มาทางฝั่งมหาชัยกันบ้าง และแน่นอนว่าหากเราจะพูดถึงพระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีนามว่าหลวงพ่อเนื่องนั้นคงไม่มีใครไม่รู้จักโดยเฉพาะหากคุณเป็นชาวมหาชัย และในครั้งนี้เราจะพาคุณมาทราบถึง ประวัติความเป็นมาของ “หลวงพ่อรุ่ง (พระครูไพโรจน์วุฒาจารย์) แห่ง วัดท่ากระบือ” สุดยอดพระเกจิอาจารย์ที่เคารพศรัทธาของชาวมหาชัย ! ซึ่งในวันนี้เราจะบอกถึงวัตถุมงคลรวมถึงประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อเนื่องให้คุณได้ทราบและแน่นอนว่าหากคุณคือผู้นิยมสะสมพระเครื่องเป็นเดิมอยู่แล้วคุณจะต้องชื่นชอบกับเนื้อหาสาระที่เราได้นำมาฝากกันในครั้งนี้อย่างแน่นอนค่ะ
ประวัติความเป็นมาหลวง พ่อรุ่งแห่งวัดท่ากระบือ จังหวัดสมุทรสาคร
สำหรับ พระครูไพโรจน์วุฒาจารย์ หรือที่ใครหลายคนมักจะเรียกท่านว่าหลวงพ่อรุ่งแห่งวัดท่ากระบือเดิมทีนั้น ท่านเป็นชาวจังหวัดกรุงเทพมหานคร ไม่ได้เป็นคนชาวมหาชัยอย่างที่ใครหลายคนเข้าใจฉันเกิดในช่วงปีพ.ศ. 2416 จึงตรงกับวันเสาร์เป็นวันแรม แปดค่ำเดือนเก้าซึ่งเป็นปีละกา ท่านเป็นลูกชายของพ่อพ่วง พ่วงประพันธ์ กลับแม่กิม พ่วงประพันธ์ และท่านไม่มีพี่น้องร่วมบิดามารดามีก็แต่น้องต่างมารดาอีกหลายคนซึ่งไม่ได้มีการระบุชื่อเอาไว้ในบันทึก
เมื่อครั้งที่หลวงพ่อรุ่งท่านยังเป็นเด็กทานได้มีโอกาสร่ำเรียนทางด้านภาษาบาลีและได้ร่ำเรียนหนังสือขอมกับหนังสือไทยรวมไปถึงมูลกัจจายน์ ซื่อพระอาจารย์ของท่านก็คือพระอุปัชฌาย์ทับแห่งวัดน้อยนพคุณ ซึ่งก็คือวัดน้อยนพคุณที่อยู่ในเขตดุสิตของจังหวัดกรุงเทพฯนั่นเอง ต่อมาเมื่ออายุ 21 ปีบริบูรณ์หลวงพ่อรุ่งท่านก็ได้ตัดสินใจบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ซึ่งตรงกับช่วงปีพ.ศ. 2437 ที่วัดน้อยนพคุณซึ่งเป็นวัดที่พระอาจารย์ของท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่นั่นเอง ซึ่งวันที่ท่านบวชนั้นตรงกับวันเสาร์ขึ้นหนึ่งค่ำเดือนหกและตรงกับปีมะแม และได้รับฉายาทางธรรมว่า “ติสฺสโร” ซึ่งพระผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ให้ท่านก็คือพระอุปัชฌาย์ทับ และพระผู้เป็นพระกรรมวาจาจารย์ของท่านก็คือพระอธิการบัว แห่งวัดใหม่ทองเสน เขตดุสิตจังหวัดกรุงเทพ และหลังจากที่ท่านบวชได้ประมาณสองวันก็ได้ลาพระอาจารย์และไปจำพรรษาอยู่ที่วัดท่ากระบือ แห่งเมืองมหาชัย
ซึ่งในเวลานั้นวัดท่ากระบือยังเป็นเพียงสำนักสงฆ์ไม่ได้เป็นวัดเหมือนในปัจจุบันซึ่งได้ถูกตั้งขึ้นในช่วงปีพ.ศ. 2430 ขณะที่หลวงพ่อรุ่งท่านไปอยู่ในสำนักสงฆ์ ก็ได้รู้จักกับพพระภิกษุร่วม พันธ์ชาตรีซึ่งท่านเป็นผู้ดูแลสำนักสงฆ์แห่งนี้ ซึ่งในเวลาต่อมาแต่เป็นปีเดียวกันพระภิกษุร่วมก็ได้ลาสิกขาจึงทำให้หลวงพ่อลูกถูกนิมนต์ให้เป็นหัวหน้าสำนักสงฆ์แทน
ด้วยความชื่นชอบด้านการศึกษาเล่าเรียนและแสวงหาความรู้อยู่เสมอ จึงทำให้ท่านตั้งอกตั้งใจที่จะปฏิบัติและเชี่ยวชาญทางด้านวิทยาคมที่ร่ำเรียนมาให้มากยิ่งขึ้น ด้วยความมีเมตตาและชอบช่วยเหลือผู้คนของหลวงพ่อรุ่งจึงทำให้ประชาชนต่างเคารพศรัทธาหลวงพ่อลูกอย่างมาก รวมถึงคุณงามความดีและการวางตัวที่เหมาะสม และนอกจากนี้ท่านยังเป็นพระนักพัฒนาอีกด้วย
หลวงพ่อรุ่งทุ่มเทสติปัญญา รวมไปถึงกำลังกายกำลังใจในการพัฒนาและสร้างสรรค์เสนาสนะ ที่ท่านกำลังจำพรรษาอยู่ให้มีความเจริญรุ่งเรือง เนื่องจากหลวงพ่อรุ่งนั้นท่านเป็นที่เคารพศรัทธาของบุคคลในละแวกนั้นอย่างมาก ดังนั้นเมื่อหลวงพ่อรุ่งท่านต้องการสร้างความเจริญให้กับสำนักสงฆ์แห่งนี้ก็ย่อมมีมีผู้มีจิตศรัทธาคอยให้ความร่วมมืออยู่เสมอ ซึ่งจากเดิมนั้นสำนักสงฆ์แห่งนี้มีเพียงกุฎิที่พออยู่ได้ไม่กี่หลัง แต่เมื่อหลวงพ่อรุ่งได้เข้าไปดูแลสำนักสงฆ์แห่งนี้ก็ได้เปลี่ยนไปเป็นวัดที่มีความเจริญรุ่งเรืองอีกทั้งยังมีความกว้างใหญ่มากกว่าเดิมซึ่งในปัจจุบันนี้วัดท่ากระบือยังเป็นวัดที่ผู้คนให้ความสนใจและมักจะเข้าไปกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่อย่างไม่ขาดสาย และแน่นอนว่าหลวงพ่อรุ่งนั้นเป็นที่เคารพศรัทธาอย่างมากของชาวเมืองมหาชัย ที่เมื่อเอ่ยถึงท่านแล้วคงไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก
ในช่วงเวลาที่หลวงพ่อรุ่งยังมีชีวิตอยู่นั้นท่านได้ส่งเสริมการศึกษาให้กับกุลบุตรและประชาชนอย่างมากรวมถึงก่อสร้างและพัฒนาจัดการบริหารคณะสงฆ์อย่างเคร่งครัดและนอกจากนี้ยังได้ทำการสร้างพระอุโบสถขึ้นมาถึงสองครั้งด้วยกันเป็นจำนวนสองหลังอีกทั้งยังได้สร้างพระวิหารถึงสองหลัง และนอกจากนี้ยังมีเสนาสนะต่างๆอีกมากมาย ซึ่งยังไม่หมดเพียงเท่านี้เพราะหลวงพ่อรุ่งท่านยังได้สร้างหอพระไตรปิฎกสามมุก, ศาลาสามมุกขอสวดมนต์กุฎิ 31 หลัง, ศาลาการเปรียญ, โรงเรียนประชาภิบาล, และหอเรียนปริยัติธรรมอีกด้วย เรียกได้ว่าความเจริญต่างๆที่นำมาสู่วัดท่ากระบือนั้นไม่ได้เป็นการเรี่ยไรปัจจัยจากนอกวัดเลย แต่ความเจริญเหล่านี้มาจากผู้ที่มีจิตศรัทธาและเคารพนับถือหลวงพ่อรุ่ง ที่ส่งเสริมการสร้างบุญทำทานด้วยใจของญาติโยมเช้ามหาชัยและจากสถานที่อื่นๆจากใจ
หลวงพ่อลูกท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ในช่วงปี 2474 จากนั้นก็ได้ครับตำแหน่งพระครูชั้นประทวนในช่วงปี 2482 ถัดมาก็ได้รับตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอกระทุ่มแบนในช่วงปี 2483 และถัดมาในช่วงปี 2489 ท่านก็ได้รับตำแหน่งพระครูไพโรจน์มันตาคมชั้นโท ตามด้วยตำแหน่งพระครูไพโรจน์มันตาโทชั้นเอก ในช่วงปี2494. และได้รับตำแหน่งพระราชาคณะมีราชทินนามเดิมว่า พระไพโรจน์วุฒาจารย์ในช่วงปี 2499 ซึ่งแน่นอนว่าหลวงพ่อรุ่งท่านเหมาะสมในการรับตำแหน่งอย่างมากเนื่องด้วยคุณงามความดีและการปฏิบัติอย่างเคร่งครัดของท่าน
ที่เป็นไปตามระเบียบของพระธรรมมาวินัยกับคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมประชาชนและผู้คนทั่วประเทศจึงรู้จักท่านและเคารพศรัทธาท่านอย่างมาก เนื่องจากท่านเป็นพระพูดเปลี่ยนไปด้วยความเมตตาต่อสรรพสัตว์และต่อผู้คนอยู่เสมอท่านมักจะช่วยคนตกทุกข์ได้ยาก ซึ่งหลวงพ่อรุ่งนั้นท่านเป็นผู้อ่อนน้อมถ่อมตนและมีความมักน้อยซึ่งในช่วงหลังหลวงพ่อรุ่งท่านได้หันฉันเพียงหนึ่งมื้อเท่านั้น ซึ่งท่านทำอย่างนี้ไปจนตลอดชีวิต
ท่านในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้นเรียกได้ว่าอุทิศตนให้กับพุทธะศาสนาอย่างแท้จริงเลยก็ว่าได้และเป็นผู้ที่ไม่หยุดการแสวงหาความรู้เพราะท่านมักจะชอบความรู้และทราบเรื่องใหม่ใหม่อยู่เสมออีกทั้งยังเจริญสมถะวิปัสสนากรรมฐานและปฏิบัติอย่างเคร่งครัดนอกจากนี้ท่านยังได้มีโอกาสศึกษาทางด้านวิปัสสนากรรมฐานกับพระอาจารย์เกิดแห่งวัดกำแพงกรือวัดสุนทรสถิต ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอบ้านแพ้วของจังหวัดสมุทรสาครอีกด้วย
เมื่อได้ศึกษาก็ทำให้หลวงพ่อรุ่งท่านเกิดความแตกฉานทางด้านวิปัสสนากรรมฐาน และโดยปกติท่านก็มักจะปฏิบัติอยู่อย่างเสมอและแทบจะตลอดเวลาอีกด้วย ด้วยการปฏิบัติที่เคร่งครัดจึงทำให้หลวงพ่อรุ่งนั้นมันเป็นผู้มีอำนาจจิตอันสูงและสามารถสร้างวัตถุมงคลที่มีความเข้มแข็งอันมีพุทธานุภาพสูงจนกลายเป็นที่เรื่องลือได้ด้วยเช่นกัน
และนอกจากจะได้มีโอกาสศึกษากับพระอาจารย์เกิดแห่งวัดกำแพงแล้ว ท่านยังมีโอกาสได้ศึกษากับพระอาจารย์กล่ำแห่งวัดอ่างทอง ที่อำเภอกระทุ่มแบน และได้มีโอกาสศึกษากับพระอาจารย์เซ็งแห่งวัดหงส์อรุณรัศมี ในอำเภอเมืองของจังหวัดสมุทรสาครด้วยเช่นกัน ซึ่งหลวงพ่อรุ่งนั้นได้มีโอกาสร่ำเรียนวิชามหาอุดและวิชาคงกระพันจากพระอาจารย์เซ่งผู้นี้
ได้พาคุณมาทราบถึงเรื่องราวของ ประวัติความเป็นมาของ “หลวงพ่อรุ่ง (พระครูไพโรจน์วุฒาจารย์) แห่ง วัดท่ากระบือ” สุดยอดพระเกจิอาจารย์ที่เคารพศรัทธาของชาวมหาชัย ! กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วอย่างไรก็ตามสามารถกลับมาพบกับพวกเราได้ใหม่ในบทความครั้งต่อไปนะคะ สำหรับวันนี้ต้องขออนุญาตลากันไปก่อนเพราะขอบพระคุณสำหรับในทุกๆการติดตามอ่านจากท่านผู้อ่านทุกๆท่านอย่างเสมอมาขอให้คุณโชคดีร่ำรวยเงินทองและมีความสุขสุขภาพแข็งแรงในทุกๆวันนะคะ
