ประวัติความเป็นมาสุดยอดพระเกจิอาจารย์แห่งเมืองเพชรบุรี “หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ”  

แน่นอนว่าผู้นิยมสะสมพระเครื่องที่กำลังมองหาของดีจากเมืองเพชรบุรี ย่อมนึกถึงสุดยอดพระเกจิอาจารย์ผู้มีนามว่า หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน และในวันนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับ ประวัติความเป็นมาสุดยอดพระเกจิอาจารย์แห่งเมืองเพชรบุรี “หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ” เพื่อให้ท่านผู้อ่านที่ต้องการทราบถึงประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อแดง ได้ทราบข้อมูลกันมากยิ่งขึ้น และถึงแม้ว่าหลวงพ่อแดงท่านจะจากโลกนี้ไปนานแล้ว แต่ยังคงมีลูกศิษย์ลูกหาที่ยังคงระลึกถึงท่านอยู่เสมอไม่เสื่อมคลาย รวมถึงวัตถุมงคลของท่านที่ได้เคยสร้างเอาไว้นั้นยังคงเป็นที่ถามหาอยู่เสมอมาด้วยเช่นกัน เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปพบกับเนื้อหาสาระในครั้งนี้กันเลยดีกว่า

ประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ จังหวัดเพชรบุรี

หลวงพ่อแดงนั้นเดิมทีท่านเป็นคนชาวจังหวัดเพชรบุรีบางข้อมูลระบุเอาไว้ว่าท่านเกิดในวันพุธที่ 17 กันยายนช่วงปีพ.ศ. 2422 และในบางข้อมูลระบุเอาไว้ว่าท่านเกิดในช่วงเดือนเมษายนของปีพ.ศ. 2421 ซึ่งตรงกับปีระกา ซึ่งข้อมูลที่ได้ระบุไว้นั้นไม่ตรงกัน หลวงพ่อแดงนั้นท่านเป็นบุตรของนางนุ่ม อ้น แสง กับในแป้น อ้นแสง มีพี่น้องร่วมบิดามารดาประมาณ 12 คนซึ่งหลวงพ่อแดงนั้นท่านเป็นบุตรคนที่สี่ และท่านคือน้องชายของพระครูปัญญาโชติวัฒน์ ( เจริญ ธมฺมโชติ ) ซึ่งพระพุทธรูปเป็นอดีตเจ้าอาวาสที่วัดทองนพคุณในจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งบิดาและมารดาของหลวงพ่อแดงนั้นนับเป็นบุคคลที่มีบุญวาสนาอย่างมากเนื่องจากมีบุตรชายที่ครองสมณเพศจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตด้วยกันถึงสองรูป 

ทั้งยังได้เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตรทั้งสองรูปด้วยเช่นกันถึงแม้ว่าครอบครัวของท่านจะมีฐานะที่ไม่ได้ร่ำรวยมากแต่ก็เรียกได้ว่าเป็นครอบครัวใหญ่ที่มีความอบอุ่น เลี้ยงลูกอย่างพอมีพอกิน และที่สำคัญคือบิดามารดาของท่านอบรมดูแลลูกอย่างดีเยี่ยมเช่นกัน

จากนั้นบิดาและมารดาของหลวงพ่อแดงท่านก็ได้นำหลวงพ่อแดงไปฝากกลับพระอาจารย์เปลี่ยน ณ วัดเขาบันไดอิฐที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเพชรบุรี  เมื่อหลวงพ่อแดงอายุครบที่สามารถจะบวชได้ ท่านก็ตัดสินใจเข้ารับการอุปสมบทบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ซึ่งตรงกับช่วงปีพ.ศ. 2441 (แต่บางข้อมูลนั้นได้ระบุว่าตรงกับวันที่ 24 เดือนพฤษภาคมในปี 2444 มิใช่ปี 2441) ซึ่งพระผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ให้กับท่านก็คือพระครูญาณวิสุทธิ แห่งวัดแก่นเหล็ก ซึ่งอยู่ในอำเภอเมืองจังหวัดเพชรบุรี และหลวงพ่อแดงก็ได้รับฉายาทางธรรมว่า รตฺโต ซึ่งมีความหมายว่าสีแดง ซึ่งหลวงพ่อแดงท่านก็ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ตลอดมา

หลังจากที่ได้บวชเป็นพระแล้วหลวงพ่อแดงท่านก็ได้ศึกษาเล่าเรียนทางด้านวิปัสสนากรรมฐานไปพร้อมพร้อมกับร่ำเรียนวิชาไสยศาสตร์ซึ่งท่านได้รับการถ่ายทอดจากพระอาจารย์เปลี่ยนซึ่งเป็นพระอาจารย์ของท่านด้วยความขยันมันเพียรจนเรียนสำเร็จวิชา ถัดมาในช่วงปีพ.ศ. 2461 พระอาจารย์เปลี่ยนก็ได้ถึงแก่มรณภาพ สร้างความเศร้าโศกให้กับลูกศิษย์ลูกหารวมถึงหลวงพ่อแดงไม่น้อยซึ่งในขณะนั้นหลวงพ่อแดงท่านก็มีอายุย่างเข้าช่วง 40 ปี และครองพรรษาได้ 20 พรรษาแล้ว ซึ่งท่านก็ได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสแห่งวัดบันไดอิฐ ต่อจากแทนพระอาจารย์เปลี่ยน 

เนื่องจากท่านเป็นผู้ที่มีความเคร่งครัดในการปฏิบัติและค่อนข้างมีความตั้งใจในการศึกษาเล่าเรียนจึงทำให้ท่านมีความสุขทั้งทางด้านวิทยาคมอย่างมากและเป็นที่นับถือสำหรับลูกศิษย์ลูกหาญาติโยมที่อยู่ในละแวกนั้นรวมถึงชาวจังหวัดเพชรบุรี ครั้งหนึ่งซึ่งตรงกับช่วงปีพ.ศ. 2479 ในจังหวัดเพชรบุรีนั้นได้เกิดโรคระบาดจึงค่อนข้างมีความร้ายแรงอย่างมากได้พรากชีวิตวัวควายล้มตายกันไปเป็นจำนวนมากจึงทำให้หลวงพ่อแดงนั้นท่านได้ทำการปลุกเสกผ้ายันต์ที่มีลักษณะเป็นสีแดงขนาดเท่ากับผ้าเช็ดหน้า เพื่อแจกจ่ายให้กับชาวบ้านนำไปผูกไว้ที่บริเวณปลายไม้ไผ่จากนั้นชาวบ้านก็จะนำไม้ไผ่ที่ผูกอย่างนี้ไปปักไว้ตามคอกวัวคอกควายต่างๆ และสิ่งที่น่าอัศจรรย์ก็คือคอกใดที่มีผ้ายันต์นี้แปะอยู่ วัวควายในคอกนั้นก็กลับไม่เป็นโรคติดต่อซึ่งสร้างความเหลือเชื่อให้กับผู้คนเป็นอย่างมากและเรื่องราวนี้จึงทำให้หลวงพ่อแดงยิ่งกลายเป็นที่เคารพศรัทธาและมีชื่อเสียงจนเป็นที่รู้จักกันไปทั่วจังหวัดเพชรบุรี

หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านไปก็มีผู้คนแวะเวียนเข้ามาสักการะและมาขอของดีสำหรับพกติดตัวเอาไว้ป้องกันตัวอยู่อย่างไม่ขาดสายต่อมาหลวงพ่อแดงท่านจึงได้สร้างตะกรุดและทำผ้ายันต์เพื่อนำไว้แจกจ่ายให้กับลูกศิษย์ลูกหา และค่อนข้างเป็นที่ร่ำลืออย่างมากสำหรับผู้ที่พกผ้ายันต์ของหลวงพ่อแดงติดตัวก็มักจะประสบกับเรื่องราวที่เป็นปาฏิหาริย์อยู่เสมอจนกลายเป็นเรื่องเล่าต่อๆกันอย่างมากมายสำหรับแต่ละคนที่มีไว้ในครอบครองบูชา

หลวงพ่อแดงนั้นท่านเป็นพระผู้มีอภิญญาและมีความสามารถอย่างมากอีกทั้งยังมีเมตตาทำสูงมักจะช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากรวมถึงนักสร้างวัตถุมงคลเพื่อคุ้มครองลูกศิษย์ลูกค้าอยู่เสมอ และที่สำคัญคือของขลังและวัตถุมงคลต่างๆที่ท่านได้ทำการสร้างนั้นล้วนแล้วแต่มีพุทธคุณอันเป็นเลิศ จึงไม่แปลกใจเลยว่าในปัจจุบันนี้ยังมีใครหลายคนยังคงตามหาวัตถุมงคลของหลวงพ่อแดง แห่งวัดเขาบันไดอิฐอยู่อย่างเสมอมา 

ถัดมาอีกหลาย 10 ปี หลวงพ่อแดงท่านก็ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ให้เป็นพระครูญาณวิลาศ พร้อมกับรับพระราชทานสัญญาบัตรพัดยศซึ่งตรงกับวันที่ 5 ธันวาคมของช่วงปีพ.ศ. 2502 จึงทำให้ลูกศิษย์ลูกหาของท่านร่วมใจกันทำการฉลองสมณศักดิ์ให้กับท่านในช่วงเวลาถัดมา โดยทำการสร้างเหรียญเพื่อแจกจ่ายให้กับญาติโยมและผู้ที่มาร่วมงาน ซึ่งเป็นเหรียญของหลวงพ่อแดงสำหรับจำนวนการสร้างในครั้งนั้นรวมทั้งหมดมีประมาณ 15,000 เหรียญ 

และท่านได้มรณภาพลงในช่วงปีพ.ศ. 2517 ซึ่งตรงกับวันที่ 16 มกราคมด้วยโรคชราและจากไปอย่างสงบที่วัดเขาบันไดอิฐรวมสิริอายุของท่านได้ 96 ปีและของพรรษาได้ยาวนานถึง 74 พรรษา กินการจากไปของหลวงพ่อแดงนั้นได้สร้างความเศร้าโศกให้กับชาวจังหวัดเพชรบุรีเป็นอย่างมากแต่ถึงแม้ว่าท่านจะจากไปในระยะเวลาหลาย 10 ปีแล้วก็ตามแต่ลูกศิษย์ลูกค้าของท่านก็ยังคงระลึกถึงท่านอยู่เสมอและยังคงมีผู้คนเข้าไปและกราบสักการะ ไหว้ขอพรพระที่วัดเขาบันไดอิฐในจังหวัดเพชรบุรีอยู่อย่างไม่ขาดสาย และหากคุณมีโอกาสก็สามารถเข้าไปไหว้พระทำบุญที่วัดแห่งนี้ได้เช่นกัน

เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐปี 2503

สำหรับเหรียญรุ่นแรกนั้นได้ถูกสร้างขึ้นในช่วงปีพ.ศ. 2503 เนื่องจากที่ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์พัดยศที่พระครูยานวิลาศตั้งแต่ช่วงปี 2502 ลูกศิษย์ลูกหาจึงได้ทำการฉลองสมณศักดิ์ให้กับท่านโดยการสร้างเหรียญรูปเหมือนของท่านโดยทำการขออนุญาตจากท่านก่อนที่จะทำการสร้าง

เป็นเหรียญปั๊มซึ่งมีลักษณะเป็นทรงกลมรูปไข่ถูกสร้างขึ้นทั้งเหรียญเนื้อเงินและเหรียญทองแดง พุทธะลักษณะทางด้านหน้านั้นจะเห็นได้ชัดว่าเป็นรูปจำลองของหลวงพ่อแดงซึ่งอยู่ในลักษณะของการห่มจีวรที่ลดไหล่พาดสังฆาฏิในลักษณะครึ่งองค์ บริเวณด้านล่างของรูปจำลองหลวงพ่อแดงนั้นได้มีการระบุอักษรที่บอกถึงน้ำฐานาด้วยอักษรที่ระบุเอาไว้ว่า  “พระครูญาณวิลาศ (แดง)”  ทางด้านบนริมขอบด้านซ้ายได้ถูกระบุด้วยตัวอักษรเป็นพยัญชนะภาษาไทยและเลขไทยด้วยคำว่า “พ.ศ.๒๕๐๓” และในส่วนของบริเวณริมขอบด้านขวาขององค์พระได้ระบุเป็นตัวอักษรพยัญชนะไทยเช่นกันด้วยคำว่า “ อายุ ๘๒ ปี” 

ในส่วนของพุทธะลักษณะทางด้านหลังจะปรากฏอย่างชัดเจนว่ามียังอยู่ตรงกลางและมีการตัดขอบจากนั้นมีการล้อมรอบด้วยภาษาบาลีล้อมรอบเหรียญ 

ทางด้านพุทธคุณนั้นต้องขอบอกเลยว่ามีความเข้มแข็งอย่างมากหากใครต้องการนำเรียนนี้ขึ้นคอจำเป็นจะต้องอาราธนาและกำกับก่อนทำการสวมคอ ซึ่งแน่นอนว่าจะมีอานุภาพที่เข้มแข็งและมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างมากโดดเด่นทางด้านการปกป้องคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัยอีกทั้งยังมีโชคลาภอยู่เสมอตามความเชื่อ

แล้วกลับมาพบกับพวกเราได้ใหม่ในบทความครั้งต่อไป สำหรับวันนี้ต้องขอฝากเรื่องราว ประวัติความเป็นมาสุดยอดพระเกจิอาจารย์แห่งเมืองเพชรบุรี “หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ” กันไว้แต่เพียงเท่านี้ขอให้คุณโชคดีและมีความสุขร่ำรวยเงินทองในทุกๆวันค่ะ