได้มีพิธีจัดงานรำลึกถึงท่านด้วยเช่นกัน
วัตถุมงคลพ่อท่านเกลื่อน
สำหรับวัตถุมงคลที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากของพ่อท่านเขื่อนเห็นที่น่าจะเป็นพระปิดตารุ่นแรก และเหรียญพ่อท่านเกลื่อนที่มักจะมีผู้คนถามหาถามถึงอยู่เสมอเชื่อกันว่าหากใครได้มีไว้ในครอบครองบูชาก็จะมีชื่อเสียงโด่งดังประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานรวมถึงครอบครัวอยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข แต่จำนวนในการสร้างค่อนข้างน้อย ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวัตถุมงคลที่หาชมได้ค่อนข้างยากจริงๆ
และนอกจากนี้ยังมีเหรียญหล่อรุ่นแรกที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวัตถุมงคลหายากยิ่งดีใครๆก็มักตามหา ถามถึง เนื่องจากเป็นเหรียญหล่อรุ่นแรกและสร้างขึ้นเพียงรุ่นเดียวเท่านั้นของพ่อท่านเกลื่อนแห่งวัดประดู่หมู่อำเภอนาทวีในจังหวัดสงขลานี้ ซึ่งการสร้างพระของท่านก็ไม่ได้สร้างกันบ่อยบ่อยและเป็นที่ทราบกันดีว่าพ่อท่านเกลื่อนผู้นี้ท่านเป็นผู้เรื่องวิทยาคมที่ไม่เคยอวดอ้างตนใดๆ และเหรียญหล่อรุ่นนี้แทนก็ได้สร้างตอนที่ท่านอายุ 100 กว่าปีแล้วซึ่งเป็นรุ่นเดียวก่อนที่ท่านจะมรณภาพลงและจากโลกนี้ไปจึงกลายเป็นของหายาก ที่เคยใครก็ถามหาและแน่นอนว่าพุทธคุณค่อนข้างสูง แรงและเข้มขลังอย่างมากจึงไม่แปลกใจว่าทำไมใครๆก็อยากได้ อีกทั้งยังมีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับวัตถุมงคลของท่านที่ร่ำลือกันว่าพุทธคุณสูงมากและแน่นอนว่าราคาก็ไม่น่าจะน้อยเช่นกัน
และสำหรับวัดประดู่หมู่นั้นตั้งอยู่ในตำบลช้างซึ่งอยู่ในอำเภอนาทวีของจังหวัดสงขลาประเทศไทยหากคุณได้โอกาสไปเยือนจังหวัดสงขลาก็สามารถแวะเข้าไปกราบสักการะไหว้ขอบารมีพ่อท่านเกินได้เช่นกัน ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็ยังคงมีผู้คนแวะเวียนเข้าไปกราบพระอยู่เสมอ อีกทั้งยังมีการจัดพิธีสำคัญทางศาสนาในวันพระใหญ่อีกด้วย
สำหรับในครั้งนี้พวกเราต้องขอฝากเรื่องราวของ ประวัติความเป็นมาของสุดยอดพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองสงขลา “พ่อท่าน เกลื่อน วัดประดู่หมู่ อ. นาทวี” ! กันไว้แต่เพียงเท่านี้แล้วกลับมาพบกับพวกเราได้ใหม่ในบทความครั้งต่อไปนะคะขอให้คุณโชคดีและมีความสุขไปกับการอ่าน ขอขอบพระคุณในทุกๆการติดตามอย่างเสมอมา สวัสดีค่ะ