จะพาคุณมาทางฝั่งอีสานเหนือกันบ้างขึ้นในครั้งนี้เราทราบถึง ประวัติความเป็นมาของสุดยอดพระเถรจารย์แห่งเมือง มหาสารคาม “หลวงปู่เสาร์ ธัมมจาโร วัดบูรพาเกิ้งใต้” ! ซึ่งหลวงปู่เสาร์นั้นท่านเป็นอีกหนึ่งพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่เคารพศรัทธาสำหรับผู้คนทั้งแถบภาคอีสานฝั่งเหนือ ไปจนถึงทั่วทั้งภาคอีสานโดยเฉพาะอย่างยิ่งของชาวจังหวัดมหาสารคาม และแน่นอนว่าในครั้งนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับความเป็นมาของท่าน ทราบกันแล้วว่าเนื้อหาสาระในครั้งนี้จะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างเราไปชมพร้อมๆกันได้เลยดังต่อไปนี้ค่ะ
ประวัติความเป็นมาของ “หลวงปู่เสาร์ ธัมมจาโร
วัดบูรพาเกิ้งใต้ ”
สำหรับพระครูวุฒิธรรมาภิราม หรือที่เราหลายคนมักจะรู้จักท่านในนามหลวงปู่เสาร์ ธัมมจาโร นั้น ท่านเกิดในช่วงปีพ.ศ. 2467 เดิมทีท่านเป็นชาวจังหวัดมหาสารคามเกิดที่บ้านหนองไฮ อำเภอวาปีปทุม เป็นบุตรชายของพ่อออมและแม่แทด พนะชัย ครอบครัวของท่านทำอาชีพเป็นเกษตรกรเป็นชาวไร่ชาวนา ในช่วงที่ท่านยังเด็กอยู่นั้นฉันได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียน และจบชั้นประถมศึกษาอยู่ที่โรงเรียนเล็กๆในหมู่บ้าน เมื่อเรียนจบก็ออกช่วยพ่อและแม่ทำงานหาเลี้ยงครอบครัว และเมื่อเติบโตเป็นวัยรุ่นท่านก็ได้ออกเดินทางมายังเมืองหลวงเพื่อหางานทำ หลวงปู่เสาร์นั้นท่านมีนิสัยกตัญญูต่อพ่อแม่อย่างมาก และมีความรักครอบครัวจึงไปทำงานหาเงินเพื่อมาดูแลครอบครัว
และเมื่ออายุได้ประมาณ 40 ปีเศษท่านรู้สึกเบื่อหน่ายชีวิตทางโลกจึงได้ตัดสินใจบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ ซึ่งปีที่ท่านบวชนั้นตรงกับปีพ.ศ. 2508 เซ็นทรัลได้บวชอยู่ที่วัดบ้านขามป้อมซึ่งตั้งอยู่ในตำบลขามป้อมของอำเภอวาปีปทุมในจังหวัดมหาสารคาม พระผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ให้กับท่านก็คือพระครูพิทักษ์สุนทร การ ส่วนพระผู้เป็นพระกรรมวาจาจารย์ให้กับท่านก็คือพระครูวิจักษ์ถาวรคุณ และปลาปูเป็นพระอนุสาวนาจารย์ให้กับท่านก็คืออาจารย์สมภพ สันตสีโล และเมื่อบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์แล้วฉันก็ได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านเกิดของท่าน งั้นก็ได้ตั้งจัยศึกษาเล่าเรียนทางด้านพระปริยัติธรรม
ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจจึงทำให้ท่านสามารถตอบได้นักธรรมชั้นตรีในเวลาไม่นาน จากนั้นถัดมาอีกช่วงเวลาหนึ่งท่านก็ได้เดินทางมายังวัดบูรพาเกิ้งใต้ ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอเมืองตำบลเกิ้ง ของจังหวัดมหาสารคาม และได้จำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ ท่านก็สามารถสอบได้นักธรรมชั้นโทตามด้วยนักธรรมชั้นเอกในเวลาต่อมา ถัดมาอีกหลายปีหลังจากที่วัดบูรพาเกินป้ายขาดผู้ปกครองวัดคือตำแหน่งเจ้าอาวาส จึงทำให้คณะสงฆ์ได้พิจารณา และนิมนต์แต่งตั้งให้ท่านเข้ารับตำแหน่งเจ้าอาวาสแห่งวัดบูรพาเกิ้งใต้นี้ในช่วงปีพ.ศ. 2512
ท่านเป็นเจ้าอาวาส วัดบูรพาเกิ้งใต้
หลวงปู่เสาร์นั้นถือได้ว่าท่านเป็นอีกหนึ่งในพระ ที่เป็นหัวแรงใหญ่ให้กับพระภิกษุและสามเณรในวัด ฉันจะคอยอบรมสั่งสอนพระภิกษุและสามเณรรวมถึงลูกศิษย์ลูกหาเด็กวัดให้รู้จักผิดชอบชั่วดี และคอยอบรมสั่งสอนพวกเขาให้เป็นคนดีนอกจากนี้ท่านยังได้อุทิศตนให้กับพระพุทธศาสนา โดยการสนองงานศึกษาสงฆ์อย่างเต็มที่ และหากมีพระภิกษุสงฆ์หรือสามเณรรูปใดที่มีความมุ่งมั่นและตั้งอกตั้งใจเรียนดีหลวงปู่เสาร์ก็จะบริจาคปัจจัยให้พระภิกษุและสามเณรเหล่านั้นได้มีทุนการศึกษาเอาไว้เรียนต่อซึ่งหลวงปู่เสาร์ท่านจะทำเช่นนี้ในทุกๆปี
อุปนิสัยส่วนตัวของหลวงปู่เสาร์นั้นท่านจะเป็นพระที่มีความขยันหมั่นเพียรอย่างมาก เป็นพระผู้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและปฏิบัติเป็นตัวอย่างให้กับผู้คนอยู่เสมอ ซื่อท่านมักจะยึดหลักธรรมของพระวินัยในการประพฤติตนอย่างเสมอต้นเสมอปลายจนสร้างความเลื่อมใสศรัทธาให้กับญาติโยมและลูกศิษย์ของท่าน. รวมถึงเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับพระสงฆ์และสามเณรในวัดอีกด้วย โดยปกติแล้วหลวงปู่เสาร์ท่านมักจะชอบความเงียบสงบและหลังจากออกพรรษาหลวงปู่เสาร์ก็มักจะออกธุดงควัตรไปตามป่าเขาลำเนาไพร แถบทั่วภาคอีสาน เพื่อแสวงหาทางหลุดพ้นตามรอยพระพุทธองค์ อีกทั้งยังถือสมถะและไม่ยึดติดกับยศฐาใดๆ
ซึ่งในแต่ละวันนั้นจะมีญาติโยมและพุทธะศาสนิกชนที่บริเวณจังหวัดใกล้ใกล้มาร่วมนมัสการและรับฟังธรรมจากหลวงปู่เสาร์อยู่เสมอ ทั้งบางคนยังมาประผมน้ำพระพุทธมนต์ และขอให้หลวงปู่รดน้ำมนต์ให้กันอย่างมากมาย และปัจจัยที่หลวงปู่ท่านได้รับมาส่วนใหญ่ท่านก็มักจะนำมาช่วยเหลือสังคมช่วยเหลือชุมชนบางก็เป็นทุนการศึกษาให้กับพระภิกษุสงฆ์ หรือสามเณรรวมถึงช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยาก
เรื่องเล่าของหลวงปู่เสาร์ ธัมมจาโร
ในครั้งหนึ่งที่หลวงปู่เสาร์ท่านได้ออกเดินธุดงค์ไปยังเขตชายแดน ซึ่งในขณะนั้นพื้นที่ที่ท่านเดินธุดงค์ไปเป็นเหตุยึดครองที่ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์กำลังยึดพื้นที่ ซึ่งพื้นที่นั้นเรียกว่าป่าดงมูลซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดกาฬสินธุ์ การที่หลวงปู่ท่านได้ออกเดินธุดงค์ไปยังสถานที่นั้นก็โดยเหตุที่ทันไม่รู้ จนทำให้ผู้ก่อการร้ายคิดว่าหลวงปู่เสาร์ท่านปลอมตัวมา แต่หลวงปู่ท่านก็ตั้งสติได้เป็นอย่างดี
โดยการมีสติอย่างมั่นคงจากนั้นท่านก็ได้แสดงความบริสุทธ์ใจของท่านให้กับเหล่าบรรดาคอมมิวนิสต์เห็นและสุดท้ายพวกเขาเหล่านั้นก็ปล่อยตัวหลวงปู่ออกมาอย่างสวัสดิภาพ และปล่อยให้ท่านเดินทางกลับอย่างปลอดภัย โดยไม่ทำอันตรายใดใดทั้งสิ้น ด้วยความประพฤติและปฏิบัติที่ทำอย่างสม่ำเสมอจนทำให้ผู้คนในแถบละแวกนั้นเริ่มรู้จักโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือชาวพุทธที่อยู่ในอำเภอเมืองก็ได้รู้จักและเลื่อมใสศรัทธาท่านมากขึ้น
ท่านเป็นพระนักปฏิบัติ
นอกจากที่หลวงปู่เสาร์หน้าจะเป็นพระนักปฏิบัติแล้วท่านยังเป็นพระนักพัฒนาด้วยเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่นั้นหลวงปู่ท่านมักจะทำประโยชน์ให้กับสังคมนอกจากจะนำปัจจัยมาช่วยเหลือสังคมแล้วท่านยังเป็นผู้นำให้กับชาวบ้านในละแวกนั้นในการช่วยกันพัฒนาชุมชนหมู่บ้านรวมไปถึงการพัฒนาวัดควบคู่ไปด้วย
สำหรับการพัฒนาวัดนั้นท่านมักจะบูรณะศาสตรษณวัตถุและศาสนสถานที่สุดโทรมให้กลับมาใช้งานได้ดีขึ้นรวมถึงบางครั้งกระปุก ต่างๆเพิ่มหากต้องการ ยังดูแลและปรับปรุงบริเวณวัดให้เกิดความร่มเย็น และทำให้บริเวณวัดเกิดความสงบน่าอยู่เหมาะกับการเจริญภาวนา วัดสะอาดและมีความเป็นธรรมชาติ และหลวงปู่ท่านมักจะอบรมสั่งสอนไปพร้อมพร้อมกับเทศน์ให้กับญาติโยมและลูกศิษย์ลูกหา โดยเน้นในเรื่องของการปฎิบัติ
หลวงปู่ท่านมักจะบอกเสมอว่าปุถุชนคนทั่วไปนั้นโดยส่วนใหญ่ก็ยังคงมีกิเลสกันอยู่ ดังนั้นจึงรักษาเอาไว้เป็นหลักในการดำเนินชีวิต อย่างมีสติไม่ประมาทและก่อนจะทำสิ่งใดก็ขอให้มีสติในการตัดสินใจ อย่าลืมนึกถึงคุณบิดามารดา ที่เลี้ยงอุ้มชู เรามาตั้งแต่เล็กอย่างยากลำบาก หากปฏิบัติตามเช่นนี้ รับรองว่าก็จะมีแต่ความสุขความเจริญ และได้พบเจอแต่สิ่งดีๆ
ลำดับงานปกครองของหลวงปู่เสาร์
ตั้งแต่ในช่วงปีพ.ศ. 2513 หลวงปู่เสาร์นั้นท่านได้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสแห่งวัดบูรพาเกิ้งใต้ ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดมหาสารคาม ณ อำเภอเมือง ที่ตำบลเกิ้ง จากนั้นถัดมาในช่วงปีพ.ศ. 2536 ท่านก็ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลเกิ้ง และถัดมาอีกหนึ่งปี คือช่วงปีพ.ศ. 2537 ท่านก็ได้รับตำแหน่งเป็นพระอุปัชฌาย์
และได้รับพระราชทานให้ได้รับเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลที่พระครูวุฒิธรรมาภิราม ในช่วงปีพ.ศ. 2537 และถัดมาในช่วงปีพ.ศ. 2548 หลวงปู่เสาร์ท่านก็ได้มรณภาพลงและจากไปด้วยอาการสงบรวมสิริอายุได้ 82 ปีและบวชได้ 40 พรรษา ซึ่งถึงแม้ว่าหลวงปู่ท่านจะละสังขารจากโลกนี้ไปนานหลายปีแล้วก็ตามแต่เชื่อว่ายังคงมีลูกศิษย์ลูกหาที่เคารพเลื่อมใสศรัทธา และระลึกถึงท่านอยู่อย่างไม่เสื่อมคลายจนถึงปัจจุบันนี้เช่นกัน
แล้วกลับมาพบกับพวกเราได้ใหม่ในบทความครั้งต่อไปนะคะ สำหรับวันนี้พวกเราทีมงานต้องขอฝากเรื่องราวของ ประวัติความเป็นมาของสุดยอดพระเถรจารย์แห่งเมือง มหาสารคาม “หลวงปู่เสาร์ ธัมมจาโร วัดบูรพาเกิ้งใต้” ! กันไว้แต่เพียงเท่านี้ขอให้คุณโชคดีและมีสุขภาพที่แข็งแรงในทุกๆวันร่ำรวยเงินทองเฮงเฮงเฮงทุกๆท่านค่ะ