ย่างเข้าปีที่ 40 แล้วสำหรับการจากไปของ พระพุทธวิถีนายก หรือที่เรามักจะรู้จักท่านในนามหลวงปู่เพิ่มแห่งวัดกลางบางแก้ว และเราเชื่อว่ายังคงมีลูกศิษย์ลูกหาที่เคารพศรัทธาและระลึกถึงท่านอยู่เสมอจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ครั้งนี้พวกเราทีมงานจะพาคุณมาทราบถึง ประวัติความเป็นมาของ พระพุทธวิถีนายก (หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว) ! เพื่อเอาใจแฟนๆชาวส่องพระที่นิยมสะสมบูชาวัตถุมงคลของหลวงปู่เพิ่มแห่งวัดกลางบางแก้วได้ทราบถึงประวัติความเป็นมาแบบคร่าวๆ ของท่านที่เราจะมาพูดถึงและบอกเล่าให้ท่านได้ทราบกันในวันนี้ ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปพบกับรายละเอียดที่น่าสนใจกันได้เลยดังต่อไปนี้
ประวัติของ พระพุทธวิถีนายก (หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว) !
สำหรับพระพุทธวิถีนายกหรือที่เรามักจะเรียกท่านกันว่าหลวงปู่เพิ่มแห่งวัดกลางบางแก้ว นั้นเดิมทีท่านเกิดในช่วงปีพ.ศ 24 29 ท่านเกิดในวันที่ 28 เดือนมกราคม เป็นช่วงต้นปี ตรงกับยุคสมัยของแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวหรือรัชกาลที่ 5 กำเนิดที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ท่านเป็นบุตรชายของคุณพ่อเกิดและคุณแม่วรรณนามสกุล พงษ์อำพร เมื่ออายุได้ประมาณ 8 ขวบ หลวงปู่เพิ่มก็ได้บวชเป็นสามเณร ซึ่งมีโอกาสศึกษาเล่าเรียนไปด้วย จากนั้นเมื่อเติบโตในช่วงปีพ.ศ 2450 การตัดสินใจเข้าพิธีอุปสมบทบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ ณ วัดกลางบางแก้ว
การบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ของท่านนั้นพระผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ก็คือ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสสเทโว) ซึ่งในขณะนั้นท่านยังคงดำรงสมณศักดิ์ในตำแหน่งสมเด็จพระวันรัต แห่ง วัดสุทัศนเทพวราราม และพระผู้เป็นพระกรรมวาจาจารย์ให้กับหลวงปู่เพิ่มในการบวชก็คือพระอธิการจอมซึ่งในขณะนั้นท่านเป็นเจ้าอาวาสแห่งวัดตุ๊กตา และสำหรับพระผู้เป็นพระอนุสาวนาจารย์ให้กับหลวงปู่เพิ่มก็คือ พระครูทักษิณา นุกิจ (ผัน) แห่ง วัดสรรเพชญ์ ซึ่งอยู่ในจังหวัดนครปฐม
เมื่อได้เป็นพระภิกษุสงฆ์แล้วท่านก็ได้มีโอกาสศึกษาทางด้านพระธรรมวินัยอีกทั้งยังเลื่อมใสศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาจนทำให้มีความเคร่งครัดต่อการปฏิบัติ และจำพรรษาอยู่ที่วัดกลางบางแก้วตลอดมา นอกจากนี้ท่านยังเป็นศิษย์ที่มีความใกล้ชิดกับหลวงปู่บุญมากที่สุดเรียกได้ว่าเป็นศิษย์เอกของหลวงปู่บุญเลยก็ว่าได้ และท่านก็จำพรรษาอยู่ที่วัดกลางบางแก้วแห่งนี้ตลอดเป็นระยะเวลา 39 ปี
ในระหว่างที่อยู่วัดแห่งนี้ท่านก็ได้มีโอกาสศึกษาทางด้านพระธรรมคำสอนและได้รับวิชาความรู้จากหลวงปู่บุญเอาไว้อย่างมากมายไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิปัสสนาธุระหรือด้านคันทุรักษ์รวมไปถึงวิชาเวชวิทยาต่างๆ ซึ่งท่านมีความตั้งอกตั้งใจในการเรียนเป็นอย่างดีรวมถึงมันฝึกปฏิบัติอยู่เสมอ หลวงปู่เพิ่มท่านเป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีความผุดผ่องบริสุทธิ์ด้วยศีล อีกทั้งยังมีปัญญาทำและสมาธิอันเปี่ยมล้นรวมกับอุปนิสัยแห่งความเมตตาที่ท่านมีเป็นเดิมอยู่แล้ว หมดสิ้นในเรื่องของกิเลสตัณหาทั้งปวง อีกทั้งยังเป็นผู้พูดจาไพเราะอ่อนหวาน หากใครเคยได้ยินก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสำเนียงการพูดของท่านมีความเมตตากรุณาต่อผู้ฟังอย่างยิ่ง จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ใครหลายคนเคารพศรัทธาหลวงปู่เพิ่มอย่างมากเป็นพระสงฆ์ผู้ใจดี มีความเมตตากรุณาต่อสิ่งมีชีวิตไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ก็ตาม แม้แต่ผู้ที่เพิ่งเคยได้พบเห็นท่านก็มักจะเลื่อมใสตั้งแต่ครั้งแรก อีกทั้งท่านยังอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ลูกหาและญาติโยมอยู่ สม่ำเสมอ และทำความดีช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากอย่างมิขาด
และตลอดช่วงเวลาของการดำรงสมณะเพศนั้น หลวงปู่เพิ่มท่านยังคงเคร่งครัดการปฏิบัติและวางตนอย่างเหมาะสมด้วยศิลาจารวัตรที่หน้าเลื่อมใส จนเป็นที่เคารพศรัทธาแก่ผู้คนไม่ว่าจะเป็นลูกศิษย์ลูกหาหรือญาติโยมชาวบ้านในละแวกนั้น รวมถึงชาวจังหวัดนครปฐมทั่วทุกอำเภอ ก็มีความศรัทธาต่อหลวงปู่เพิ่ม อีกครั้งท่านยังมีความเสียสละและอุทิศตนแก่สังคมและพระพุทธศาสนา รวมถึงทำนุบำรุงพระศาสนาและสนับสนุนการศึกษาให้เจริญงอกงาม ท่านได้ทำความดีอย่างเสมอมา แล้วถึงแม้ว่าท่านจะจากไปเป็นระยะเวลานับ 40 ปีแล้วเราเชื่อว่ายังคงมีลูกศิษย์ลูกหาและผู้ที่เคารพศรัทธาหลวงปู่เพิ่มยังคงระลึกถึงอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย ท่านมรณภาพลงในปีพ.ศ 2526 ตรงกับวันที่ 6 เดือนมกราคมซึ่งรวมสิริอายุได้ 96 ปีและครองพรรษาได้ยาวนานถึง 75 พรรษา ซึ่งเรียกได้ว่าแทบจะตลอดชีวิตของหลวงปู่เพิ่มนั้น ท่านอุทิศตนให้กับพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงเลยก็ว่าได้
ลำดับสมณศักดิ์ของหลวงปู่เพิ่มแห่งวัดกลางบางแก้ว
ในช่วงปีพ.ศ 2481 ซึ่งตรงกับวันที่ 5 เดือนกุมภาพันธ์ท่านได้รับแต่งตั้ง ให้เป็นเจ้าอาวาสแห่งวัดกลางบางแก้ว ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอนครชัยศรีของจังหวัดนครปฐม ถัดมาในช่วงปีพ.ศ 2482 หลวงปู่เพิ่มท่านได้รับตราตั้ง ให้เป็นให้เป็นพระอุปัชฌาย์ ในเขตของอำเภอนครชัยศรีในจังหวัดนครปฐมเช่นกัน และต่อมาท่านก็ได้ถูกเลื่อนให้รับตำแหน่งเป็นเจ้าคณะแห่งอำเภอนครชัยศรี ในช่วงปีพ.ศ 2483 ซึ่งตรงกับวันที่ 8 เดือนเมษายน
ในช่วงปีพ.ศ 2489 วันที่ 1 มีนาคมนั้นท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่พระครู ซึ่งได้รับพระราชทินนามว่า พระครูพุทธวิถีนายก ถัดมาในช่วงปีพ.ศ 2495 ซึ่งตรงกับวันที่ 5 เดือนธันวาคมนั้นท่านได้รับเลื่อนสมณศักดิ์ ให้เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนารามเดิม(พระครูพุทธวิถีนายก) และจากนั้นในช่วงปีพ.ศ 2503 ซึ่งตรงกับวันที่ 5 เดือนธันวาคมเช่นกันท่านได้รับพระราชทานให้เลื่อนสมณศักดิ์ มาเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญไหนราชทินนารามว่า พระพุทธวิถีนายก
วัตถุมงคลของหลวงปู่เพิ่มแห่งวัดกลางบางแก้ว
นอกจากนี้หลวงปู่เพิ่มท่านยังสร้างวัตถุมงคลเอาไว้อย่างมากมายในขณะที่ท่านยังคงมีชีวิตอยู่ ซึ่งวัตถุมงคลของท่านนั้นล้วนแล้วแต่เป็นที่นิยมด้วยกันอย่างมากมายมีหลายชิ้นที่ผู้คนมักจะตามหาอยู่เสมอแต่สำหรับชิ้นที่ได้รับความนิยมสูงมากก็คือพระเครื่อง เหรียญ รวมถึงผงยาวาสนาจินดามณีและตะกรุด จากนี้วัตถุมงคลที่ค่อนข้างได้รับความนิยมสูงอีก 1 ชิ้นของท่านก็คือเบี้ยแก้
การจัดสร้างวัตถุมงคลสำหรับเบี้ยแก้นั้นหลวงปู่ท่านจะสร้างตามตำราของหลวงปู่บุญซึ่งจะต้องเคร่งครัดตามตำราและมีทุกอย่างครบถ้วน ซึ่งผู้ที่ต้องการสร้างเบี้ยแก้จำเป็นจะต้องไปหาหอยเบี้ยตลอดแผ่นตะกั่วให้ตรงตามสูตรดั่งตำราเขียนเอาไว้ ซึ่งในยุคสมัยนั้นก็สามารถหาซื้อได้ในตลาดนครชัยศรี เนื่องจากเมืองใต้เป็นเมืองทะเลอีกทั้งยังสามารถพบหอยเหล่านี้ได้ เบี้ยแก้นั้นคือเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่ง โดยส่วนใหญ่แล้วตามตำราของหลวงปู่บุญนั้นจะต้องทำด้วยเบี้ยจั่น ซึ่งเป็นหอยทะเล ทั้งยังมีการบรรจุปรอทอยู่ภายใน จากนั้นจะนำเบี้ยเหล่านี้มาปลุกเสกด้วยอาคม
ซึ่งการจัดสร้างเบี้ยแก้นั้นมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีความเชื่อที่ถูกเล่าต่อๆกันมาว่าเอาไว้ใช้เพื่อป้องกันคุณไสย ป้องกันคนทำของใส่และใช้ป้องกันภูตผีปีศาจต่างๆ รวมทั้งป้องกันยาสั่งและป้องกันพิษไข้ป่า และนอกจากนี้ยังสามารถแก้พิษจากแมลงสัตว์ที่มากัดมาต่อยได้อีกด้วย จากเรื่องร้ายจะกลับกลายเป็นดีหากมีเบี้ยแก้ เนื่องจากมีพุทธคุณในด้านปกปักรักษาคุ้มครองผู้ที่มีไว้ในครอบครองบูชา หรือเข้าใจง่ายๆว่าจะช่วยแก้เรื่องที่ไม่ดีให้กับกลายเป็นเรื่องที่ดีได้ ซึ่งสิ่งนี้เป็นความเชื่อที่มีมาตั้งแต่ในสมัยโบราณกับเรื่องของเบี้ยแก้
อย่างไรก็ตามพวกเราทีมงานหวังอย่างยิ่งว่าเรื่องราว ประวัติความเป็นมาของ พระพุทธวิถีนายก (หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว) ! นี้ จะทำให้ท่านผู้อ่านชื่นชอบและถูกใจกันนะคะ แล้วกลับมาพบกับพวกเราได้ใหม่ในบทความครั้งต่อไป ในครั้งนี้ต้องขออนุญาตลากันไปก่อนหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ล่วงหน้า ณ ที่นี้อย่างสูง ขอให้คุณโชคดีร่ำรวยเงินทองและสุขภาพแข็งแรงนะคะ