สำหรับใครที่ชื่นชอบพระกรุเป็นเดิมอยู่แล้วต้องไม่ควรพลาดเพราะในครั้งนี้เราจะพาคุณนายแผนที่จังหวัดสระบุรีและมารู้จักกับกรุวัดดาวเสด็จ ทั้งยังจะพาคุณมาทราบถึง ที่มาสุดขลัง “พระนางพญา กรุวัดดาวเสด็จ จังหวัดสระบุรี” พระเครื่องล้ำค่าที่ใครๆก็ตามหา ! เพราะเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่ามีกรุมากมายในประเทศไทยที่มีความเก่าแก่ ก่อนหน้านี้พวกเราทีมงานส่องพระก็ได้พูดถึงจังหวัดอื่นๆกันไปมากมายแล้ว แต่ในครั้งนี้เราจะพาคุณไปยังกรุในจังหวัดสระบุรีกันบ้าง หากอยากทราบกันแล้วว่าเรื่องราวในวันนี้จะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้นต้องอย่ารอช้าเข้ามาชมรายละเอียดไปพร้อมกันได้เลยดังต่อไปนี้
ก่อนอื่นต้องขออนุญาตย้อนไปถึงประวัติความเป็นมาของวัดเก่าแก่ที่มีชื่อว่าวัดดาวเสด็จกันเสียก่อน เนื่องจากวัดแห่งนี้ค่อนข้างมีความเก่าแก่ และมีมาตั้งแต่สมัยโบร่ำโบราณถูกสร้างขึ้นในสมัยอยุธยา และเป็นอีกวัดหนึ่งที่มีความรุ่งเรืองมากในยุคนั้น เดิมทีได้มีตำแหน่งที่ตั้งตรงข้ามแม่น้ำป่าสัก จากนั้นในช่วงปี 2370 ได้มีการสร้างใหม่และมีตำแหน่งตั้งอยู่ในพื้นที่ของเขตหมู่บ้านดาวเรือง ที่ราบริมฝั่งแม่น้ำป่าสักเช่นกัน ณ จังหวัดสระบุรีในปัจจุบัน จึงได้มีการตั้งชื่อขึ้นมาใหม่ว่าวัดดาวเรือง และในปัจจุบันผู้คนสมัยใหม่ก็จะรู้จักกันดีในชื่อว่าวัดดาวเรือง ซึ่งนำโดยเจ้าอาวาสของวัดในช่วงนั้น ซึ่งก็คือหลวงพ่อแหย่ง
หากมีใครถามถึงในเรื่องของพระกรุพระเครื่องที่มีความเก่าแก่วัดดาวเรืองหรือวัดดาวเสด็จนี้ ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งวัดที่ค่อนข้างขุดพบพระเครื่องโบราณมากมายเช่นกัน เมื่อครั้งแต่กรุวัดแห่งนี้ได้มีการค้นพบกับพระเครื่องหลากหลายพิมพ์ และมีความโบราณมากอย่าง พระซุ้มกระรอก , พระกำแพงหน้าอิฐ ,พระนาคปรก ,พระปรกโพธิ์ เพียงเอ่ยชื่อก็นับว่าขนรุกกันไปอย่างมากมายแล้ว เนื่องจากพระแต่ละองค์ที่ได้กล่าวมานี้ล้วนแล้วแต่นับว่าเป็นพระในตำนานเลยก็ว่าได้ เป็นพระที่ใครหลายคนใฝ่ฝันและหายากมากในปัจจุบันจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าในแต่ละพิมพ์นั้นย่อมเป็นที่หมายตาหมายใจของเหล่าบรรดาผู้นิยมสะสมพระเครื่องกันอยู่แล้ว รวมถึงพระนางพญาที่เรากำลัจะมาพูดถึงในวันนี้
เรียกได้ว่าเป็นพระที่มีเอกลักษณ์และทรงคุณค่ามากกับชาวจังหวัดสระบุรี สำหรับพระนางพญาของกรุวัดดาวเสด็จหรือวัดดาวเรืองแห่งนี้ มีความคล้ายคลึงกับพระนางพญาแห่งวัด นางพญาในจังหวัดพิษณุโลกอย่างมาก อีกทั้งยังมีพุทธคุณสูงและโดดเด่นในเรื่องของเมตตามหานิยม ค่อนข้างมีความเข้มขลังไปทางโชคลาภ วาสนานำพาอย่างมาก จึงและไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครๆก็ต่างใฝ่หาและอยากได้มีไว้บูชาครอบครอง หากจะเอ่ยถามถึงในเรื่องของราคาแล้วเราก็คาดว่าไม่น่าจะตอบกันได้เนื่องจากแน่นอนว่าราคาค่อนข้างสูง และยังอาจจะะมีการราคาอัพขึ้นกันอยู่เรื่อยๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นพระนางพญาพิมพ์หลังอูมสีแดงด้วยแล้ว ต้องขอบอกเลยว่าเราอาจได้เห็นของจริงกันยาก เนื่องจากเป็นพระเครื่องเก่าแก่มากจึงค่อนข้างหายาก หรือเท่าที่เราได้พบเห็นกันอยู่ก็ไม่ทราบว่าองค์ไหนของใครจะแท้หรือองค์ไหนของใครปลอมกันบ้างซึ่งทั้งนี้เราต้องสอบถามจากผู้รู้
ขุดพบ “พระนางพญา กรุวัดดาวเสด็จ จังหวัดสระบุรี” ที่ไหน
สำหรับพระเครื่องนางพญากรุวัดดาวเสด็จวันนี้แน่นอนว่าจะต้องขุดพบในวัดดาวเสด็จอย่างแน่นอน ซึ่งการขุดพบในครั้งนั้นได้พบที่ใต้ฐานของพระประธานและใต้ฐานชุกชีภายในอุโบสถ ณ อุโบสถเก่า ของวัดดาวเสด็จจังหวัดสระบุรีแห่งนี้ เป็นการขุดพบในเวลานั้นก็ได้พบกับพระมากมายหลากหลายพิมพ์ซึ่งแต่ละพิมพ์ล้วนแล้วแต่มีมีอายุอานามที่ค่อนข้างนานมากกว่า 100 ปี ซึ่งได้มีการสันนิษฐานว่าผู้คนในสมัยก่อนนั้นค่อนข้างนิยมบรรจุหรือเก็บพระไว้ในองค์พระเจดีย์และชอบๆพระพิมพ์ และมีความเชื่อว่าเพื่อเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนามาไปพร้อมๆกับได้ร่วมสร้างบุญกุศลไปยังชาติภพหน้า และได้สร้างตามจำนวนของพระธรรมขันธ์ ซึ่งมีจำนวนประมาณ 84,000 องค์นั่นเอง
เมื่อได้ขุดพบพระนางพญาแล้วปรากฏว่ามีความคล้ายคลึงอย่างมาก กับพระนางพญา แห่งจังหวัดพิษณุโลก (หรืออย่างที่เทราบกันดีว่าคือ พระนางพญาที่เป็นยอดนิยม หนึ่งในชุดเบญจภาคี) เนื่องจากมีเนื้อที่ค่อนข้างอยากและเป็นพระเนื้อดินที่มีความเก่าแก่และบ่งบอกได้ถึงยุคสมัยในการสร้าง มีพุทธศิลปะที่งดงามและประณีต ซึ่งโดดเด่นแบบสกุลของช่างในสมัยอยุธยา แม้จะมีลักษณะคล้ายกับพระดินเผาทั่วไปแต่ก็ยังคงมีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่อยากจะมีใครเหมือน มีลักษณะเป็นองค์สามเหลี่ยมเนื้อหนา
พุทธลักษณะของ “พระนางพญากรุ วัดดาวเสด็จ จังหวัดสระบุรี”
สำหรับพุทธลักษณะเด่นก็คือจะเป็นองค์ลักษณะสามเหลี่ยมที่มีความหนานูน กว่าพระนางพญาจากกรุวัดอื่นๆของจังหวัดอื่นๆ มีลักษณะเป็นเนื้อดินที่มีความเก่าแก่ที่ปรากฏให้เห็นพร้อมกับพุทธศิลปะโบราณที่เหมือนกับสกุลช่างในช่วงยุคสมัยอยุธยา จึงได้มีการสันนิษฐานว่าอาจมีการสร้างมาตั้งแต่ในช่วงที่อยุธยากำลังรุ่งเรือง โดยลักษณะทั่วไปแล้วก็มีเนื้อที่คล้ายกับเนื้อดินเผา มีการตัดปีกทั้งตัดกว้างและมีการตัดชิด
กล่าวถึงทางบริเวณด้านหน้าของพระเครื่ององค์นี้ในส่วนขององค์พระประธานนั้นมีลักษณะแสดงปางมารวิชัย เป็นองค์ประทับนั่ง ซึ่งในส่วนนี้มีความคล้ายคลึงมากกับพระนางพญาของจังหวัดพิษณุโลก และในส่วนของพิมพ์ด้านหลังนั้นจะมีลักษณะให้เห็นเด่นชัดคือทั้งพิมพ์อูมและเป็นพิมพ์แบบเรียบ แต่สำหรับด้านหลังพิมพ์อูมนั้น ได้มีการบรรจุตะกรุดสาริกาเอาไว้ 1 ดอกภายใน ถัดลงมาในส่วนของเส้นไรพระศกจะไม่ค่อยติดให้เห็นเด่นชัด ซึ่งจุดนี้ถือได้ว่าเป็นจุดสังเกตที่เราควรจำให้ได้ และในเรื่องของความหนาบางขององค์พระนั้น ค่อนข้างมีความใกล้เคียงกันแทบทุกองค์แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเท่ากันเป๊ะทุกองค์เช่นกัน
ซึ่งนอกจากวัดกรุดาวเสด็จแล้วในจังหวัดสระบุรียังได้มีการขุดพบพระนางพญา จากกรุอื่นๆอีกด้วย ซึ่งในครานั้นจะพบเห็นได้ทั้ง พระนางพญาจากกรุวัดเพชร์ พระนางพญาจากวัดสมุหะ และพระนางพญาจาก กรุวัดซุ้ง และยังมีวัดอื่นๆอีกด้วย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นพระนางพญาที่หายากมากในปัจจุบันและมีราคาสูงสุดๆกันไปเลย อย่างที่เราไว้ตั้งแต่ข้างต้นว่าไม่ใช่แค่ราคาสูงเท่านั้น แต่ยังเป็นพระที่หาชมได้ยากอีกด้วย
พุทธคุณ
มีความโดดเด่นในเรื่องเมตตามหานิยมอำนาจวาสนา เชื่อกันว่าหากใครมีไว้ในครอบครองบูชาก็จะโชคดีมีมีลาภ แต่อย่างไรก็ตามทั้งนี้สำหรับการดูพระนางพญาแล้ว โปรดทราบไว้ว่าพระนางพญาในแต่ละกลุ่มนั้นมีเอกลักษณ์ และรายละเอียดรวมทั้งศิลปะที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ขุดพบ ขึ้นอยู่กับยุคสมัยในการสร้างและเหตุปัจจัยอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่นเอกลักษณ์ของปิดทองล่องชาด และการตัดปีก หรืออื่นๆอีกมากมายดังนั้นหากคุณชื่นชอบพระนางพญาคุณจำเป็นจะต้องศึกษาเพิ่มเติมจากผู้รู้ และผู้ที่มีความเสี่ยงเซียนทางด้านนี้ โดยปกติแล้วพิมพ์หลังอูมจะและมีสีแดงนั้นจะค่อนข้างราคาสูงเด่นกว่าที่อื่นๆ แต่ในเรื่องของราคาจะส่งมาขนาดไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของพระเครื่องด้วยเช่นกัน
ได้นำมาฝากกันอย่างจุใจไปแล้วสำหรับเรื่องราวของ ที่มาสุดขลัง “พระนางพญา กรุวัดดาวเสด็จ จังหวัดสระบุรี” พระเครื่องล้ำค่าที่ใครๆก็ตามหา ! ที่เพิ่งจบลงไปเมื่อสักครู่นี้ อย่างไรก็ตามเราสามารถกลับมาพบกันใหม่ได้ในบทความครั้งต่อไป และเราจะนำเรื่องของพระเครื่ององค์ไหนมาฝากท่านกันอีกนั้นต้องอย่าลืมติดตามกันนะคะ สำหรับการนี้ต้องขออนุญาตลากันไปก่อนขอให้คุณโชคดี พระคุ้มครองนะคะ
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> สล็อตโรม่า