เปิดประวัติสุดยอดผู้สืบทอดตำนานพระปิดตา “พระวรพรตปัญญาจารย์ (หลวงปู่เฮี้ยง) แห่งวัดป่า” เมืองชลบุรี

หากถามถึงของดีของขลังระดับตำนานของเมืองชลบุรี เชื่อว่าใครหลายคนจะต้องนึกถึงพระปิดตาของหลวงปู่เฮี้ยงขึ้นมาทันที ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าท่านเป็นผู้สืบทอดตำนานพระปิดตาที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากแห่งยุค จึงเป็นเหตุผลที่ในครั้งนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับ เปิดประวัติสุดยอดผู้สืบทอดตำนานพระปิดตา “พระวรพรตปัญญาจารย์ (หลวงปู่เฮี้ยง) แห่งวัดป่า” เมืองชลบุรี เพราะเราเชื่อว่าท่านผู้อ่านหลายหลายท่านที่ยังไม่ทราบถึงความเป็นมาจะต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน โดยเฉพาะท่านที่เคารพศรัทธาหลวงปู่เฮี้ยงเป็นเดิมอยู่แล้ว และแน่นอนว่าวันนี้เราจะมาบอกเราให้คนที่ทราบกันอย่างละเอียด เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปพบกับเรื่องราวที่น่าสนใจกันได้เลยดังต่อไปนี้

ประวัติความเป็นมา พระวรพรตปัญญาจารย์  (หลวงปู่เฮี้ยง)

สำหรับพระวรพรตปัญญาจารย์ หรือที่ใครหลายคนมักจะเรียกว่าหลวงปู่เฮี้ยง ปุณณัจฉันโท ซึ่งเดิมทีนั้นท่านชื่อว่านายกิมเฮี้ยง นาคไพบูลย์ ฉันเกิดช่วงปีพ.ศ. 2441 ในวันที่ 29 ธันวาคมซึ่งตรงกับแรมสองค่ำปีจอในวันพฤหัสบดี เดิมทีนั้นท่านเป็นคนมีเชื้อสายจีนมารดาของท่านที่นางผันและบิดาของท่านชื่อ “เร่งเซ็ง” เป็นผู้ที่มีเชื้อสายจีน หลวงปู่เฮี้ยงท่านมีพี่น้องรวมสายเลือดเจ็ดคน 

ในวัยเด็กนั้นมารดาของหลวงปู่เฮี้ยงได้พาหลวงปู่เฮี้ยงไปฝากเพื่อเรียนหนังสือกับพระวินัยธรเส็ง ตั้งแต่อายุประมาณไม่เกิน 10 ขวบ ซึ่งพระอาจารย์ของท่านเป็นเจ้าอาวาสแห่งวัดหนองไม้แดงที่ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรีแต่ในปัจจุบันคือวัดราษฎร์สโมสร และหลังจากที่พระอาจารย์ของหลวงปู่เฮี้ยงได้มรณภาพลง จึงทำให้หลวงปู่เฮี้ยงต้องกลับไปช่วยบิดามารดาทำงานช่วยทางบ้าน และต่อมาเมื่ออายุได้ 20 ปีบริบูรณ์หลวงปู่เฮี้ยงก็ได้เข้าสมัครเป็นตำรวจจากนั้นก็ปลดประจำการ ซึ่งเป็นเพียงกองหนุนชั้นที่หนึ่ง ซึ่งในขณะนั้นหลวงปู่เฮี้ยงท่านอายุได้ 22 ปี

ต่อมาเมื่ออายุ 23 ปีซึ่งตรงกับช่วงปีพ.ศ. 2463 หลวงปู่เฮี้ยงก็ได้ตัดสินใจเข้าพิธีอุปสมบทเพื่อบวชเป็นพระตามประเพณีนะวัดป่า (หรือวัดอรัญญิกาวาส) และพระที่เป็นพระอุปัชฌาย์ของท่านก็คือพระเขมทัสสีชลธีสมานคุณ แห่งวัดเขาบางทราย และมีพระอนุสาวนาจารคือพระปลัดชื่น ธัมมสาโร แห่งวัดป่า และพระผู้เป็นพระกรรมวาจาจารย์ของท่านก็คือพระวินัยธร (เภา) ซื่อฉายาท่านธรรมของหลวงปู่เฮี้ยงก็คือ ปุณณัจฉันโท ซึ่งความหมายของฉายาของท่านก็คือ “ผู้มีความพอใจอันเต็มเปี่ยม” 

เดิมทีนั้นหลวงปู่เฮี้ยงท่านมีความสนใจทางด้านวิทยาคม และหลังจากที่ได้บวชเป็นพระแล้ว ท่านก็ได้ขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์กับพระครูธรรมสารอภินันท์ (หลวงพ่อแดง) แห่งวัดใหญ่อินทรารามในจังหวัดชลบุรี ซึ่งท่านเป็นสุดยอดพระเกจิอาจารย์ที่มาจากเมืองพระตะบองท่านเป็นชาวกัมพูชา ซึ่งท่านได้จำวัดอยู่ณวัดใหญ่อินทารามยาวนานถึง 53 ปี และเป็นพระเถระผู้มีอภิญญาและทรงวิทยาคมอย่างมาก มีผู้เคารพศรัทธาและยำเกรง ท่านคือพระอาจารย์ผู้มีวาจาสิทธิ์ มีคณะสิทธิ์ยานุสิทธิ์ที่เคารพเลื่อมใสอย่างมาก ซึ่งเรื่องราวของท่านนั้นยังคงเป็นห่วงเรื่องเล่าขานต่อกันมาจนถึงลูกหลานในยุคปัจจุบัน

หลวงปู่เฮี้ยงนั้นท่านมีความเพียรพยายามและชื่นชอบศึกษาเล่าเรียนอย่างมาก อีกทั้งท่านยังเป็นพระนักพัฒนาทางด้านการศึกษาและเสนาสนะเพื่อให้เจริญรุ่งเรือง มีจิตใจเมตตาซึ่งในสมัยที่ท่านได้ปกครองณวัดอรัญญิกกาวาสเรียกไปว่าช่วงนั้นวัดค่อนข้างมีความเจริญรุ่งเรืองอีกทั้งท่านยังได้สร้างวัตถุมงคลและพระเครื่องไว้อย่างมากมาย ซึ่งแต่ละองค์นั้นล้วนเปี่ยมไปด้วยพุทธคุณสูง จนเป็นที่เลื่องลือกันอย่างแพร่หลายในยุคนั้นและในปัจจุบันเราบรรดานักสะสมทั้งหลายก็ยังคงแสวงหากันอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งวัตถุมงคลยอดนิยมที่ใครๆก็ต้องถามถึงของท่านก็คือพระปิดตา

เมื่อครั้งหลวงปู่เฮี้ยงยังคงมีชีวิตอยู่ท่านใดมีบทบาทในการสนับสนุนทางด้านการศึกษาของพระพิสุรวมไปถึงสามเณรและชาวบ้านในชุมชนต่างๆ ท่านได้เป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนมัธยมต้นและโรงเรียนประชาบาล ซึ่งโรงเรียนดังกล่าวนี้ได้ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดอรัญญิกาวาส ทำให้ประชาชนสามารถเข้ามาศึกษาเล่าเรียนได้ ต่อมาในช่วงปีพ.ศ. 2411 หลวงปู่เฮี้ยงได้มรณภาพลงและจากไปอย่างสงบในวันที่ 27 พฤษภาคมนะโรงพยาบาลสมเด็จ อ. ศรีราชา ซึ่งรวมสิริอายุได้ 70 ปี และครองพรรษานานถึง 47 พรรษา 

และถึงแม้ว่าการจากไปของหลวงปู่เฮี้ยงจะเป็นระยะเวลากว่า 100 ปีแล้วแต่ชื่อเสียงและเกียรติคุณที่หลวงปู่เฮี้ยงได้สร้างเอาไว้ตั้งแต่สมัยยังมีชีวิตอยู่ก็ยังคงทำให้ลูกศิษย์ลูกหายังคงเคารพศรัทธาเลื่อมใส และระลึกถึงอยู่ไม่เสื่อมคลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือบรรดาคณะศิษย์ในจังหวัดชลบุรี แต่หลวงปู่เฮี้ยงไม่ได้มีชื่อเสียงเพียงเฉพาะในจังหวัดชลบุรีเท่านั้นเพราะคนไทยแทบทั้งประเทศก็ต่างรู้จักท่านเนื่องในคุณงามความดีที่ท่านได้สร้างเอาไว้

วัตถุมงคล หลวงปู่เฮี้ยง

สำหรับวัดป่าที่หลวงปู่เฮี้ยงท่านได้จำพรรษาอยู่นั้นค่อนข้างมีความโด่งดังทั้งเรื่องของการสร้างวัตถุมงคลอย่างมาก และหลวงปู่เฮี้ยงเองท่านก็ได้เริ่มสร้างวัตถุมงคลต่างๆครั้งแรกตั้งแต่ในช่วงราวๆปีพ.ศ. 2484-2486 ซึ่งดำเนินการสร้างโดยมีพระใบฎีกาแฟ้ม อภิรโต และโดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้ผงศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อเจียมและหลวงพ่อแก้ว มาทำเป็นส่วนผสมในการปลุกเสกอธิฐานจิต

ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าหลวงปู่เฮี้ยงนั้น ท่านได้สร้างพระเครื่องเอาไว้อย่างมากมายซึ่งแต่ละองค์นั้นล้วนแล้วแต่มีพุทธคุณสูงมากจนกลายเป็นที่เลื่องลือ และท่านคือหนึ่งในผู้สืบทอดการสร้างพระปิดตา สำหรับพระปิดตานั้นได้ถูกสร้างเอาไว้หลายพิมพ์ซึ่งได้แก่พิมพ์หกเหลี่ยมหลังตะแกรงพิมพ์หลังอิติพิมพ์สะดือเล็กและพิมพ์เม็ดบัวเป็นต้นแต่ยังมีพิมพ์อื่นๆที่เรายังไม่ได้กล่าวถึงอีกมากมาย ซึ่งท่านได้เริ่มสร้างพระปิดตาตั้งแต่สมัยปี พ.ศ. 2495  

พระพิมพ์ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมมากก็เห็นจะเป็นพระปิดตาหกเหลี่ยมหลังตะแกรง ซึ่งสำหรับพิมพ์นี้เป็นพิมพ์ที่ได้สร้างต่อจากพระพิมพ์เม็ดบัว ซึ่งการจัดตั้งในครั้งนั้นมีประมาณราวๆ 1000 องค์ และได้มีการจัดทำชุดพิเศษขึ้นอีก 108 องซึ่งเป็นความประสงค์ของหลวงปู่เฮี้ยงที่ต้องการจัดสร้างอย่างต่อเนื่องกัน ความแตกต่างของพระปิดตาในแต่ละพิมพ์ของหลวงปูเฮี้ยงนั้นเราสามารถสังเกตได้จากมวลสารที่ใช้ในการสร้างพระ ซึ่งแต่ละรุ่นอาจมีการนำเปลือกหอยและปูนมาใช้เป็นส่วนผสมหลัก และในบางรุ่นในบางพิมพ์ก็จะใช้มวลสารอื่นๆที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในช่วงแรกๆอาจใช้ปูนประมาณร้อยละ 60 ส่วน แต่สำหรับการสร้างพระในชุดพิเศษเราจะสังเกตได้ว่าเนื้อขององค์พระนั้นมีความนุ่มและเหนียวกว่า

เนื่องจากการใช้ปูนถูกลดทอนลงให้เหลือเพียงประมาณร้อยละ 45 เท่านั้น และผงที่นำมาใช้ในการสร้างล้วนแต่เป็นผงพุทธคุณที่ท่านได้เก็บรักษาจากหลวงพ่อแก้วแห่งวัดเครือวัลย์ ผงพุทธคุณของหลวงพ่อโตแห่งวัดเนินสุทธาวาส ผงพุทธคุณของหลวงพ่อเจียมแห่งวัดกำแพง ผงพุทธคุณของหลวงปู่ภู่แห่งวัดนอก และสุดยอดพระเกจิอาจารย์อีกหลายท่านในยุคนั้นที่เราไม่ได้กล่าวถึง 

ทางด้านพุทธคุณของพระปิดตาของท่านนั้นค่อนข้างมีความโดดเด่นไปทางโชคลาภและเมตตามหานิยมเชื่อกันว่าหากใครมีไว้ในบูชาครอบครองก็จะทำให้ค้าขายดีเป็นเทน้ำเทถ้าอีกทั้งยังแคล้วคลาดปลอดภัยจากศัตรูผู้ปองร้าย ทั้งยังมีคำร่ำลือกันว่ามีความขลังอย่างมากอีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันวัตถุมงคลของหลวงปู่เฮี้ยงนั้นเรียกได้ว่ามีราคาสูงเป็นอันดับต้นๆ โดยเฉพาะพระปิดตา

แล้วกลับมาพบกับพวกเราได้ใหม่ในบทความครั้งต่อไปนะคะ สำหรับวันนี้พวกเราทีมงานต้องขอฝากเรื่องราว เปิดประวัติสุดยอดผู้สืบทอดตำนานพระปิดตา “พระวรพรตปัญญาจารย์ (หลวงปู่เฮี้ยง) แห่งวัดป่า” เมืองชลบุรี ไว้แต่เพียงเท่านี้ขอให้คุณโชคดีและมีความสุขในทุกๆวันค่ะ