เรียกได้ว่าค่อนข้างขึ้นชื่อและหายากไม่น้อยสำหรับเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อห้อยแห่งวัดหอมเกร็ด จังหวัดนครปฐม จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้วันนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับ ประวัติความเป็นมาของ “หลวงพ่อห้อย วัดหอมเกร็ด” กับสุดยอดเหรียญหายากแห่งเมืองนครปฐม ! ซึ่งแน่นอนว่านอกจากเราจะมาบอกถึงประวัติแบบคร่าวๆ ของท่านให้คุณได้ทราบกันมากยิ่งขึ้นแล้วเรายังจะมาบอกถึงที่มาของเหรียญหายากรุ่นแรกรุ่นนี้ให้คุณได้ทราบด้วยเช่นกัน ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราไปพบกับเรื่องราวที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ก็เลยดีกว่า
ประวัติของหลวงพ่อห้อย แห่ง วัดหอมเกร็ด จังหวัดนครปฐม
สำหรับ พระครูไพศาลธรรมวาที หรือที่ใครหลายคนมักจะรู้จักท่านในนามหนูก็แห่งวัดหอมเกร็ด อำเภอสามพรานเมืองนครปฐม สำหรับหลวงพ่อห้อยนั้นท่านได้เกิดในช่วงปีพ.ศ. 2415 ตรงกับวันที่ 27 เดือนกันยายน ท่านเป็นบุตรชายของคุณพ่อมั่งและคุณแม่เมือง และเมื่อช่วงปีพ.ศ. 2435 ท่านก็ได้เข้าพิธีอุปสมบทบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ ซึ่งพระผู้เป็นพระอุปประชาให้กับท่านก็คือพระครูปุริมานุรักษ์ แห่งวัดสุประดิษฐ์ฒาราม ส่วนพระผู้เป็นพระกรรมวาจาจารย์ให้กับท่านก็คือหลวงพ่อรุ่งแห่งวัดหอมเกร็ด และพระผู้เป็นพระอนุสาวนาจารย์ให้กับท่านก็คือหลวงพ่อแจ่มแห่งวัดทรงคนอง และทายาททั้งธรรมของหลวงพ่อห้อยก็คือ “ปุญญัสสะ”
ซึ่งพระอาจารย์ทั้งสามพระองค์นี้เรียกได้ว่าเป็นพระอาจารย์องค์แรกของหลวงพ่อห้อยเลยก็ว่าได้เพราะทั้งสามท่านนี้ได้ถ่ายทอดวิชาทางด้านวิทยาการต่างๆให้กับหลวงพ่อห้อยโดยตรง และหลังจากนั้นฉันก็ได้มีโอกาสร่ำเรียนวิชากลับสมเด็จพระสังฆราชแพร์แห่งวัดสุทัศน์ ซึ่งในขณะนั้นท่านยังคงดำรงสมณศักดิ์ที่พระธรรมโกษาจารย์ ถัดมาเมื่อหลวงพ่อห้อยท่านบวชได้ประมาณ 3 พรรษา หลวงพ่อรุ่งแห่งวัดหอมเกร็ดผู้เป็นพระอาจารย์ของท่านก็ได้มรณภาพลง จึงทำให้วัดหอมเกร็ดขาดผู้ปกครองวัด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คณะ 10 รวมถึงมรรคนายกวัดได้นิมนต์ขอให้หลวงพ่อห้อยขึ้น รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหอมเกร็ด
ซึ่งก่อนที่จะเป็นวัดหอมเกร็ดนั้นเดิมทีเคยมีชื่อว่าวัดหอมกรุ่น แต่ต่อมาเมื่อหลวงพ่อห้อยท่านได้พิจารณาว่าการคมนาคมไม่ค่อยสะดวกและอยู่ใกล้แหล่งน้ำ รวมถึงสภาพวัดในขณะนั้นค่อนข้างสุดโทรมอย่างมากจึงได้ปรึกษากับมาคทายกวัด และได้ย้ายจากวัดหอมกลุ่นมาตั้งอยู่ในบริเวณปัจจุบันซึ่งมีความห่างจากพื้นที่เดิมประมาณราวๆ 500 เมตร เมื่อได้ย้ายพื้นที่มาอยู่ใกล้กับริมแม่น้ำ หลวงพ่อห้อยท่านก็ได้ทำการบูรณะและพัฒนาวัดให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองในเวลาถัดมา ท่านได้สร้างศาลาการเปรียญสร้างกุฎิสงฆ์ใหม่ และได้สร้างพระอุโบสถขึ้น
อีกทั้งหลวงพ่อห้อยท่านยังมีความสนใจในเรื่องของการศึกษาถัดมาในช่วงปีพ.ศ. 2462 ท่านจึงได้เปิดศาลาการเปรียญเพื่อทำการสอนหนังสือให้กับชาวบ้านและเด็กที่บริเวณนั้น และครูใหญ่คนแรกของสถานที่ทำการสอนหนังสือในครั้งนี้ ก็คือนายเทพ นาคนาเกรด จากนั้นถัดมาในช่วงปีพ.ศ. 2465 ฉันก็ได้สร้างอาคารเรียนเพื่อให้เด็กได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียน และก่อตั้งเป็นโรงเรียนที่มีชื่อว่าห้อยศึกษาลัย ถือได้ว่าท่านเป็นพระนักพัฒนาอีกหนึ่งรูปของจังหวัดนครปฐมที่ค่อนข้างมีผู้คนเลื่อมใสและศรัทธาอย่างมาก
อีกทั้งผลงานและความสามารถทางด้านการพัฒนาของท่าน ได้ทำประโยชน์ให้กับลูกหลานรุ่นใหม่และญาติโยมต่างๆได้เรียนหนังสือกันมากยิ่งขึ้น และด้วยเหตุนี้จึงทำให้ท่านได้รับสมณศักดิ์ที่พระครูไพศาลทำมาวาที จากนั้นถัดมาในช่วงปีพ.ศ. 2481 หลวงพ่อห้อยท่านก็ได้พิจารณาและทำการขยายโรงเรียนขึ้น ด้วยความร่วมมือร่วมใจกับชาวบ้านในละแวกนั้น รวมถึงทางการได้ให้ความร่วมมือจนโรงเรียนได้ขยายใหญ่ขึ้นและมีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น จนได้กลายเป็น “โรงเรียนไพศาลประชานุกูล” ในที่สุด เรียกได้ว่าตลอดช่วงชีวิตของหลวงพ่อให้นั้นท่านได้อุทิศตนให้กับพระพุทธศาสนาและบำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณะอย่างมากมาย จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจึงมีลูกศิษย์ลูกหาที่เคารพนับถือและเลื่อมใสท่านอย่างมาก รวมถึงญาติโยมที่ศรัทธาและให้ความร่วมมือร่วมใจในหลายๆสิ่งที่ท่านได้สร้างเอาไว้เพื่อผู้คนในยุคหลัง
ถัดมาในช่วงปีพ.ศ. 2483 หลวงพ่อให้ท่านก็ได้มรณภาพลงซึ่งสร้างความโศกเศร้าให้กับชาวจังหวัดนครปฐมและเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความสุขเศร้าสำหรับชาวไทยไม่น้อย รวมสิริอายุได้ประมาณ 68 ปี 48 พรรษา และอย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าท่านจะได้มรณภาพลงรวม 80 ปีแล้วเชื่อว่าสิ่งดีๆ ที่ท่านได้สร้างเพื่อสาธารณะประโยชน์ก็ยังคงเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนรุ่นหลังไม่น้อย และทำให้ประชาชนยังคงระลึกถึงท่านอยู่เสมอไม่เสื่อมคลาย และนอกจากนี้พระเครื่องที่ท่านได้เคยสร้างเอาไว้ซึ่งก็คือพระปิดตามหาอุคม์หลวงพ่อห้อย รวมถึงเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อห้อยด้วยเช่นกัน ที่ยังคงเป็นที่นิยมและถามถึงกันอย่างมากในปัจจุบัน
ที่มาของเหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อห้อย
วัดหอมเกร็ด จังหวัดนครปฐม
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเดือนที่ค่อนข้างหาชมได้ยากมากๆในปัจจุบันเนื่องจากจำนวนการสร้างที่ค่อนข้างน้อย และได้กลายเป็นเงินหายากของจังหวัดนครปฐมด้วยเช่นกัน และอาจเพราะเป็นเหรียญที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนยุคปีพ.ศ. 2500 สำหรับประวัติความเป็นมาของเดือนนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเนื่องในโอกาสจัดสร้างเพื่องานฉลองสมณศักดิ์ที่รักกูไพศาลธรรมมาวาทีในช่วงปีพ.ศ. 2465
ที่เรียกได้ว่าเป็นเหรียญเลื่อนในยุคแรกแรกของพระเกจิอาจารย์ที่อยู่ในแถบจังหวัดนครปฐม ถูกสร้างขึ้นเป็นจำนวนประมาณไม่เกิน 500 เหรียญ (สำหรับเหรียญทองแดง) และสำหรับเนื้อเงินนั้นเรียกได้ว่ามีจำนวนน้อยมากๆซึ่งข้อมูลส่วนใหญ่ก็ไม่ได้สรุปถึงจำนวนเอาไว้อย่างชัดเจน
สำหรับเขียนเนื้อทองแดงนั้นจะถูกแบ่งออกเป็นเนื้อทองแดงกะไหล่เงิน จับเนื้อทองแดงผิวไฟ แต่ในส่วนของเหรียญเงินนั้นไม่ได้มีแบ่งออกเป็นเนื้อเงินอื่น เพราะมีเพียงเนื้อเงินเดียว ในด้านค่านิยมของเหรียญรุ่นนี้สำหรับเหรียญเนื้อทองแดงผิวไฟนั้น หากสภาพที่สมบูรณ์ต้องขอบอกเลยว่าราคาในการเล่นหาอยู่ที่หลักแสนต้นๆ สำหรับดินเนอร์ทองแดงที่เป็นกะไหล่เงินนั้นหากสภาพแชมป์ก็จะอยู่ในราคาเล่นหาที่ประมาณหลัก แสนกลางๆ และสำหรับเรียนที่เป็นเนื้อเงินราคาเล่นหาเห็นว่าน่าจะอยู่ในราวๆหลักแสนปลายๆ แต่อย่างไรก็ตามราคาในอนาคตอาจมีสูงขึ้นได้
พุทธลักษณะของเหรียญรุ่นแรก
สำหรับเหรียญรุ่นแรกพี่ไม่ว่าจะเป็นเหรียญเนื้อเงินหรือเหรียญเนื้อทองแดงใดๆก็ตามจะมีพุทธะลักษณะที่เหมือนกันต่างกันเพียงเนื้อของมวลศาลเท่านั้น เราจะสังเกตได้ว่าเป็นเหรียญรูปไข่ที่มีหูเชื่อม มีการยกขอบตั้งแต่บริเวณขอบและมีการยกขอบที่บริเวณชั้นกลางเป็นรูปวงรีหรือรูปไข่แบบรอบวง ตรงกลางจะปรากฏรูปเหมือนของหลวงพ่อห้อยเอาไว้อย่างชัดเจนแบบครึ่งองค์ เราเห็นผ้าสังฆาฏิอย่างชัดเจน ในส่วนของรอบขอบเหรียญนั้น ทางด้านกลางด้านซ้ายไปจนด้านขวาจะปรากฏอักษรภาษาไทยเอาไว้โดยรอบเหรียญ ซึ่งระบุเอาไว้ด้วยคำว่า “วัดหอมเกร็ด.ที่ระฤก.งานฉลองตรา”
และในส่วนของบริเวณด้านล่างซ้ายไปจนท่านล่างขวาจะปรากฏอักษรภาษาไทยที่ระบุเอาไว้ด้วยคำว่า “พระครูไพศาลธรรมวาที”
ถัดมาในส่วนของบริเวณด้านหลังนั้นจะปรากฏยันเอาไว้อย่างชัดเจนตรงกลางเหรียญ และในส่วนของด้านล่างนั้นจะระบุเป็นตัวเลขภาษาไทยซึ่งหมายถึงปีพ.ศ. ในการสร้างซึ่งก็คือ “๒๔๖๕” และที่บริเวณด้านขอบและมีการยกขอบเป็นยกเล็กๆแบบรอบเหรียญ
ขอฝากเรื่องราว ประวัติความเป็นมาของ “หลวงพ่อห้อย วัดหอมเกร็ด” กับสุดยอดเหรียญหายากแห่งเมืองนครปฐม ! กันไว้แต่เพียงเท่านี้ แล้วกลับมาพบกับพวกเราได้ใหม่ในบทความครั้งต่อไปนะคะสำหรับวันนี้ต้องขออนุญาตลากันไปก่อนขอให้ท่านโชคดีสุขขีและร่ำรวยค่ะ แนะนำเว็บ : Bkkcar4cash รับจำนำรถ