มาทางจังหวัดชัยนาทกันบ้างซึ่งในครั้งนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับ ประวัติความเป็นมาของ พระครูสถิตสมณวัตร (หลวงพ่ออ่ำ พุทธสโร) วัดอินทราราม เมือง ชัยนาท !ซึ่งท่านเป็นพระยุคเก่าผู้ส่งวิทยาคมอย่างมาก เป็นผู้มีอำนาจบารมีและมีสมาบัติเป็นที่เคารพเลื่อมใสของชาวจังหวัดชัยนาททั้งในยุคก่อนและในยุคปัจจุบันไม่น้อย ซึ่งในครั้งนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับประวัติความเป็นมาของท่านไปพร้อมพร้อมกับได้นำวัตถุมงคลที่ผู้คนถามถึงอย่างมากของท่านมาให้คุณได้ทราบกัน ณ ที่นี้ ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปพบกับเรื่องราวที่น่าสนใจ พร้อมๆกันได้เลยดังต่อไปนี้
ประวัติความเป็นมาของ พระครูสถิตสมณวัตร (หลวงพ่ออ่ำ พุทธสโร)
วัดอินทราราม จ.ชัยนาท
สำหรับประวัติความเป็นมาของพระครูสถิตสมณวัตร หรือที่เรารู้จักกันในนามหลวงพ่ออ่ำ พุทธสโร เรียกได้ว่าท่านเป็นพระยุคเก่าเนื่องจากท่านเกิดในช่วงปีพ.ศ. 2397 เดิมทีนั้นท่านเป็นชาวตำบลตลุกท่านเกิดอยู่ที่บ้านหนอง ท่านเป็นลูกชายของพ่อน้อย เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นแทนก็ได้ฝึกฝนวิชาหมัดมวยรวมถึงทางด้านคาถาอาคมนอกจากนี้ท่านยังมีลูกน้องอยู่หลายคนด้วยเช่นกัน
อุปสมบท
ท่านบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์เมื่ออายุได้ครบบวช โดยคุณแม่ของท่านได้นำท่านไปฝากไว้กับหลวงพ่อเกิด แห่งวัดตลุก ท่านบวชในช่วงปีพ.ศ. 2417 ซึ่งท่านมีความตั้งใจว่าต้องการจะบวชทดแทนบุญคุณบิดามารดาเพียงแค่ประมาณ 15 หรือ 20 วันเท่านั้นแต่หลังจาก 20 วันแล้วท่านกลับไม่ยอมสึก ด้วยความซาบซึ้งกับทางด้านพระธรรมท่านจึงบวชต่อและมุ่งเรียนทางด้านวิชาแพทย์แผนโบราณต่อจากนั้นท่านก็ได้เดินทางมายังจังหวัดนครราชสีมาหรือเมืองโคราช
เหตุผลที่มาในจังหวัดแห่งนี้เนื่องจากท่านทราบว่ามีอาจารย์ดีอยู่หลายท่านที่มีความชำนาญเกี่ยวกับการรักษาโรคจากรากไม้และสมุนไพรไทย ดังนั้นท่านก็ได้เดินทางไปหาครูหมอยาซึ่งเป็นคฤหัสถ์ เมื่อไปถึงบ้านครูลูกสาวของครูก็ได้นำภัตตาหารมาถวาย เมนูนั้นก็คือเนื้อทอดหนึ่งจาน ซึ่งเจ้าของบ้านได้ใช้เวทมนต์เพื่อทำให้เมนูนั้นเป็นเนื้อทอดจึงทำให้หลวงพ่อท่านไม่ยอมฉัน จากนั้นหลวงพ่อท่านก็ได้ขายเวทมนต์ออกปรากฏว่าเนื้อทอดที่นำมาถวายเป็นภัตตาหารนั้นกลับกลายเป็นเศษไม้ จึงทำให้เจ้าของบ้านนั้นชื่นชมว่าท่านสามารถแก้บนต่างๆได้และด้วยเหตุนี้จึงยอมถ่ายทอดวิชาต่างๆให้
แต่มีข้อแม้ว่าหลวงพ่อต้องสึกออกมาเป็นฆราวาสเสียก่อน จึงให้หลวงพ่อจำเป็นต้องสึกออกมาเป็นระยะเวลาประมาณหกเดือนเพื่อศึกษาวิชาทางแพทย์พร้อมกับวิทยาคมต่างๆกับครูหมอ ก่อนที่จะกลับไปบวชใหม่และหลังจากนั้นหลวงพ่อท่านก็ได้ออกเดินธุดงค์ไปยังชายแดนไทยกัมพูชาโดยใช้เวลาประมาณหกถึงเจ็ดปีก่อนที่จะกลับไปยังวัดตลุก
ถัดมาอีกช่วงเวลาหลายปีหลวงพ่อเกิดท่านได้มรณภาพลงจึงทำให้ตำแหน่งเจ้าอาวาสว่างและหลวงพ่ออ่ำ ท่านก็ได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อ ซึ่งตรงกับช่วงปีพ.ศ. 2448 หลังจากที่หลวงพ่อท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดท่านก็ยังคงเคร่งครัดต่อการปฎิบัติ รวมถึงอนุเคราะห์ให้กับญาติโยมที่มาพึ่งพาอาศัย โดยการช่วยเหลือและรักษาโรคต่างๆให้ญาติโยมและชาวบ้าน บางคนเป็นไข้บางคนเจ็บป่วยออดออดแอดแอด รวมถึงบางคนโดนทำของคุณไสยใส่ ก็จะมาขอความช่วยเหลือจากหลวงพ่อ และหลวงพ่อก็รักษาให้จนหาย
และด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่อท่านโด่งดังไปไกลใครๆ ก็พูดถึง และมาหาให้หลวงพ่อทำการรักษาให้อยู่อย่างไม่ขาดสาย อีกทั้งลูกศิษย์ลูกหาและพุทธศาสนิกชนในจังหวัดชัยนาทนั้น ก็ได้เกิดความเลื่อมใสและต่างเคารพศรัทธาหลวงพ่ออ่ำกันเป็นอย่างมาก ทั้งยังมีความเชื่อว่าหลวงพ่อท่านเป็นผู้มีวาจาสิทธิ์ไม่ว่าพูดอะไรก็จะเป็นจริงเสมอ และด้วยอุปนิสัยของท่านที่เป็นคนเที่ยงตรงพูดคำไหนคำนั้นเป็นคนจริง ยิ่งทำให้ผู้คนต่างเกรงขามโดยเฉพาะลูกศิษย์ลูกหาของท่าน
นอกจากจะช่วยเหลือชาวบ้านที่ตกทุกข์ได้ยากอย่างมิเคยเกี่ยงใดๆแล้ว ท่านยังนำพาให้วัดเจริญรุ่งเรืองและเสนาสนะและถาวรวัตถุในวัดอีกมากมายด้วย
ถัดมาในช่วงปีพ.ศ. 2467 ซึ่งตรงกับวันที่เก้าเดือนพฤศจิกายนหลวงพ่ออ่ำ ท่านก็ได้รับพระราชทานให้เป็นพระครูสถิตสมณวัตร เป็นเจ้าคณะแขวงสรรพยา
การมรณภาพ
และจากนั้นถัดมาอีกหนึ่งปีซึ่งตรงกับช่วงปีพ.ศ. 2468 ท่านก็ได้เริ่มมีอาการอาพาธ และมรณะลงในวันที่ 15 เดือนตุลาคมในปีนั้น รวมสิริอายุได้ 71 ปี
และถึงแม้ว่าจะเป็นเวลานับ 100 ปีแล้วในการจากไปของท่านยังคงมีญาติโยมที่เคารพศรัทธาท่านอยู่เสมอมาโดยเฉพาะทางจังหวัดชัยนาท และมีการจัดงานประจำปีเพื่อเป็นการระลึกถึงท่านในทุกๆปีเช่นกัน ซึ่งท่านสามารถไปร่วมงานประจำปีนี้ได้ที่วัดอินทารามซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอสรรพยา ของจังหวัดชัยนาท ได้เช่นกัน
วัตถุมงคลของหลวงพ่ออ่ำ พุทธสโร
แห่งวัดอินทราราม จังหวัดชัยนาท
สำหรับวัตถุมงคลของหลวงพ่ออ่ำนั้นมีหลากหลาย ที่ได้รับความนิยม เนื่องจากมีคำร่ำหรือว่ามีพุทธคุณที่ค่อนข้างสูงจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้นักนิยมสะสมหลายหลายท่านยังคงเสาะแสวงหามาจนถึงในยุคปัจจุบัน และสิ่งที่ค่อนข้างได้รับนิยมอย่างมากหนึ่งชิ้นก็คือเหรียญ
เรียนที่เราหมายถึงนี้คือเหรียญหลวงพ่ออ่ำ พุทธสโร ซึ่งเป็นเหรียญที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อมีจุดประสงค์ในการนำมาแจกให้กับลูกศิษย์ของท่านเนื่องในงานฉลองสมณศักดิ์ที่ท่านได้รับพระราชทานให้เป็นพระครูสถิตสมณวัตร ในช่วงปีพ.ศ. 2467 ซึ่งเรียกได้ว่าเหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญที่ค่อนข้างมีความเก่าแก่อย่างมากเหรียญหนึ่งของจังหวัดชัยนาท และเป็นเหรียญหายาก ซึ่งหากใครมีไว้ในครอบครองบูชาก็มักจะต้องหวงแหน อีกทั้งยังมีประสบการณ์ที่ถูกเล่าถึงเรื่องราวของเหรียญหรืออย่างมากมาย
นอกจากนี้ยังมีเหรียญหล่อที่สร้างขึ้นด้วยเนื้อชินเงินอีกหนึ่งเรียนที่ค่อนข้างได้รับความนิยมสูง และเดือนถัดมาก็คือเหรียญทรงกลมที่มีหูเชื่อมที่ค่อนข้างมีผู้คนถามถึงอย่างมากเช่นกัน. แต่เรียนนี้เป็นเหรียญใหม่เนื่องจากถูกสร้างขึ้นหลังจากที่หลวงพ่อท่านมรณภาพไปแล้ว
พุทธลักษณะของ เหรียญหลวงพ่อ พุทธสโร รุ่นแรก 2467
เหรียญหลวงพ่อ พุทธสโร รุ่นแรก 2467
สำหรับเหรียญรุ่นนี้จะมีหูเชื่อมในตัวซึ่งจะปรากฏเห็นได้ว่า พุทธะลักษณะของทางด้านหน้าเหรียญนั้นมีการยกขอบเป็นสองชั้น ฉันแรกจากริมขอบเหรียญนั้นจะค่อนข้างเป็นการยกขอบเส้นใหญ่แบบแบน พัดเข้ามาจะมีการยกขอบแบบรอบซึ่งเป็นเส้นที่ค่อนข้างเล็ก และบริเวณตรงกลางของเหรียญจะปรากฏรูปเหมือนของหลวงพ่ออ่ำ อยู่ในท่านั่งสมาธิบนฐาน ที่มีความหนาและมีลวดลาย
และสำหรับพุทธะลักษณะทางด้านหลังนั้นจะปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัดว่ามีการยกของแบบแบน เป็นสองชั้นคล้ายกับด้านหน้า ซึ่งมีเส้นใหญ่ริมขอบและเส้นเล็กในชั้นถัดมา นอกจากนี้ยังมีอักขระที่ปรากฏอยู่ประมาณสามบรรทัดและในบรรทัดที่สี่ได้ปรากฏเป็นอักษรภาษาไทยซึ่งระบุเอาไว้ด้วยคำว่า “พระครูสถิตสมณวัตร” ตามด้วยบรรทัดสุดท้ายที่ระบุด้วยภาษาไทยคำว่า “อ่ำ” อันเป็นชื่อของหลวงพ่อนั่นเอง
สำหรับพุทธคุณของเหรียญนี้ผู้คนมักจะร่ำลือกันว่าค่อนข้างเป็นเลิศทางด้านแคล้วคลาด ปลอดภัย ป้องกันคุณไสยได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามในปัจจุบันเรียนนี้เรียกได้ว่าเป็นเหรียญหายากของเมืองชัยนาทไปเสียแล้ว หากใครมีไว้ในบูชาครอบครองต้องเก็บรักษาเอาไว้ให้ดีนะคะ และหากท่านใดที่ต้องการเล่นหาเหรียญนี้ต้องอย่าลืมตรวจสอบว่าเหรียญนั้นมาจากที่ใดเพราะเหรียญแท้ก็มีและเหรียญไม่แท้ก็มากเช่นกัน
ขอฝากเรื่องราว ประวัติความเป็นมาของ พระครูสถิตสมณวัตร (หลวงพ่ออ่ำ พุทธสโร) วัดอินทราราม เมือง ชัยนาท ! เอาไว้แต่เพียงเท่านี้ แล้วกลับมาพบกับพวกเราได้ใหม่ในบทความครั้งต่อไปนะคะ สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ