ประวัติที่มาของ “เหรียญอริยสัจ  หลวงปู่ใจ อินทสุวัณโณ” ของดีแห่งเมืองสมุทรสงคราม 

หากมีใครถามถึงพระเกจิอาจารย์ชื่อดังลุ่มแม่น้ำแม่กลองก็คงจะต้องมีชื่อของหลวงพ่อแก้ว หรือหลวงปู่ใจขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้พาท่านผู้อ่านไปรับชมเรื่องราวของพระเกจิชื่อดังจากหลายแห่งกันมาแล้ว ในครั้งนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับ ประวัติที่มาของ “เหรียญอริยสัจ  หลวงปู่ใจ อินทสุวัณโณ” ของดีแห่งเมืองสมุทรสงคราม   และเราเชื่อว่าท่านผู้อ่านที่เป็นนักนิยมสะสมพระเครื่องและมีใจรักเรื่องราวที่เกี่ยวกับพระจะต้องถูกใจอย่างแน่นอน เนื่องจากข้อมูลของประวัติความเป็นมาก็ไม่ได้หาชมกันได้ง่ายนัก จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเราชาวส่องพระได้รวบรวมเนื้อหาสาระมาบอกคุณกันไว้ที่นี่ ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปชมเรื่องราวที่น่าสนใจของวัตถุมงคลสุดครั้งของหลวงปู่ใจกันได้เลยดังต่อไปนี้

ประวัติของ “หลวงปู่ใจอินทสุวัณโณ” แห่งวัดดาวเสด็จ จังหวัดสมุทรสงคราม

ก่อนอื่นพวกเราต้องขออนุญาตท้าวความถึงประวัติความเป็นมาของหลวงปู่ใจให้ท่านผู้อ่านได้ทราบกัน ณ ตรงนี้เสียก่อน เพื่อที่จะเป็นการทราบถึงที่มาของขังของท่านนั่นเอง

สำหรับพระราชมงคลวุฒาจารย์หรือที่ใครใครมักจะรู้จักในนามหลวงปู่ใจ อินทสุวัณโณ เดิมทีนั้นหลวงปู่ใจท่านเป็นคนชาวจังหวัดสมุทรสงคราม ท่านเกิดในช่วงปีพ.ศ. 2405 วันที่ 23 พฤศจิกายนที่ตำบลบางกุ้งตั้งอยู่ในอำเภอบางคนทีของจังหวัดสมุทรสงคราม มีชื่อเดิมว่าใจ นามสกุลขำสนชัย ในช่วงที่ท่านอายุได้ 15 ปีทางครอบครัวของท่านได้พากันไปสร้างถิ่นฐานที่อำเภออัมพวาในตำบลเมืองใหม่ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรสงคราม เหตุที่ย้ายไปอยู่เนื่องจากได้กลับไปยังภูมิลำเนาเดิมของบิดาของหลวงปู่ใจนั่นเอง 

ถัดมาเมื่อหลวงปู่ใจอายุได้ 21 ปีเต็มซึ่งเป็นอายุที่สามารถบวชได้ท่านจึงได้เข้ารับการอุปสมบทอยู่ที่อำเภออัมพวานะตำบลแควอ้อม และบวชที่วัดบางเกาะเทพศักดิ์ ซึ่งพระอุปัชฌาย์ของท่านก็คือพระอุปัชฌาย์จุ้ย ซึ่งท่านได้รับฉายาว่า “อินฺทสุวณฺโณ”  หลวงปู่ใจนั้นท่านมีจิตใจเมตตาและมีจิตใจฝากไฟทางทำเมื่อได้เข้ารับการอุปสมบทเป็นที่เรียบร้อยแล้วท่านก็มีความตั้งใจศึกษาทางด้านพระธรรมวินัยจากพระอุปัชฌาย์จุ้ย อีกทั้งยังได้ศึกษาเกี่ยวกับทางด้านพุทธาคมและวิปัสสนากรรมฐานด้วยเช่นกัน 

ต่อมาได้มีโยมอาของหลวงปู่ใจซึ่งชื่อว่าโยมอ่อนกับโยมอิ่ม ได้ยกที่ดินจำนวนสามไร่สามงานกับเก้าสิบเอ็ดตารางวา ให้กับ พระสมุห์แพซึ่งเป็นเจ้าอธิการแห่งวัดใหญ่ใหญ่เงิน (หรือวัดราษฎร์บูรณะ) ซึ่งการยกที่ดินให้ในครั้งนี้ก็เพื่อให้สำหรับสร้างวัด ซึ่งพระสมุห์แพรนั้นานานุกรมของ พระครูวิมลเกียรติ (เกลี้ยง) แต่ต่อมาเมื่อพระสมุห์แพท่านมีอาการป่วยจนไม่สามารถดำเนินการต่างๆต่อไปได้ตามประสงค์ของโยมอิ่ม ที่ต้องการยกที่ดินให้ทำการสร้างวัดนั้น จึงได้มอบโฉนดที่ดินผืนนั้นให้กับหมื่นชำนาญและขุนศรีโยธามาตย์ภักดีได้ดำเนินการต่อจากนั้นพวกเขาทั้งสองก็ได้นำโฉนดที่ดินเหล่านั้นมามอบให้กับพระอุปัชฌาย์จุ้ยเพื่อดำเนินการสร้างวัดต่อไป

ต่อมาไม่นานพอได้มีผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมบริจาคทรัพย์เพื่อสร้างวัดจึงทำให้พระอุปประชาจุ้ยได้ทำการสร้างกุฎิโดยซื้อเรือนไม้มาไว้หนึ่งหลัง ซึ่งตรงกับช่วงปีพ.ศ. 2434 และเมื่อท่านเล็งเห็นแล้วว่าวัดใหม่ที่สร้างนั้นไม่มีผู้ปกครอง จึงได้มอบหมายให้หลวงปู่ใจดูแล ซึ่งในขณะนั้นหลวงปู่ใจท่านกำลังอุปสมบทได้ประมาณ 8 พรรษา ถัดมาไม่นานซึ่งเป็นปีเดียวกันในช่วงเดือนกรกฎาคมเจ้าคณะแขวงเมืองราชบุรี หรือพระครูวิมลเกียรติ ฉันก็ได้แต่งตั้งให้หลวงปู่ใจรับตำแหน่งเจ้าอาวาสแล้วตั้งชื่อให้กับวัดใหม่ที่ถูกสร้างนี้ว่า “วัดใหม่ยายอิ่ม” เหตุผลที่ตั้งชื่อนี้เนื่องจากยายอิ่มเป็นผู้ถวายที่ดินเพื่อทำการสร้างวัดจริงตั้งตามชื่อของผู้มีจิตศรัทธาบริจาคนั่นเอง และต่อมาในช่วงปี 2458 ก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นวัดใหม่ใต้ปากคลองดอน 

ถัดมาอีกหลายปีเมื่อครั้งที่สมเด็จพระมหาสมณะเจ้า (กรมพระยาวชิรญาณวโรรส) ได้เสด็จมาตรวจคณะสงฆ์ จึงได้ทรงให้พระนามใหม่แก่วัดขึ้นว่า “วัดเสด็จ” พร้อมทพร้อมกับได้พระราชทาน “เหรียญจตุราริยสัจ”  ให้เป็นที่ระลึก ซึ่งเหรียญที่ท่านได้พระราชทานให้นี้เนื่องในโอกาสที่ท่านได้ดำรงตำแหน่งเป็นกรมหลวงซึ่งได้รับการเลื่อนอิสริยยศจากกรมหมื่น ซึ่งเหรียญดังกล่าวนี้เองที่หลวงปู่ใจท่านใดนำมาใช้สำหรับเป็นต้นแบบในการสร้างเหรียญรุ่นแรกของท่าน ซึ่งการสร้างเหรียญรุ่นแรกนั้นอยู่ในช่วงปีพ.ศ. 2489 ไปจนถึงปีพ.ศ. 2490 และนี่คือต้นแบบของเหรียญที่เราจะพาคุณมารู้จักกันในวันนี้

ที่มาของเหรียญอริยสัจ  หลวงปู่ใจ อินทสุวัณโณ

เรียนนี้เรียกได้ว่าเป็นการสร้างเหรียญรุ่นแรกของหลวงปู่ใจอันได้ต้นแบบมาจาก “เหรียญจตุราริยสัจ” ที่สมเด็จพระมหาสมณะเจ้า (กรมพระยาวชิรญาณวโรรส) ได้ทรงประทานมอบให้ตั้งแต่ครั้งที่ท่านได้เสด็จมาตรวจคณะสงฆ์ ซึ่งเหรียญอริยสัจนั้นได้ถูกสร้างขึ้นในช่วงปีพ.ศ. 2489 ถึงปีพ.ศ. 2490 เมื่อทำการสร้างเสร็จแล้ว หลวงปู่ใจก็ได้นำมาแจกจ่ายสำหรับเป็นที่ระลึกให้กับผู้ที่มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคทำบุญ ในวันที่ทำการฝังลูกนิมิตรเพื่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ และได้ให้ชื่อว่าเหรียญงบน้ำอ้อย หรือ เหรียญอริยสัจ ที่เราต่างรู้จักกันมาจนถึงวันนี้

การสร้างเหรียญในครั้งนั้นได้สร้างขึ้นมาหลายเนื้อซึ่งได้แก่ เหรียญทองแดงรมดำที่สร้างไว้จำนวน 300 เหรียญและมีการสร้างด้วยเนื้อเงินที่ตั้งไว้จำนวน 80 เหรียญ โดยรวมแล้วมีจำนวนในการตั้งอยู่ที่ค่อนข้างน้อย จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมจึงกายเป็นเหรียญที่เหล่าบรรดานักสะสมจึงได้แสวงหา และอยากมีไว้ในบูชาครอบครองกันยิ่งนัก เพราะนอกจากจะเป็นของหายากแล้วยังมีพุทธคุณสูงอีกด้วย

พุทธลักษณะของเหรียญอริยสัจหลวงปู่ใจ

สำหรับเย็นนี้จะมีรูปทรงเป็นเหรียญทรงกลมมีหูเชื่อม ในส่วนของด้านหน้านั้นเราจะสังเกตได้อย่างชัดเจนว่ามีลักษณะเป็นรูปกลีบบัวบาน ซึ่งแต่ละกลีบนั้นจะมีการจารึกด้วยอักขระขอม และในส่วนของตรงกลางจะมีลวดลายหัวใจอริยสัจตามด้วยจารึกอักขระที่อ่านว่า “ทุ สะ นิ มะ” ในส่วนของด้านหลังนั้นเราจะสังเกตุได้ว่าจะมีการจารึก “ยันต์เฑาะว์” เอาไว้บริเวณกลางเหรียญและมีรูปของธรรมจักรปรากฏอยู่อย่างชัดเจน จากนั้นในส่วนของชั้นถัดมาจะเป็นลวดลายของพระปิดตาล้อมรอบเอาไว้และชั้นสุดท้ายที่ติดกับริมขอบจะถูกล้อมรอบเอาไว้ด้วยอักขระขอม ซึ่งเป็นเหรียญที่มีความงดงามและปราณีตไม่น้อยและถือได้ว่ามีความทันสมัยมากในยุคนั้น 

ด้วยความงดงามและค่อนข้างมีพุทธคุณอันเป็นเลิศ และเนื่องจากค่อนข้างเป็นที่เลื่องลือทางด้านพุทธคุณอย่างมากจึงทำให้มีการมาสร้างขึ้นเป็นเหรียญรุ่นที่สองในช่วงปีพ.ศ. 2500 ซึ่งจำนวนการสร้างในครั้งนั้นได้ถูกสร้างขึ้นมาประมาณ 4000 เหรียญ แต่ในครั้งนั้นได้มีการตอนขึ้นเพียงพิมพ์เดียวเท่านั้นและเป็นคนพิมพ์ที่มีหูเจาะในตัว 

แต่อย่างไรก็ตามหากใครที่ต้องการมีเหรียญไว้ในบูชาครอบครอง ปัจจุบันอาจหายากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นเหรียญที่ค่อนข้างหายากพอสมควรแต่สำหรับนักสะสมที่พอจะทราบถึงแหล่งบูชาก็อาจจะยังพอจะหาได้บ้าง และในส่วนของราคาก็ไม่น่าจะน้อยนัก ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกำลังและความเชื่อความศรัทธาของท่าน ซึ่งสิ่งสำคัญก่อนที่คุณจะตัดสินใจเช่าบูชานั้นคุณควรพิจารณาจุดสังเกตและเอกลักษณ์เอาไว้ให้ดีควรศึกษาที่มาให้ถี่ถ้วน เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าวัตถุมงคลที่หายากนั้นย่อมมีทั้งแท้และไม่แท้ ดังนั้นจุดใดที่สำคัญเราจึงไม่ควรมองข้าม

ในวันนี้พวกเราทีมงานต้องขอฝากเรื่องราว ประวัติที่มาของ “เหรียญอริยสัจ  หลวงปู่ใจ อินทสุวัณโณ” ของดีแห่งเมืองสมุทรสงคราม   กันไว้แต่เพียงเท่านี้แล้วพบกับพวกเราได้ใหม่ในบทความกันต่อไปนะคะ ขอให้ท่านโชคดีและสนุกไปกับการอ่าน ขอบพระคุณสำหรับการติดตามสวัสดีค่ะ