ความเป็นมาของสุดยอดพระเกจิแห่งอีสานใต้  “หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง” แห่ง จังหวัด อุบลฯ ! 

จัดอันดับพระเครื่อง

หัวข้อ

หากถามถึงสุดยอดพระเกจิอาจารย์ของทางฝั่งดินแดนอีสานใต้คงมีหลายคน ที่จะต้องมีชื่อของหลวงปู่รอด แห่งวัดทุ่งศรีเมืองอยู่ในหัวเป็นอันดับต้นๆกันอย่างแน่นอน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้วันนี้เราจะมาเล่าถึง ความเป็นมาของสุดยอดพระเกจิแห่งอีสานใต้  “หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง” แห่ง จังหวัด อุบลฯ !  ให้คุณได้ทราบกันในครั้งนี้ ซึ่งเราเชื่อว่าเราบรรดาผู้ที่เคารพศรัทธาหลวงปู่รอดนั้นจะต้องถูกใจกันอย่างแน่นอน อีกทั้งเรายังเชื่อว่าประวัติโดยละเอียดของท่านอาจจะยังไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนักและในครั้งนี้ก็เป็นโอกาสดีๆที่เราได้นำข้อมูลต่างๆมาฝากคุณ ดังนั้นเราอย่าเสียเวลารอกันอยู่เลยเราไปชมรายละเอียดที่น่าสนใจพร้อมๆกันได้เลยดังต่อไปนี้

ประวัติความเป็นมาหลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราชธานี

ความเป็นมาของสุดยอดพระเกจิแห่งอีสานใต้  “หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง” แห่ง จังหวัด อุบลฯ ! 

สำหรับหลวงปู่รอด หรือในนามของพระครูวิโรจน์รัตโนบล ไอ้วัดทุ่งศรีเมืองในจังหวัดอุบลราชธานีนั้น เดิมทีท่านเป็นคนชาวจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งท่านเกิดอยู่ในอำเภอเมืองอะไรตำบลเมือง ของจังหวัดอุบลราชธานีตั้งแต่ช่วงปีพ.ศ. 2396 เป็นบุตรของนายบุดดีและเป็นบุตรของนางดา ตั้งแต่เดิมนั้นหลวงปู่รอดท่านเป็นผู้ที่มีนิสัยสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน หลวงปู่รอดท่านได้บวชเป็นสามเณรตั้งแต่ที่ยังเยาว์วัย เป็นผู้ไฟศึกษาเล่าเรียนและหาความรู้อยู่เสมอ ตั้งแต่ครั้งที่ยังเป็นสามเณรหลวงปู่รอดท่านก็ได้ศึกษาเล่าเรียนทางด้านวิชาอักษรขอมลาวและไทยรวมทั้งได้ศึกษาเล่าเรียนทั้งด้านวิชาการช่าง ณสำนักราชณบรรเทาเป็นการศึกษาแบบเบื้องต้น แต่หลวงปู่รอดท่านก็เป็นผู้มีความพยายามและชาญฉลาดทางด้านวิชาความรู้ที่ได้เล่าเรียน

จากนั้นเมื่อสามารถบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ได้ ท่านก็เข้ารับอุปสมบทที่วัดป่าน้อย ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอุบลราชธานีเช่นกันแต่ในปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็น “วัดมณีวนาราม” ซึ่งในครั้งนั้นพระที่เป็นพระอุปัชฌาย์ของท่านก็คือท่านอธิการจันลา และพระที่เป็นพระกรรมวาจาจารย์ในครั้งนั้นก็คือพระอาจารย์ดำ ส่วนพระผู้เป็นพระอนุสาวรีย์อาจารย์ก็คือพระอาจารย์ดี หลังจากที่ได้บวชเป็นพระพิสุสองแล้ว ท่านก็ได้เข้าจำพรรษาอยู่ที่วัดทุ่งศรีเมืองในจังหวัดอุบลราชธานี 

ความเป็นมาของสุดยอดพระเกจิแห่งอีสานใต้  “หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง” แห่ง จังหวัด อุบลฯ ! 

ความเชี่ยวชาญที่เป็นเลิศของหลวงปู่รอดนั้นก็คือความปราดเปรื่องทางด้านไสยเวทย์และวิปัสสนาธุระ และสิ่งที่น่าแปลกใจก็คือท่านมีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านก่อสร้างอย่างมากซึ่งยากที่พระรูปอื่นในยุคเดียวกันจะมี อีกทั้งหลวงปู่รอดนั้นท่านยังมีความเคร่งครัดต่อการปฎิบัติตามหลักพุทธศาสนาอย่างเป็นนิจ และดำรงตนไปตามครรลองศีลแห่งพระธรรมมวินัย ท่านเป็นพระผู้รักสันโดษและมีเมตตาต่อมวลมนุษย์อย่างมาก หลวงปู่รอดให้การอบรมสั่งสอนผู้คนทุกกลุ่มชั้นโดยไม่เลือกชั้นวรรณนะ ไม่ว่าจะเป็นคนรวยคนจนหลวงปู่รอดก็ให้การสั่งสอนในเรื่องของธรรมะอย่างเท่าเทียมกันขึ้นอยู่กับผู้ใดจะมีความเลื่อมใสศรัทธามากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับผู้นั้น 

ทั้งยังเป็นพระนักพัฒนาที่นำให้วัดทุ่งศรีเมือง มีการพัฒนาและเจริญรุ่งเรืองจนกลายเป็นที่รู้จักกันในหลักหลายจังหวัดของยุคนั้น นอกจากนี้พุทธะศาสนิกชนก็ได้ให้การขนานนามแก่ท่านว่า “หลวงปู่ดีโลด” ซึ่งเป็นภาษาอีสานที่มีความหมายว่าทุกอย่างของหลวงปู่นั้นดีไปหมด และอีกหนึ่งที่มาก็คือทุกครั้งเวลาที่หลวงปู่ท่านจะฟังใครพูดหรือจะพูดอะไรก็ตามหลวงปู่มักจะพูดแต่คำว่า “ดีๆ” แม้กระทั่งคำอุทานที่หลวงปู่ท่านมักจะเปล่งออกมาก็ยังคงเป็นคำนี้ ซึ่งตามคำพื้นเมืองของภาษาอีสานในจังหวัดอุบลก็จะหมายความว่า “ดีเลย” ประมาณนั้น

ความเป็นมาของสุดยอดพระเกจิแห่งอีสานใต้  “หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง” แห่ง จังหวัด อุบลฯ ! 

หลวงปู่รอดนั้นเป็นพระผู้ประพฤติและปฏิบัติตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนามาโดยตลอดจนเป็นที่เคารพศรัทธาของเหล่าบรรดาพุทธศาสนิกชนโดยเฉพาะชาวจังหวัดอุบลราชธานีไปจนถึงเมืองนครพนม ซึ่งน่าแปลกใจว่าจังหวัดอุบลราชธานีนั้นเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในดินแดนอีสานใต้ แต่จังหวัดนครพนมนั้นเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในแดนอีสานเหนือ แต่หลวงปู่รอดท่านยังคงเป็นที่เคารพเลื่อมใสของเหล่าบรรดาชาวอีสานทั้งแดนเหนือและแดนใต้ได้ รวมถึงมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วสารทิศและเป็นเกจิที่เคารพศรัทธาของชาวอีสาน

ท่านได้รับสมณศักดิ์อย่างเสมอมาตามลำดับ ซึ่งสามารถระบุได้ดังนี้หลวงปู่รอดท่านได้เป็นเจ้าคณะแขวงอยู่ในอำเภอม่วงสามสิบ ต่อมาท่านก็ได้รับสมณศักดิ์ให้เป็นพระครูอุดรพิทักษ์คณะเดช , จากนั้นในหลายปีต่อมาหลวงปู่รอดก็ได้สมณศักดิ์ว่าเป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้นได้รับสมณศักดิ์ให้เป็น  พระครูวิโรจน์รัตโนบล และเป็นเจ้าคณะของจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นตำแหน่งสุดท้ายของท่าน ในช่วงปีพ.ศ. 2484 หลวงปู่รอดก็ได้มรณภาพลง ซึ่งท่านครองพรรษาได้นานถึงพรรษาที่ 68 และมีสิริอายุได้ 88 ปี ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่ค่อนข้างสร้างความโศกเศร้าให้กับลูกศิษย์ลูกหาทั่วทั้งประเทศไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือชาวจังหวัดอุบลราชธานีและชาวจังหวัดนครพนม 

หลวงปู่รอดผู้เป็นประธานพิธี บูรณะซ่อมแซม พระธาตุพนมจังหวัดนครพนม

ความเป็นมาของสุดยอดพระเกจิแห่งอีสานใต้  “หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง” แห่ง จังหวัด อุบลฯ ! 

และหลังจากที่หลวงปู่รอดท่านได้มรณภาพแล้วเราพุทธะศาสนิกชนที่เคารพศรัทธาในท่านก็ได้ร่วมใจกันสร้างเจดีย์ สำหรับบรรจุอัฐิของหลวงปู่รอดเอาไว้ณวัดทุ่งศรีเมืองที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอุบลราชธานีอีกทั้งยังได้มีการร่วมใจกันสร้างรูปเหมือนเอาไว้ที่บริเวณฐานขององค์พระธาตุพนมด้วยเช่นกัน สำหรับการสร้างรูปเหมือนเอาไว้นั้นก็เพื่อเป็นการจารึกถึงประวัติและเป็นอนุสรณ์ที่ทำให้เราปวงชนระลึกถึงคุณงามความดีของหลวงปู่รอด ทางด้านผลงานที่หลวงปู่รอดท่านได้สร้างชื่อเสียงเอาไว้จนกลายเป็นที่รู้จักของใครหลายคนทั่วประเทศก็คือ เมื่อครั้งที่ท่านได้เป็นประธานสำหรับการบูรณะซ่อมแซมพระธาตุพนมในจังหวัดนครพนมนั่นเองซึ่งในขณะนั้นเป็นช่วงปีพ.ศ. 2483 ซึ่งพระธาตุพนมมีความเก่าแก่และทรุดโทรมมาก ซึ่งปีที่บูรณะนั้นเป็นหนึ่งปีก่อนที่ท่านจะมรณภาพลง แต่ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลทางการบูรณะปฏิสังขรณ์ก็คือหลวงวิจิตรวาทาก กล่าวมาถึงจุดนี้จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมชาวจังหวัดนครพนมถึงเคารพศรัทธาหลวงปู่รอดมากนัก

วัตถุมงคล “หลวงปู่รอด”

ความเป็นมาของสุดยอดพระเกจิแห่งอีสานใต้  “หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง” แห่ง จังหวัด อุบลฯ ! 

สำหรับการจัดสร้างเหรียญรูปเหมือนหลวงปู่รอดนั้น ได้ทำการจัดสร้างขึ้นโดยหลวงวิจิตรวาทาการซึ่งท่านมีความเคารพศรัทธาหลวงปู่รอดเป็นเดิมอยู่แล้วอีกทั้งยังเป็นผู้ดูแลทางด้านของการบูรณะปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุพนม จึงได้ขออนุญาตหลวงปู่รอดเพื่อทำการสร้างเหรียญขึ้นมาเป็นที่ระลึก และหลวงปู่รอดท่านก็ได้ทำพิธีปลุกเสกด้วยตัวท่านเองซึ่งเหรียญที่ได้ถูกจัดสร้างในครั้งนั้นมีด้วยกันถึงสองแบบซึ่งก็คือ “เหรียญพระธาตุพนมช่วยชาติ” และ “เหรียญรูปเหมือนหลวงปู่รอด” เมื่อทำการจัดสร้างเสร็จแล้วก็ได้ทำการมอบเหรียญรูปเหมือนของหลวงปู่รอดนั้นให้กับทางวัดทุ่งศรีเมืองในจังหวัดอุบลราชธานีและได้ทำการมอบเหรียญพระธาตุพนมช่วยชาติให้กับทางพระธาตุพนมเพื่อนำมาแจกให้กับผู้ที่มีจิตศรัทธาในการบริจาคซับเพื่อร่วมกันซ่อมแซมองค์พระธาตุพนม 

ความเป็นมาของสุดยอดพระเกจิแห่งอีสานใต้  “หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง” แห่ง จังหวัด อุบลฯ ! 

ถือเป็นเรื่องราวดีๆและทำให้ผู้คนในยุคนั้นร่วมใจกันบูรณะพระธาตุพนม จนทำให้พวกเราลูกหลานรุ่นหลังได้ ยังคงมีวาสนาได้เห็นความงดงามขององค์พระธาตุพนมมาจนถึงปัจจุบัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการบูรณะปฏิสังขรณ์พระธาตุพนมนั้นจะจบสิ้นด้วยในเวลาอันรวดเร็วเนื่องจากยังคงมีอุปสรรคนานัปการให้เราบรรดาทีมงานได้ร่วมมาเชิญแต่ด้วยความวิริยะอุตสาหะของหลวงปู่รอดที่ได้ตั้งปณิธานเอาไว้เพราะทำให้การบูรณะก็สามารถสำเร็จได้ในที่สุด จึงสร้างความปิติอย่างยิ่งให้กับพุทธศาสนิกชนในยุคนั้นอย่างมาก และข้าพเจ้าที่กำลังเขียนบทความนี้อยู่ในขณะนี้ก็ซึมซับถึงความปิตินั้นเช่นเดียวกัน 

ความเป็นมาของสุดยอดพระเกจิแห่งอีสานใต้  “หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง” แห่ง จังหวัด อุบลฯ ! 

แล้วพบกันใหม่กับบทความในครั้งต่อไปนะคะสำหรับวันนี้ต้องขออนุญาตลากันไปกับบทความ ความเป็นมาของสุดยอดพระเกจิแห่งอีสานใต้  “หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง” แห่ง จังหวัด อุบลฯ !  นี้ ขอให้ท่านมีความสุขไปกับสาระที่เราได้นำมาฝาก ขอให้พระคุ้มครองและขอให้สุขภาพของท่านแข็งแรงปลอดภัยจากโรคไข้เจ็บตลอดปีตลอดไป 

Poster 24
Poster 24

ผู้คว่ำหวอดในวงการพระเครื่องในประเทศไทย

Facebook
Twitter