หลวงพ่อเส็ง พุทธปาลิโตหรือพระครูวิมลศีลาจารย์นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ที่ค่อนข้างเป็นที่เคารพบูชาของชาวจังหวัดปราจีนบุรีอย่างมากและในครั้งนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับ ประวัติ พระครูวิมลศีลาจารย์” (หลวงพ่อเส็ง พุทธปาลิโต) แห่ง วัดประจันตคาม ผู้เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวปราจีนบุรี ! ซึ่งจะมาบอกเล่าถึงประวัติความเป็นมาของท่านให้คุณได้ทราบกันแบบคราวพร้อมกับวัตถุมงคลของท่านที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามาพบกับสาระที่น่าสนใจไปพร้อมๆกันได้เลยดังต่อไปนี้ค่ะ
ประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อสิงห์ พุทธปาลิโต
สำหรับหลวงพ่อเส็งนั้นท่านเกิดในช่วงปีพ.ศ. 2440 ในวันที่ 19 เดือนมกราคมซึ่งเป็นวันพุธแรม 13 ค่ำ ปีระกาเดือนสอง ท่านเกิดอยู่ที่จังหวัดปราจีนบุรี ณ บ้านเมืองใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอประจันตคาม ท่านเป็นลูกชายของคุณปราบพลการ(เคน) กับคุณแม่ทองศรี ระวังป่า
ท่านอุปสมบทในช่วงปีพ.ศ. 2460 ซึ่งตรงกับวันที่ 24 เดือนพฤษภาคมท่านบวชอยู่ที่วัดทัพช้างซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งพระผู้เป็นพระอุปประชาให้กับท่านก็คือพระครูพิพัฒน์ปัจจันตเขต (หลวงปู่สิงห์) และเป็นพระอาจารย์คนแรกของท่านนอกจากนี้ท่านยังได้รับฉายาทางธรรมว่า “พุทฺธปาลิโต”
นอกจากท่านจะเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่สิงห์แล้วท่านยังเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อปุ๊กแห่งวัดพระยาทำ ซึ่งอยู่ในอำเภอกบินทร์บุรีอีกด้วย หลังจากที่ท่านได้บวชเป็นพระภิกษุแล้ว ท่านก็ได้ศึกษาพระธรรมมาวินัยไปด้วยถัดมาในช่วงปีพ.ศ. 2475 หลวงพ่อท่านก็สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย แต่ท่านสามารถผ่านลุล่วงไปได้ด้วยดีและทำสำเร็จ หลังจากนั้นท่านก็ได้เดินทางไปยังวัดท่าเรือและย้ายไปเป็นครูสอนทางด้านพระปริยัติธรรม
และต่อมาท่านก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสและเป็นพระปลัดวิมลในช่วงปีพ.ศ. 2480 ถัดมาในช่วงปีพ.ศ. 2482 ท่านก็ได้รับแต่งตั้งให้มีตำแหน่งเป็นพระอุปัชฌาย์ ตามด้วยตำแหน่งเจ้าคณะตำบลประจันตคาม ที่พระครูวิมลศีลาจารย์ ถัดมาตามลำดับท่านก็ได้เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีพร้อมกับเป็นเจ้าอาวาสแห่งวัดศรีประจันตคามหรือที่ใครหลายในคนมักจะรู้จักกันในชื่อวัดประจันตคาม
โดยปกติแล้วหลวงพ่อเส็งนั้นท่านคือพระนักปฏิบัติอีกทั้งยังมีความเคร่งครัดต่อการปฎิบัติอย่างมาก เพียบพร้อมไปด้วยศีลาจาราวัตรอันงดงาม และเปี่ยมไปด้วยความเมตตาทำสูงนอกจากนี้ท่านยังเป็นที่เคารพเลื่อมใสของเหล่าบรรดาพุทธศาสนิกชนในยุคนั้นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือชาวจังหวัดปราจีนบุรี หลวงพ่อท่านเป็นผู้ส่งวิทยาคมและมีพุทธาคมอันแก่กล้าจนเป็นที่เลื่องลืออย่างมาก
คำร่ำลือถึง “วิชาเรียกทรัพย์”
และหนึ่งในวิชาที่ผู้คนมักจะยกย่องว่าท่านมีความชำนาญและโดดเด่นก็คือในเรื่องของ “วิชาเรียกทรัพย์” และเมื่อใดก็ตามที่วัดศรีประจันตคามนั้นจำเป็นที่จะต้องหาทุนทรัพย์ เพื่อนนำมาบูรณะหรือก่อสร้างสิ่งต่างๆในวัด หลวงพ่อเส็งท่านก็ไม่เคยที่จะไปบอกบุญหรือไปขอเรี่ยไรปัจจัยจากชาวบ้านทั้งสิ้น
แต่สิ่งที่ท่านมักจะทำก็คือท่านจะบอกให้ลูกศิษย์ของท่านนำธงไปปักไว้ที่ใต้ต้นพิกุลใกล้ใกล้กับพระอุโบสถ ธงที่นำไปปักนั้นคือธงพระสิวลี หลังจากนั้นท่านก็จะทำการจุดธูปนมัสการพระประธาน ตามด้วยบริกรรมพระคาถาอยู่ที่ใต้ต้นพิกุลที่ท่านให้ลูกศิษย์นำธงไปปักไว้ตรงนั้น และหากธูปไหม้จนหมดดอกก็จะจุดธูปดอกใหม่ขึ้นอีก
และสิ่งที่น่าแปลกใจก็คือหากควันธูปนั้น ลอยไปทิศทางใด ก็จะมีผู้คนมาถวายปัจจัยและสิ่งของต่างๆกันอย่างมากมายตามทิศนั้น ทั้งยังมีผู้มาทำบุญกันอย่างเนืองแน่นและปัจจัยที่ได้มาก็มักจะมีจำนวนตามความประสงค์ที่ต้องการนำมาสร้างหรือบูรณะในทุกครั้ง เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่น่าแปลกไม่น้อย
ต้นพิกุลที่หลวงพ่อให้ลูกศิษย์นำธงมาปักนั้น มีอายุที่ค่อนข้างยาวนานมาก ผู้คนในละแวกนั้นเชื่อกันว่าเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่มีหนังไม้และเทวดาสถิตอยู่ และนอกจากหลวงพ่อทันใจบริกรรมพระคาถาเรียกคนมาทำบุญโดยวิธีปักธงแล้ววัตถุมงคลที่ท่านได้สร้างขึ้นทุกรุ่นนั้นส่วนใหญ่ก็มักจะใช้โค้ดที่เป็นรูปดอกพิกุลสร้างเป็นสัญลักษณ์และตอบเอาไว้ในวัตถุมงคลทุกชิ้นด้วยเช่นกัน และสิ่งนี้สามารถเป็นจุดสังเกตได้หากใครที่เล่นหาพระเครื่องหรือวัตถุมงคลของหลวงพ่อเส็ง สำหรับสัญลักษณ์นี้ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคล และเป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก
หลวงพ่อท่านค่อนข้างมีชื่อเสียงไม่น้อยและมีความโด่งดังไม่แพ้พระเกจิอาจารย์รูปอื่นๆในยุคนั้น แต่ท่านเป็นคนพูดน้อยทอมตัวและไม่โอ้อวดนอกจากนี้ยังเป็นที่เคารพศรัทธาอย่างมากของชาวปราจีนบุรีและผู้คนในจังหวัดใกล้เคียงอีกด้วย กิตติคุณของท่านค่อนข้างโด่งดังโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือในช่วงยุคสมัยสงครามอินโดจีนเพราะผู้คนมักจะแวะเวียนเข้ามาขอวัตถุมงคลจากท่านไม่น้อยเลยทีเดียว และหากใครได้มีไว้ในครอบครองบูชาก็มักจะแคล้วคลาดปลอดภัยกลับมาทุกราย
ถัดมาในช่วงปีพ.ศ. 2507 หลวงพ่อเส็งท่านก็ได้มรณภาพ ลงในวันเสาร์ที่ 17 เดือนสิงหาคม รวมสิริอายุได้ 67 ปีในพรรษาที่ 47
วัตถุมงคลของหลวงพ่อเส็ง แห่งวัดศรีประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี
มีวัตถุมงคลที่ค่อนข้างหลายรุ่นหลายชิ้น สำหรับวัตถุมงคลของหลวงพ่อเส็งอันเป็นที่ได้รับความนิยมสูง ไม่ว่าจะเป็นธงพระขิมพระสังกัจจายน์ , พระกริ่ง ผ้ายันต์ต่างๆ รวมถึงเหรียญ และอื่นๆอีกมากมาย อีกทั้งยังได้มีการร่ำลือกันว่ามีพุทธคุณที่ค่อนข้างสูงและปรากฏให้เห็นอย่างมากมาย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้วัตถุมงคลของท่านค่อนข้างถูกถามถึงอย่างมากโดยเฉพาะในวงการของผู้นิยมสะสมพระเครื่อง
สำหรับวัตถุมงคลที่ผู้คนมักจะถามหา เห็นทีน่าจะเป็นเหรียญหลวงพ่อสิงห์รุ่นแรกที่ได้ถูกสร้างขึ้นในช่วงทำบุญวันเกิดของท่านซึ่งตรงกับช่วงปีพ.ศ. 2485 มักจะนิยมเรียกกันว่าเหรียญรุ่นแซยิด
เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อเส็ง แห่ง วัดประจันตคาม
จังหวัดปราจีนบุรี
สำหรับเหรียญนี้จะมีลักษณะเป็นเหรียญปั๊มส่งใบเสมาที่มีการสร้างขึ้นด้วยเนื้อทองแดง ได้ถูกสร้างขึ้นมาไว้ในช่วงปีพ.ศ. 2485 ซึ่งในขณะที่สั้นนั้นหลวงพ่อท่านมีอายุได้ประมาณ 45ปี สร้างขึ้นเพื่อนำมามอบให้กับเหล่าบรรดาลูกศิษย์ลูกหาเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสทำบุญวันเกิดของหลวงพ่อ ซึ่งโดยปกติแล้วเหรียญที่สร้างให้กับพระเกจิอาจารย์ส่วนใหญ่มักจะสร้างให้กับพระเกจิที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
นั่นหมายความว่าหลวงพ่อท่านเป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านอย่างมาก ชาวบ้านจึงมาขออนุญาตสร้างเหรียญขึ้นเพื่อเอาไว้ปกปักษ์รักษาคุ้มครองป้องกันอันตราย และหลวงพ่อท่านมีความศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่ประจักษ์แก่ชาวบ้านมาตั้งแต่สมัยที่ท่านยังมีอายุไม่มาก
นอกจากนี้ยังมีการสร้างด้วยเนื้อเงินในจำนวนน้อยจึงเรียกได้ว่าเป็นเหรียญที่ค่อนข้างหายากสำหรับพุทธะลักษณะของเหรียญนี้จะปรากฏรูปเหมือนของหลวงพ่ออยู่ที่บริเวณกลางเหรียญและมี LINE กนกอยู่บริเวณรอบเหรียญเป็นเหรียญเสมาที่มีหูเชื่อมในตัวและในส่วนของอักษรภาษาไทยที่ระบุเอาไว้ด้วยคำว่า “ พระปลัดวิมล” และบรรทัดต่อมาคือคำว่า “ ๒๔๘๕” ซึ่งหมายถึงปี พ.ศ ของการสร้าง จะปรากฏอย่างเด่นชัดตรงส่วนด้านล่างของรูปเหมือนของหลวงพ่อ
สำหรับวันนี้ต้องขอฝากเรื่องราว ประวัติ พระครูวิมลศีลาจารย์” (หลวงพ่อเส็ง พุทธปาลิโต) แห่ง วัดประจันตคาม ผู้เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวปราจีนบุรี ! กันไว้แต่เพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไปนะคะ สวัสดีค่ะ